ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 78

อีกด้านหนึ่ง เซินเป่าขี่เจ้าขาวตรงไปทางพระราชวัง โดยมีปักษีขาวที่ขนหลุดลุ่ยส่งเสียงร้องกากาบินตามหลังอยู่ไกลพอสมควร

ในพระราชวัง หลังจากฮ่องเต้ใช้ยาถอนพิษของฉู่เฉียนหลี รู้สึกเพียงร่างกายผ่อนคลายลงมาก

ตอนหวีผมช่วงเช้า สาวใช้ในวังพบสิ่งแปลกใหม่ ผมสีขาวบางส่วนของเขาเริ่มกลายเป็นสีดำ

ฮ่องเต้ยิ่งอยู่ก็ยิ่งรู้สึกดีใจ อดไม่ได้ที่จะเรียกคนมาร้องเต้นบรรเลง ดื่มชาไปพลางชมไปพลาง

ในตอนนั้นเอง มีเสียงอุทานด้วยความตกใจดังขึ้นอย่างกะทันหัน

“มีอะไร?”

เกาหลินหัวหน้าข้าหลวงในรีบเดินออกไปตรวจดู ทันใดนั้น อดไม่ได้ที่จะอุทาน

“ฮ่องเต้ คุณชายเซินเป่ามาแล้ว”

ฮ่องเต้รีบโบกมือสั่งให้หยุดบรรเลงระบำทันที ตอนที่เพิ่งเตรียมตัวลุกขึ้น ได้ยินเสียงสะอื้นร้องไห้ของเซินเป่าดังขึ้นทันที

“ท่านฝ่าบาท ช่วยด้วย มีคนต้องการฆ่าเซินเป่าและท่านแม่!”

“กา!”

ปักษีถูกถอนขนจนหลุดลุ่ยหมดแล้ว ต้องการเอาชีวิตของปักษีด้วย!

ฮ่องเต้เดินออกจากตำหนัก สังเกตเห็นเซินเป่าที่ตัวสกปรกมอมแมมกลิ้งลงมาจากบนหลังของนกอินทรีขาว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแปลกใจ

“เซินเป่า เจ้า?”

“ท่านฝ่าบาท ได้โปรดช่วยท่านแม่ของข้าด้วย ช่วยท่านปู่ใหญ่และท่านลุงด้วย!”

น้ำตานองใบหน้าเซินเป่า

“ไม่ลอง ไหนเล่ามาให้ละเอียดซิว่าเกิดอะไรขึ้น?”

“นางมารคนนั้นพานางมารเฒ่าอีกสองคนไปทำร้ายท่านแม่ ต้องการแย่งยาถอนพิษจากท่านแม่ และยังทำร้ายท่านปู่ใหญ่กับท่านลุง……ท่านฝ่าบาท ท่านร้ายกาจที่สุดแล้ว ท่านรีบไปจัดการนางปีศาจ!”

“กา!”

อย่าลืมปักษีด้วย!

ฮ่องเต้ฟังแล้วไม่เข้าใจที่ไปที่มา นางมาร นางมารเฒ่าอะไร แต่หลังจากได้ยินเสียงร้องของปักษี บวกกับเห็นสภาพของปักษี สีหน้าดูน่าเกลียดขึ้นมาทันที

“ปักษีขาวตัวนี้ถูกคนทำร้าย?”

“อืม นางมารเป็นคนทำร้าย ท่านแม่เข้าไปขวางก็ขวางไม่อยู่ โมโหจนร้องไห้แล้ว……”

ปักษีขาวเป็นสัญลักษณ์มงคล และยังเป็นของที่เขาประทานเพื่อเป็นการแสดงถึงบุญคุณ จึงประกาศให้ทุกคนในเมืองหลวงรู้กันทั่ว

ตอนนี้กลับโดนทำร้าย นี่เป็นการไม่พอใจฮ่องเต้เขาคนนี้เหรอ?

“ใครก็ได้ รีบไปตรวจดูที่บ้านตระกูลซู”

เกาหลินเอ่ยปากพูดด้วยสีหน้าที่ลังเล

“ฝ่าบาท บ่าวก็พอเคยได้ยินมาอยู่บ้าง คุณชายน้อยที่นางมารพูดถึง ดูเหมือนจะเป็นคุณหนูรองของจวนเฉิงเสี้ยง……”

“ฉู่หลิงเซวียน?” ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว

เซินเป่ารีบพยักหน้าทันที

“ท่านฝ่าบาท นางมารคนนั้นแหละ”

ฉู่หลิงเซวียน?

แย่งยา?

สีหน้าของฮ่องเต้เคร่งขรึมลงเล็กน้อย “ข้ามอบยาถอนพิษให้ฉีเฟยสองเม็ด พระชายาได้แบ่งให้ฉู่หลิงเซวียนหรือเปล่า?”

เกาหลินก้มหน้าลง ท่าทางเหมือนไม่กล้าพูด

“เรื่องนี้……”

“ฮึ่ม!” ฮ่องเต้หัวเราะอย่างเย็นชา “เกาหลิน สั่งคนนำคำพูดของข้าไปที่จวนองค์ชายสาม บอกให้เจ้าสามดูแลว่าที่คู่หมั้นของเขาให้ดี”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“อีกอย่าง เจ้าพาทหารวังต้องห้ามห้าสิบนายออกจากวัง อย่างไรซูยี่ก็เคยทำผลงานให้กับตงเสวียนมากมาย วันนี้ก็จะทนดูเขาถูกคนอื่นดูหมิ่นไม่ได้เด็ดขาด”

“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้”

ดวงตาของเซินเป่าลุกวาวเป็นประกาย ก้าวออกไปกอดน่องขาของฮ่องเต้ด้วยความซาบซึม

“ขอบคุณฝ่าบาท!”

ฮ่องเต้รู้สึกอึ้งเล็กน้อย ก้มหน้ามองท่าทางของเซินเป่า เกิดความเสียดายขึ้นอย่างกะทันหัน

“ไปเถอะ ปกป้องแม่ของเจ้าให้ดี”

“อืมอืม!”

เซินเป่ารีบดึงมือของเกาหลินเดินออกไปทางด้านนอก

“ท่านลุงเกา เร็วเร็วเร็ว ช่วยคนเป็นเรื่องสำคัญ!”

ทันทีที่เซินเป่าเดินออกจากประตูของตำหนัก เจ้าขาวรีบหันหลังหมอบลง หลังจากเซินเป่าปีนขึ้นหลัง ยื่นกรงเล็บที่แหลมคมออกไปจิกเสื้อตรงไหล่ของเกาหลิน พาเขาบินขึ้นสุดขอบฟ้าโดยตรง

“หา……”

มีเสียงกรีดร้องเสียงแหลมดังขึ้นอย่างชัดเจน

ทหารวังต้องห้ามอึ้งไปสักพักถึงสามารถตั้งสติได้ ควบม้าเร็วสะบัดแส้ไล่ตามเกากงกงออกไป

เกาหลินถูกลอยเคว้งอยู่กลางอากาศ กระแสลมแรงพัดใส่หน้าทำให้เขาลืมตาไม่ขึ้น

เขานึกถึงตอนที่ได้พบกับอาจารย์หัวหน้าตอนเพิ่งเข้าวังได้ไม่นานอย่างกะทันหัน

อาจารย์มักจะสั่งสอนเขาอยู่เสมอ การเป็นบ่าวในวังปรนนิบัติคนจำเป็นต้องรัดเข็มขัดให้แน่น กัดฟันให้แน่น ความจริงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันสมเหตุสมผลมาก!

หากวันนี้ไม่รัดเข็มขัดแน่น เขาต้องเปลือยกายท่อนล่างกลางอากาศแน่นอน!

ในขณะที่กำลังคิดเหลวไหล ความสูงลดต่ำลงอย่างกะทันหัน ในขณะที่กำลังรู้สึกโชคดีที่ตนเองยังมีชีวิตอยู่ ได้ยินคำสบถเสียงแหลมสายหนึ่งดังขึ้นทันที

“ฉู่เชียนหลี ข้าจะต้องฆ่าเจ้า!”

ด้านล่าง เฟิ่งเสวียนตู้ได้ยินเสียงของเจ้าขาวกลับมา เอ่ยปากพูด

“เทียนซู เทียนเสวียน ปล่อยคน”

แสดงย่อมต้องแสดงให้สมจริง จะได้ให้เกาหลินเห็นว่าคนของตระกูลฉู่ทำตัวจองหองมากแค่ไหน

วินาทีต่อมา ในที่สุดคนรับใช้ของตระกูลฉู่ก็สามารถฝ่าแนวป้องกันไปได้

“ฮูหยิน!” แม่นมหวางรีบวิ่งเข้าไปประคองนางอู๋ด้วยความระมัดระวัง

นางอู๋ไม่สนใจตนเอง “รีบไปช่วยคุณหนู!”

“เจ้าค่ะ”

คนที่อยู่ด้านล่างรีบพุ่งไปทางปักษีขาวเผิงเกิ๋นทันที

“กา!”

ปักษีขาวเหยียบอยู่บนศีรษะของฉู่หลิงเซวียนไม่ยอมปล่อย คนที่อยู่ด้านล่างเข้าใกล้ มันส่งเสียงร้องอย่างไม่เอาชีวิตทันที

เผชิญหน้ากับสัตว์มงคลพระราชทาน คนของตระกูลฉู่ทำอะไรไม่ถูก

มันไม่ง่ายเลยที่กว่าจะสามารถจับปีกของมัน ประคองฉู่หลิงเซวียนลงขึ้น ได้ยินเสียงร้องของนกอินทรีย์ขาวดังขึ้นทันที

“อิ้ว!”

ในที่สุดเกาหลินก็ร่อนลงสู่พื้น มองเห็นภาพทั้งหมดภายในลานเรือน เบิกตากว้างอย่างกะทันหัน

“ใจกล้ามาก……แหวะ……”

นางอู๋สะดุ้งตกใจที่เห็นเกาหลินร่อนลงมาจากท้องฟ้า ก่อนที่จะตั้งสติได้ ฉู่เชียนหลีพูดด้วยความโกรธอย่างกะทะหัน

“เกากงกง รีบไปช่วยปักษีที่ฝ่าบาทประทานให้! มันถูกตีจนใกล้ตายแล้ว!”

เกาหลินรู้สึกเย็นวูบในใจ มองไปทางพวกคนที่จับปักษีขาว

“ใจสุนัขของพวกเจ้ากล้ามาก! พวกเจ้ากล้าแตะต้องแม้แต่ปลายนิ้วของปักษีขาว ขากลับข้าตัดหัวพวกเจ้าแน่!”

ซุนยู่จือรีบลุกขึ้นยืน จัดแต่งชุดกระโปรงของตนเองสักพัก

“เกากงกง ท่าน……”

ก่อนที่นางจะได้พูดคำประจบประแจง เห็นสีหน้าของเกากงกงเปลี่ยนไป ก้มเอวต่ำอาเจียนออกมาอย่างกะทันหัน

“แหวะ!”

“ว๊าย!”

ซุนยู่จืออุทานก้าวถอยหลังไม่ทัน ถูกของเหลวที่ส่งกลิ่นเหม็นสาดเข้าบนร่างกาย

หลังอาเจียนเสร็จ เกาหลินรู้สึกสบายตัวขึ้นเยอะมาก หันไปคำนับฉู่เชียนหลีโดยไม่มองซุนยู่จือแม้แต่นิดเดียว

“คุณหนูใหญ่ เสียมารยาทแล้ว”

ฉู่เชียนหลีส่ายหัว

“เกากงกง ข้าไม่เป็นไร……ข้าก็มีส่วนผิด ไม่สามารถปกป้องปักษีขาวนทั้งสองตัว ถ้าคิดไม่ถึงว่าท่านป้าใหญ่ ฮู่หยินอู๋และฉู่หลิงเซวียนแย่งยาพิษไม่สำเร็จ กลับหันไปลงมือกับพวกมันแทน”

เกาหลินมองไปทางนางอู๋และซุนยู่จือด้วยความโมโห ทันทีที่มองไป รู้สึกเย็นวูบในใจทันที

“พวกนาง……”

ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยแส้ ดูแล้วน่าเวทนายิ่ง!

ฉู่เชียนหลีนวดหว่างคิ้วของตนเอง

“บาดแผลบนร่างกายของพวกนางเป็นฝีมือของข้าเอง ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากได้กลิ่นหอมสายหนึ่ง รู้สึกเสียการควบคุมอย่างกะทันหัน หลังจากนั้น….เหมือนมีคนถามหาของจากข้า หลังจากนั้น……”

เฟิ่งเสวียนตู้พูด

“ข้าสามารถเป็นพยาน นางซุนและนางอู๋ขอโสมเสวียนม่วย ยาหนิงลู่และลูกกลอนของยาถอนพิษจากเชียนหลี เหมือนใช้วิธีการอะไรบางอย่าง เชียนหลีเลยสูญเสียกรรมควบคุมตัวเองอย่างกะทันหัน”

“บ่าวคำนับเจ้าหอเทียนเสวียน”

เกาหลินสังเกตเห็นเฟิ่งเสวียนตู้ รีบก้มเอวต่ำโค้งคำนับทันที

“เกากงกง ท่านรีบพานางซุนกลับไปให้หมอหลวงตรวจดู คิดว่าน่าจะเจอเบาะแสอะไรบ้าง”

ซุนยู่จือเย็นวูบในใจ กลอุบายของนางไม่สามารถหลบพ้นความพิถีพิถันของหมอหลวง

“เกากงกง ไม่มีเรื่องแบบนั้นเลย”

เกาหลินหันไปมองด้วยสายตาที่เย็นชา

“ไม่มีเรื่องแบบนั้น กลับไปตรวจสอบก็รู้เอง ฮูหยินทั้งสองท่านและคุณหนูรองตระกูลฉู่ก็ทำร้ายปักษีขาวพระราชทานของฝ่าบาท อย่างไรก็ต้องไปรับโทษในวัง”

นางซุนได้ยินเช่นนี้ ภายในใจยิ่งรู้สึกตื่นตระหนก นางจะเปิดเผยตัวตนไม่ได้เด็ดขาด

เดิมทีนางต้องการใช้ยาหมีหลี่เซียงอีกครั้ง แต่หลังจากที่นึกถึงอาการคลั่งของฉู่เชียนหลีและฉู่หลิงเซวียนก่อนหน้านี้ กลับเกิดความรู้สึกกลัวสร้างปัญหาเพิ่ม

“เกากงกง เห็นได้ชัดว่าฉู่เชียนหลีจงใจทำร้ายผู้อื่น ข้า ฮูหยินอู๋และคุณหนูรองถึงจะเป็นผู้เคราะห์ร้าย……”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี