ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 67

การสนทนารอบข้างดังขึ้น

“นี่เป็นการแสดงฝึกม้าหรือ พูดไป บรรพบุรุษตงเสวียนของพวกเราพิชิตทั้งโลกได้บนหลังม้า การแสดงฝึกม้านี่ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ขาดไม่ได้เลย”

“ใช่แล้ว การแสดงนี้เป็นการแสดงที่ดูเมื่อไรก็ไม่เบื่อ คณะการแสดงม้านี้สมกับที่องค์ชายสามต้องตาจริง ๆ แม้ว่าม้าที่หามานั้นจะดูแก่ไปบ้าง แต่พลังที่ดื้อรั้น ไม่ยอมเชื่องง่าย ๆ เช่นนี้ ช่างน่าตื่นเต้นจริงๆ”

บนจัตุรัส เมื่อคนเหล่านั้นเห็นว่าม้าดำตัวนี้ไม่ยอมให้ง่าย ๆ ก็หยิบแส้ยาวออกมา และฟาดลงไปที่ม้าศึกนี้อย่างรุนแรง

“ป้าบ!”

ม้าศึกเดิมทีเมื่อเห็นว่าไม่มีใครเข้ามาใกล้ จึงได้ยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเขยื้อน เมื่อแส้นั้นถูกฟาดลงไป ก็มีรอยเลือดแดง ๆ ไหลออกมาจากช่วงลำคอของมันทันที!

ฉู่เชียนหลีแววตาเย็นชาขึ้นมาทันที ตะโกนออกไปด้วยเสียงที่น่าเกรงขาม “หยุดเดี๋ยวนี้!”

หากนางไม่ได้ช่วยท่านลุงกับท่านผู้พี่ถอนพิษไว้ก่อนหน้านี้ ตามสภาพร่างกายก่อนหน้านี้ เมื่อได้เห็นโม่เฟิงถูกตีอย่างรุนแรง หรืออาจถูกฆ่าไปตรงนั้น แน่นอนว่าคงรับแรงกระตุ้นเช่นนี้ไม่ได้!

เมื่อสิ้นเสียง ม้าศึกบนจัตุรัสราวกับรู้สึกได้ว่ามีอะไรมากระตุ้น จึงได้ยกขาหน้าขึ้นสูง แล้วกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

“ฮี้!”

องค์ชายสามรีบเข้ามาป้องกันด้านของจักรพรรดิ ตะโกนออกมาด้วยความกังวล

“คุ้มกัน ม้านั่นตกใจ พยศ รีบฆ่ามันทิ้งเดี๋ยวนี้!”

เหล่าทหารรักษาพระองค์ได้ยินเช่นนั้น ก็รีบหยิบดาบออกมาจากฟัก โจมตีเข้าไปที่ม้าศึกสีดำตัวนั้น

วินาทีต่อมา ร่างสีแดงราวกับเปลวเพลิงก็ลอยข้ามฟ้าไป นางถือผ้าไหมสีแดงที่ถูกฉีกขาด แล้วตวัดไปทางคนเหล่านั้น

ผ้าไหมสีแดงนั้นนุ่มดุจน้ำในลำธาร แต่เมื่ออยู่ในมือนางแล้ว กลับกลายเป็นอาวุธที่แข็งแกร่งแห่งทวยเทพ เมื่อทหารรักษาพระองค์ถูกผ้าผืนนั้นตวัดเข้าหาต่างก็ล้มลงไปกับพื้น

ฉู่เชียนหลี!

ผ้าไหมสีแดงในมือของนาง ชุดสีแดงราวกับเปลวเพลิงที่ลุกโชน แต่ดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นกลับส่งประกายยิ่งกว่าเสื้อผ้าสีแดงเสียอีก

“โม่เฟิง!”

นางตะโกนออกมาเสียงดัง ด้วยความหวังว่าเจ้าโม่เฟิงจะหยุดคลั่ง

แต่โม่เฟิงกลับเหมือนกับว่าไม่ได้ยิน ยังคงพุ่งชนซ้ายทีขวาทีเช่นนั้น

องค์ชายสามสีหน้าตึงเครียด ตะโกนเสียงเย็นชา “ฉู่เชียนหลี ม้าตัวนี้มันคลั่งจะเข้ามาทำร้ายเสด็จพ่อ เจ้ากลับปกป้องมัน หมายความเช่นไรกันแน่?”

ฉู่เชียนหลีแววตาเยือกเย็นดุจน้ำแข็ง

“องค์ชายสาม ม้าตัวนี้คือโม่เฟิงม้าคู่กายของท่านลุงของข้า เคียงข้างท่านลุงรบเคียงบ่าเคียงไหล่ ทันทีที่เข้าสู่สนามรบ หากจะเรียกว่ามันคือวีรบุรุษก็หาได้เกินจริงไม่! ในวันนี้ ท่านกลับสั่งให้สังหารวีรบุรุษ ต้องเป็นข้าหรือไม่ที่ควรถามว่าท่านหมายความว่าอย่างไร?”

“โม่เฟิง? ม้าศึกต่างก็ผ่านการฝึกฝนที่เข้มงวด ม้าคู่กายของใต้เท้าซูเมื่อเรียกแล้วก็ควรหยุด แต่เจ้าม้าตัวนี้ เมื่อครู่นี้เจ้าก็ได้เรียกไปแล้ว มันมีปฏิกิริยาเล็กน้อยต่อชื่อนี้สักนิดหรือไม่?” หยุนชิงกุยตะโกนถาม

ฉู่เชียนหลีรู้สกว่ามีอะไรไม่ถูกต้อง รีบเข้าไปใกล้ ๆ โม่เฟิง ต้องการควบคุมมันให้ได้ก่อนที่เหล่าทหารรักษาพระองค์จะล้อมวงโจมตีต่อ

แต่ว่าพลังวิญญาณที่ไม่เคยติดขัดของนาง ในเวลานี้มันเหมือนกับว่าอยู่ดี ๆ มันก็ไร้ผลเสียอย่างนั้น โม่เฟิงยังคงคลั่งต่อไป ไม่ยอมให้นางได้เข้าใกล้ง่าย ๆ

“โม่เฟิง? โม่เฟิง!”

ฉู่เชียนหลีกรีดร้องด้วยเสียงสูง แต่เจ้าม้าศึกสีดำตัวนี้กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบรับอะไรเช่นเคย

ท่านลุงไม่มีทางจำคู่หูของตนเองผิดแน่ ๆ เช่นนั้นโม่เฟิงมีปัญหาตรงไหนกันแน่?

องค์ชายสามตะโกน “ฉู่เชียนหลี เจ้าหยุดยื้อเวลาได้แล้ว หากไม่หลบไป เพื่อความปลอดภัยของเสด็จพ่อ ข้าจะสั่งให้เจ้าถูกฆ่าทันทีในฐานะกบฏ!”

ฮ่องเต้สายตาเคร่งขรึมมองไปทางองค์ชายสามที่กำลังทำอะไรเกินจำเป็นอยู่ แต่กลับไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกไปในทันที

ข้าราชบริพารต่างก็พากันคุกเข่าลง

“ฝ่าบาท เพื่อความปลอดภัยของท่าน เชิญท่านย้ายไปในตำหนักก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คนมากมายเช่นนี้ หากไม่สามารถปกป้องเจิ้นไว้ได้ เช่นนั้นจะยังเลี้ยงไว้เพื่ออะไรกันเล่า?”

คนอื่น ๆ ต่างพากันชะงักพูดไม่ออกไปตาม ๆ กัน

หยุนชิงกุยรู้ว่าตนร้อนใจเกินไป แต่เมื่อขึ้นหลังเสือแล้วจะให้ลงก็ยาก เขาจำต้องบังคับให้ฉู่เชียนหลีทำเรื่องที่ไม่เข้าท่ามากกว่านี้ เช่นนั้นถึงจะสามารถกดนางเอาไว้ได้ และลงโทษนางได้!

“ฉู่เชียนหลี ข้าจะนับแค่ถึงห้า เจ้าหลบไป ไม่เช่นนั้น อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้า ห้า...”

ฉู่เชียนหลีไม่ได้สนใจหยุนชิงกุยแม้แต่น้อย สายตานั้นรีบประเมินไปที่โม่เฟิง เมื่อเห็นแผลสดที่ถูกเฆี่ยนบนตัวของมัน ดวงตาของนางก็รี่ลงในทันที

บนแผลนั้นมียาพิษที่ทำให้ม้าคลั่งอยู่ด้วย!

ถึงว่าโม่เฟิงถูกเฆี่ยนไปหนึ่งครั้ง ก็เกิดคลั่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี