ฉู่เชียนหลีนั่งลงบนเก้าอี้ มองฉู่หลิงเซวียนเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่กระอักกระอ่วนอย่างเย็นชา
ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม ทุกครั้งที่มีหยุนชิงกุยและฉู่หลิงเซวียนปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน นางแทบจะคุกเข่าอยู่บนพื้นทุกครั้ง อ้อนวอนขอร้องขอโทษไม่หยุด ราวกับมีฝันร้ายครอบอยู่บนหัวของนาง เพียงแค่หายใจก็ยังผิด
ทั้งที่นางถึงจะเป็นคู่หมั้นขององค์ชายสาม แต่กลับไม่เคยได้รับการปกป้องแม้แต่ครั้งเดียว
ปัจจุบัน ฉู่หลิงเซวียนพยายามแย่งการแต่งงานของเจ้าของร่างเดิม ในเมื่อเป็นเช่นนั้น งั้นก็ควรให้นางได้ลิ้มลองความขุ่นเคืองที่เจ้าของร่างเดิมเคยได้รับ
ฉู่หลิงเซวียนถือน้ำชาด้วยอาการสั่น คุกเข่าลงบนพื้นต่อหน้าฉู่เชียนหลีอย่างเชื่องช้า
“ท่าน……ท่านพี่ ขอโทษ……”
มุมปากของฉู่เชียนหลีกระตุกขึ้นเล็กน้อย
“ล้วนแต่เป็นพี่น้องกัน ข้าก็ไม่ได้ต้องการให้เจ้าคุกเข่าจริง ทำไมเจ้าถึงทำเป็นจริงจังไปได้? ช่างเถอะ น้องหลิงเซวียน ข้าเองก็มีส่วนผิดเช่นกัน ข้าขอโทษ ให้อภัยข้าด้วยก็แล้วกัน”
ฉู่หลิงเซวียนเบิกตากว้าง
“เจ้า……”
ฉู่เชียนหลีรับถ้วยชามา หลังจากนั้นนิ้วมือขยับเล็กน้อย ถ้วยชาตกลงใส่หัวเข่าของฉู่หลิงเซวียนโดยตรง น้ำชาสาดกระเซ็นใส่บนร่างกายของนาง
“น้องข้า ข้าถือไม่มั่นเลยลื่น เข้าไม่ได้ตั้งใจนะ เจ้าคงเข้าใจใช่หรือเปล่า?”
“เจ้า!”
ฉู่หลีงเซวียนเบิกตากว้างอย่างกะทันหัน สีหน้าทั้งแดงทั้งม่วง
ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างเย็นชาที่มุมปาก
“คำพูดประโยคนี้ฟังแล้วคุ้นบ้างหรือเปล่า? อย่างไรมันก็เป็นคำพูดที่เจ้าเคยพูดหลายครั้ง ข้าเป็นคนที่ความจำค่อนข้างดี สิ่งที่เจ้าเคยพูดข้าล้วนแต่จำได้ทั้งหมด ต่อไปจะคืนให้เจ้าทีละนิด”
ฉู่หลิงเซวียนเบิกตากว้าง สบตาเข้ากับดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นของฉู่เชียนหลี มองเห็นท่าทางที่ดูสะบักสะบอมและน่าเกลียดของตนเองอย่างกะทันหันในนั้น
ทันใดนั้น นางมีความรู้สึกเหมือนฟ้าดินกลับตาลปัตร
นางและฉู่เชียนหลี กำลังจะเปลี่ยนตำแหน่งอย่างสมบูรณ์……
นึกถึงเรื่องที่นางเคยทำ ฉู่เชียนหลีรู้สึกเพียงมีความรู้สึกที่หนาวเหน็บเข้ามาปกคลุมร่างกาย ไม่สามารถข่มความหวาดกลัวที่อยู่ในใจได้อีกแล้ว ร่างกายทรุดล้มลงบนพื้นเหมือนกับดินโคลน
ฉู่เชียนหลีลุกขึ้นยืนมองไปทางหยุนชิงกุย
“องค์ชายสาม พึ่งพอใจกับคำขอโทษของข้าหรือเปล่า?”
หยุนชิงกุยจ้องฉู่เชียนหลี ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่านางจงใจแต่กลับเอาเรื่องไม่ได้ ทำได้แต่กัดฟันแน่น
“ใครก็ได้ ประคองฮูหยินและคุณหนูรองกลับ”
นางอู๋ได้ยินแบบนี้ มีความกล้าสายหนึ่งปรากฏขึ้นในใจ กระโดดลุกขึ้นอย่างกะทันหัน องค์ชายสามไม่คิดจะช่วยพวกนางเลยแม้แต่นิดเดียว?
“องค์ชายสาม……”
ในฐานะที่เป็นคู่หมั้น และยังได้รับการสนับสนุนมากมายจากจวนเฉิงเสี้ยง ในช่วงเวลาสำคัญ เขากับไม่มีท่าทีของความเห็นใจและปกป้องฉู่หลิงเซวียน?
“ฮูหยินอู๋ยังมีธุระ?”
“หลิงเซวียนถูกพิษ ต้องการยาถอนพิษ ไม่เช่นนั้นใบหน้าของนางต้องเสียโฉมจริงแน่!”
“ฮูหยินอู๋ ไปเถอะ”
สายตาขององาค์ชายสามเคร่งขรึม
ฉู่เชียนหลีพูดแล้ว ยาถอนพิษทั้งหมดมอบให้เสด็จพ่อหมดแล้ว ถึงนางมีก็ไม่มีทางเอาออกมา ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับหลอกลวงเบื้องสูง นางคงไม่ได้โง่หรอกมั้ง?
นางอู๋ย่อมเข้าใจเหตุผลข้อนี้ดี แต่ท่าทีขององค์ชายสามที่ไม่เตรียมตัวเอ่ยปากพูดเลยสักนิด ยังคงทำให้นางรู้สึกเย็นวูบในใจ
แม่นมหวางก้าวออกมาประคองนางออกไปข้างนอก ฉู่หลิงเซวียนก็ถูกประคองลุกขึ้นเช่นกัน เดินตามหลังด้วยท่าทางที่เหม่อลอยราวกับวิญญาณหลุดหายไป
เกาหลินเอ่ยปากพูด “คุณหนูใหญ่ บ่าวก็ควรกลับวังทูลฝ่าบาทแล้ว”
ฉู่เชียนหลีหวั่นไหวเล็กน้อย เอ่ยปากพูดด้วยท่าทางที่อมยิ้ม
“ขอบพระทัยฝ่าบาททรงเมตตา ส่งกงกงมาปกป้องเชียนหลีและตระกูลซู ไม่ว่ายังไง ข้าก็ควรเข้าวังไปขอบคุณฝ่าบาท พอดีมีของขวัญมอบให้ฝ่าบาทด้วย”
“ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นบ่าวจะสั่งให้คนไปเตรียมรถม้าให้คุณหนูใหญ่เข้าวังไปพร้อมกัน”
“ดี รบกวนเกากงกงรอสักครู่ ข้าต้องเปลี่ยนชุดก่อน”
“เข้าใจแล้ว คุณหนูใหญ่ไม่ต้องรีบร้อน”
เกาหลินพาคนเดินออกไปรอข้างนอก
ซูยี่รีบถามด้วยความเป็นห่วง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
ไม่อัฟแล้วหรือคะ...
เรื่องนี้สนุกมากขอทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้อัพเดทเรื่องนี้ต่อไปนะคะ😭...
เรื่องนี้สนุกมากไม่ลงตอนใหม่แล้วหรอค่ะ...
ขอร้องลงตอนใหม่ด้วยนะคะ😭...
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทแล้วหรอค่ะ...