ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 77

สีหน้าของฉู่เชียนหลีดูสับสน สายตาจ้องไปข้างหน้าเหมือนวิญญาณหลุดออกจากร่าง แต่เวลาลงมือกลับไม่มีความลังเลแม้แต่นิดเดียว

“ให้ไม่ได้ ให้ของของอาจารย์ไม่ได้!”

“เพี๊ยะ!”

แส้เส้นยาวถูกนางฟาดออกมาจนทิ้งภาพติดตา

ซุนยู่จือกุมใบหน้าส่งเสียงร้องคร่ำครวญไม่หยุด ในส่วนลึกของแววตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวที่บริสุทธิ์

นางเสียโฉมแล้ว!

“นางแพศยาฉู่เชียนหลี!”

“เพี๊ยะ!”

แส้เส้นยาวฟาดลงบนแผ่นหลังของซุนยู่จือ ฟาดจนผิวหนังของนางปริ

นางไม่มีทักษะศิลปะการต่อสู้ ต่อต้านไม่ได้ ทำได้แต่หนีไปหลบหลังของนางอู๋และฉู่หลิงเซวียน

คราวนี้ ตรงตามความต้องการของฉู่เชียนหลีพอดี

“เพี๊ยะ!”

“เพี๊ยะ!”

“เพี๊ยะ!”

แส้จู่โจมใส่พวกนางทั้งสามคนอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดเสียงกรีดร้องไม่รู้จบ

ซุนยู่จือยังดีที่สามารถหลบได้ นางอู๋เดิมทีก็มีอาการบาดเจ็บอยู่แล้ว คราวนี้ต้องการกลิ้งก็ไม่สามารกลิ้ง ทำได้แต่พยายามขดตัวให้มากที่สุด แหกปากร้องคร่ำครวญไม่หยุด

โดยเฉพาะฉู่หลิงเซวียนอยู่ในความดูแลเป็นพิเศษ จงใจฟาดใส่หมวกไม้ไผ่ที่ปิดบังใบหน้าของนางจนหลุด เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยผื่นสีแดง

“อ๊าก! ท่านแม่ ช่วยข้าด้วย!”

นางอู๋รีบตะโกนเรียกคน “ใครก็ได้ รีบมาหยุดฉู่เชียนหลี!”

เฟิ่งเสวียนตู้หันหน้าไปส่งสัญญาณ เทียนซูและเทียนเสวียนรีบหาคนไปปิดล้อมหน้าบ้านทันที ขวางคนของตระกูลอู๋และฉู่ไว้ด้านนอก

เฟิ่งเสวียนตู้กวาดสายตามองนางอู๋และคนอื่นอย่างไม่เห็นด้วย พูดเตือนด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“เสียงเบาหน่อย ถ้ารบกวนโดนเชียนหลี พวกเจ้าชดใช้ไม่ไหว”

เสียงของเฟิ่งเสวียนตู้ดังออกมา นางอู๋และฉู่หลิงเซวียนที่ถูกฟาดจนล้มลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้นเหมือนกับน้ำเต้าแทบจะกระอักเลือด

ตกใจ?

ตกลงใครกันแน่ที่กำลังตกใจ?

จนกระทั่งระบายอารมณ์จนหมด ท่าทางของฉู่เชียนหลีอึ้งอีกครั้ง สายตาดูกลับมามีสติมากขึ้น สีหน้ากลับซีดขาวมาก

นางยกมือขึ้นกุมศีรษะ ในระหว่างที่หันหลัง กะพริบตาใส่ซูยี่และซูจิ่นจือ ตรงมุมปากเผยให้เห็นรอยยิ้ม

ซูยี่มองภาพนี้ด้วยความอึ้ง ผ่านไปสักพัก กุมหน้าอกของตนเองด้วยท่าทางที่อ่อนแอ พูดด้วยความเป็นห่วง

“โถ ต้องเป็นเพราะเชียนหลีตกใจจนสติแตกแน่”

ซูจิ่นจือตั้งสติได้ ยืนพยักหน้าอย่างหนักแน่นที่ด้านข้าง

“อืม!”

สะใจ!

น้องเชียนหลี ทำได้ดีมาก!

ฉู่เชียนหลีโยนแส้ทิ้ง ถามด้วยความตกตะลึง

“ทำไมข้าถึงรู้สึกปวดหัวเช่นนี้? เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น? ว๊าย พวกเจ้าเป็นอะไรไป?”

นางอู๋ทั้งสามคนที่มีรอยแส้เต็มร่างกายล้มอยู่บนพื้น ชุดกระโปรงที่หรูหราเปื้อนไปด้วยฝุ่น เหลือเพียงสภาพที่สะบักสะบอม

เซินเป่ารีบก้าวออกไปประคองแขนของฉู่เชียนหลี ช่วยนางเก็บแส้

“ท่านแม่ ท่านไม่ต้องกลัว ไม่เป็นไร เซินเป่าอยู่เป็นเพื่อนท่าน”

ฉู่เชียนหลีเก็บแส้ หลังจากนั้นอุ้มเซินเป่าขึ้นมา มองไปทางนางอู๋ทั้งสามคนที่อยู่บนพื้นด้วยสายตากระสับกระส่าย

ในขณะเดียวกัน นางโคจรพลังทิพย์ ยาหมีหลี่เซียงที่ร่ายล้อมรอบตัวของซุนยู่จือถูกพลังทิพย์เปลี่ยนเป็นรุ่นที่แรงกว่า พุ่งเข้าไปในโพรงจมูกของฉู่หลิงเสวียนโดยตรง

ทันทีที่ฉู่หลิงเซวียนได้กลิ่นหอม สติสัมปชัญญะของนางหายไปทันที กระโดนลุกขึ้นพร้อมกับคว้าก้อนหินที่อยู่บนพื้นขว้างไปทางฉู่เชียนหลีอย่างกะทันหัน

“นางแพศยา! เจ้ากล้าทำร้ายข้า?”

“เจ้า……พวกเจ้าทำอะไร? อาศัยตัวเองมียศบรรดาศักดิ์ รังแกหญิงหม้ายลูกกำพร้าอย่างพวกข้าเหรอ?”

ฉู่เชียนหลีอุ้มเซินเป่าก้าวถอยหลัง หลบก้อนหินพ้นได้อย่างคล่องแคล่ว มีความเย็นชาปรากฏขึ้นในใจ

ยาหมีหลี่เซียง หากใช้ได้อย่างดี มันคือของศักดิ์สิทธิ์ที่เอาไว้ควบคุมมนุษย์ดีๆนี่เอง สามารถทำให้บรรลุเป้าหมายของตนเองได้อย่างง่ายดาย

แต่ถ้าหากใช้ไม่ดี มันคือยาพิษที่ช่วยกระตุ้นความปรารถนาของมนุษย์ ทำให้ปลดปล่อยธาตุแท้ที่จริงออกมา

แม้กระทั่งเจ้าแม่กวนอิมก็มีช่วงที่โกรธ ยิ่งไปกว่านั้นคนอย่างฉู่หลิงเซวียนที่มีจิตใจสกปรกเช่นนี้ยังต้องพูดถึงอีกเหรอ?

นางไม่กล้าไปขอยาถอนพิษจากฝ่าบาทและฉีเฟยหันมาบีบคั้นตระกูลซูแทน เช่นนี้ยังไม่ใช่การรังแกคนที่อ่อนแอกว่าอีกเหรอ?

ในเมื่อเป็นแบบนั้น นางจะทำให้นางอู๋และฉู่หลิงเซวียนได้เข้าใจ ตระกูลซูไม่ใช่สถานที่ที่พวกนางสามารถมาทำตามอำเภอใจ!

ฉู่หลิงเสซวียนถูกความโกรธและความเจ็บปวดเข้าครอบงำสมอง บวกกับเห็นรูปลักษณ์ที่งดงามของฉู่เชียนหลี ยิ่งรู้สึกโมโหเข้าไปใหญ่

“ฉู่เชียนหลี นางแพศยาที่มีแม่คลอดแต่ไม่มีแม่เลี้ยง วันนี้ข้าจะต้องฆ่าเจ้าให้ได้!”

ฉู่เชียนหลีตบก้นของเซินเป่าอย่างแผ่วเบา ส่งซิกทางสายตาให้เขา หลังจากนั้นอุ้มเขาวิ่งไปทางโต้เกิ๋นและเผิงเกิ๋นปักษีขาวทั้งสองตัว

ของของฮ่องเต้เฒ่าจอมโลภ ย่อมต้องใช้ให้เกิดประโยชน์

ฉู่หลิงเซวียนเห็นภาพนี้ วิ่งเข้าไปทันทีด้วยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

เติมทีนางอู๋ต้องการเข้าไปห้าม แต่บาดแผลใหม่บวกกับบาดแผลเก่า ทำให้นางไม่สามารถขยับตัว

“หลิงเซวียน เจ้า……หยุดเดี๋ยวนี้!”

ฉู่หลิงเสวียนฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ถูกยาหมีหลี่เซียงครอบงำ ในใจคิดเพียงต้องการฆ่าเชียนหลี

“นางแพศยา หยุดเดี๋ยวนี้!”

เมื่อเห็นคนหลายคนวิ่งเข้ามาพร้อมกัน โดยเฉพาะฉู่หลิงเซวียนที่มีแววตาดุร้าย ราวกับกำลังไล่ล่าดวงดาวและท้องทะเล

ทำให้ปักษีตกใจยิ่งนัก!

ปักษีทั้งสองตัวหดคอกางปีกต้องการวิ่งหนี

เซินเป่ามองไปทางโต้เกิ๋นและเผิงเกิ๋น เขม็งตาใส่ปักษีขาวทั้งสองตัว พูดข่มขู่เสียงเบา

“ซุปโสมชื่อหยุนตุ๋น……”

“กา! กา! กา!”

อายุแค่นี้กลับไร้คุณธรรม!

คิดเพียงปักษีขาวตุ๋นหม้อเหล็ก!

ปักษีขาวทั้งสองตัวสัมผัสได้ถึงภัยคุกคาม มีหรือที่จะกล้าหนี

ทำได้แต่ชูคอแข็งพุ่งไปทางฉู่หลิงเซวียน หลังจากนั้นเกิดการต่อสู้ที่ชลมุนขึ้น

“กา!”

เสียงร้องที่น่าเวทนาของปักษีดังขึ้น ควบคู่กับขนปักษีบินกระจาย ช่างเป็นภาพที่ทำให้ผู้ฟังหลั่งน้ำตารู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก

ฝีเท้าของฉู่เชียนหลีหยุดชะงัก ไม่ลืมหันกลับไปกระตุ้นฉู่หลิงเซวียน

“น้องหลิงเซวียน เจ้ารู้สึกโกรธมากแค่ไหนก็ไม่ควรเอาปักษีขาวมาระบายอารมณ์ นี่เป็นปักษีขาวที่ท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงประทาน เจ้าดูขนของมันถูกเจ้าจิกจนร่วงแล้ว!”

“สัตว์เดรัจฉาน! พวกเจ้าสองตัวกล้าเสียมารยาทต่อข้างเหรอ! สมควรตาย สมควรตายทั้งหมด!”

ฉู่หลิงเซวียนคำรามด้วยความโกรธ เดิมทีก็ร่างกายเต็มไปด้วยผื่นแดงดูค่อนข้างน่าเกลียด คราวนี้ยิ่งดูบิดเบี้ยวเข้าไปใหญ่

เซินเป่ารีบปิดตาของตนเอง ร่างกายสั่นไม่หยุด

“ท่านแม่ เซินเป่ากลัว”

ฉู่เชียนหลีกอดเซินเป่าแน่น สีหน้าดูขุ่นเคืองเช่นกัน

“เซินเป่า แม่ก็กลัวเหมือนกัน”

“ท่านแม่ แล้วพวกเราควรทำอย่างไรดี?”

“ครอบครัวของเราเป็นหญิงหม้ายลูกกำพร้า คนแก่อ่อนแอพิการ จะทำอะไรได้อีก?”

“ฮือฮือ ท่านแม่ พวกเราน่าสงสารมากเลย แต่ว่า เซินเป่าต้องคิดหาวิธีปกป้องท่านแม่ ท่านปู่ใหญ่และท่านลุงแน่”

เซินเป่าลงมาจากอ้อมแขนของฉู่เชียนหลี พื้นใต้เท้าลื่นล้มลงบนพื้นอย่างโผงผางและกลิ้งหนึ่งรอบ มือเล็กสีดำสนิทนวดใบหน้าของตนเอง หลังจากนั้นเงยหน้าขึ้นร้องให้ใส่ท้องฟ้า

“เจ้าขาว! รีบมานี่ เซินเป่าจะไปขอความช่วยเหลือจากองค์ฮ่องเต้!”

“อิ้ว!”

เจ้าขาวหมุนตัว ฉู่เชียนหลีอุ้มเซินเป่าขึ้นมาโยนไปที่หลังของมัน

หลังจากขึ้นหลังได้อย่างราบรื่น เจ้าขาวพาเซินเป่าบินไปทางพระราชวังอย่างรวดเร็ว

“กา!”

อย่าลืมปักษีด้วย!

โต้เกิ๋นค่อนข้างมีไหวพริบ อาศัยจังหวะที่เผิงเกิ๋นกำลังปะทะกับฉู่หลิงเซวียน กระพือปีกที่มีขนร่วงไปหลายเส้นพยายามไล่ตามไป

ซุนยู่จือและนางอู๋มองตาค้าง

คนที่ถูกทำร้ายคือพวกนาง แต่ทำไมนางแพศยาฉู่เชียนหลีถึงดูขุ่นเคืองกว่าพวกนาง?

“หลิงเซวียน! รีบหยุดเดี๋ยวนี้! ใครก็ได้ พวกเจ้าตาบอดหรืออย่างไร ยังไม่รีบไปหยุดคุณหนูอีก!”

นางอู๋ตะคอกใส่คนของตระกูลฉู่

ปักษีขาวเป็นถึงสัญลักษณ์แห่งความมงคลในประเทศตงเสวียน ยิ่งไปกว่านั้น ปักษีสองตัวนี้เป็นของที่ฝ่าบาททรงประทาน นั่นก็เท่ากับเป็นของขวัญจากราชวงศ์ ยิ่งร้ายกาจจนไม่ต้องพูดถึง

เทียนซูและเทียนเสวียนยืนนิ่งดุจดั่งขุนเขา ไม่ว่าคนของตระกูลฉู่จะดิ้นรนอย่างไร แต่ท้ายที่สุดก็ถูกพวกเขาขวางทางเอาไว้

นางอู๋หมดหนทาง ทำได้แต่มองไปทางซุนยู่จือที่อยู่ด้านข้าง หลังจากนั้นกระทืบใส่นางอย่างแรง

“นางซุน อย่าลืมที่เจ้าตอบตกลงข้าล่ะ!”

ในแววตาของซุนยู่จือมีประกายของความโกรธแลบผ่าน

“ฉู่เชียนหลี ข้าอุตส่าห์หวังดีมาช่วยเจ้าพูด คิดไม่ถึงเจ้ากลับอาศัยโอกาสนี้ทำบ้า ใช้แส้ทำร้ายแม่เลี้ยง ป้าใหญ่และน้องสาวของตัวเอง อกตัญญูเลือดเย็นสิ้นดี”

ฉู่เชียนหลียกแขนขึ้นลูบหน้าอกของตนเอง คิ้วยกสูงขึ้นเล็กน้อย มีร่องรอยของความกระสับกระส่ายปรากฏขึ้นบนใบหน้า

“ท่านป้าใหญ่ ท่านลุงกลัวมาก ข้าก็ไม่รู้ว่าเมื่อกี้เป็นอะไรไป ได้กลิ่นหอมสายหนึ่งอย่างกะทันหัน ตามประสบการณ์ที่ข้าศึกษาสมุนไพรมานานหลายปี ต้องเป็นเพราะกลิ่นหอมสายนั้นมีปัญหาแน่”

ซุนยู่จือรู้สึกเย็นวูบในใจ คิดไม่ถึงว่าฉู่เชียนหลีจะมีประสาทสัมผัสที่ละเอียดอ่อนเช่นนี้

หลังจากนางได้รับยาหมีหลี่เซียงจากในท่านคนนั้น ที่ผ่านมาทุกอย่างราบรื่นไม่เคยเกิดข้อผิดพลาด

“เจ้าพูดเหลวไหลอะไร? กลิ่นหอมอะไร เจ้ารีบ……”

เดิมทีซุนยู่จือต้องการเอ่ยปากทำให้ฉู่เชียนหลีกล่าวโทษไปทางนางอู๋และฉู่หลิงเซวียน แต่เมื่อหันหน้าไป แทบเกือบจะหายใจไม่ออก

ฉู่หลิงเซวียนกำลังไม่พอ ถูกปักษีขาวนั่งคร่อมอยู่บนศีรษะ ใช้ปีกขนาดใหญ่ตบซ้ายตบขวา

นางอู๋ก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ด้านหนึ่งก็รู้สึกปวดใจจนตัวสั่น อีกด้านหนึ่งก็โมโหจนแทบกระอักเลือด

“หลิงเซวียน!”

ลูกสาวของนางเคยได้รับความขุ่นเคืองเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?

“ฉู่เฉียนหลี ข้าจะต้องฆ่าเจ้า!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี