ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 80

ฉู่เชียนหลีนั่งลงบนเก้าอี้ มองฉู่หลิงเซวียนเดินเข้ามาด้วยท่าทางที่กระอักกระอ่วนอย่างเย็นชา

ในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม ทุกครั้งที่มีหยุนชิงกุยและฉู่หลิงเซวียนปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน นางแทบจะคุกเข่าอยู่บนพื้นทุกครั้ง อ้อนวอนขอร้องขอโทษไม่หยุด ราวกับมีฝันร้ายครอบอยู่บนหัวของนาง เพียงแค่หายใจก็ยังผิด

ทั้งที่นางถึงจะเป็นคู่หมั้นขององค์ชายสาม แต่กลับไม่เคยได้รับการปกป้องแม้แต่ครั้งเดียว

ปัจจุบัน ฉู่หลิงเซวียนพยายามแย่งการแต่งงานของเจ้าของร่างเดิม ในเมื่อเป็นเช่นนั้น งั้นก็ควรให้นางได้ลิ้มลองความขุ่นเคืองที่เจ้าของร่างเดิมเคยได้รับ

ฉู่หลิงเซวียนถือน้ำชาด้วยอาการสั่น คุกเข่าลงบนพื้นต่อหน้าฉู่เชียนหลีอย่างเชื่องช้า

“ท่าน……ท่านพี่ ขอโทษ……”

มุมปากของฉู่เชียนหลีกระตุกขึ้นเล็กน้อย

“ล้วนแต่เป็นพี่น้องกัน ข้าก็ไม่ได้ต้องการให้เจ้าคุกเข่าจริง ทำไมเจ้าถึงทำเป็นจริงจังไปได้? ช่างเถอะ น้องหลิงเซวียน ข้าเองก็มีส่วนผิดเช่นกัน ข้าขอโทษ ให้อภัยข้าด้วยก็แล้วกัน”

ฉู่หลิงเซวียนเบิกตากว้าง

“เจ้า……”

ฉู่เชียนหลีรับถ้วยชามา หลังจากนั้นนิ้วมือขยับเล็กน้อย ถ้วยชาตกลงใส่หัวเข่าของฉู่หลิงเซวียนโดยตรง น้ำชาสาดกระเซ็นใส่บนร่างกายของนาง

“น้องข้า ข้าถือไม่มั่นเลยลื่น เข้าไม่ได้ตั้งใจนะ เจ้าคงเข้าใจใช่หรือเปล่า?”

“เจ้า!”

ฉู่หลีงเซวียนเบิกตากว้างอย่างกะทันหัน สีหน้าทั้งแดงทั้งม่วง

ฉู่เชียนหลียิ้มอย่างเย็นชาที่มุมปาก

“คำพูดประโยคนี้ฟังแล้วคุ้นบ้างหรือเปล่า? อย่างไรมันก็เป็นคำพูดที่เจ้าเคยพูดหลายครั้ง ข้าเป็นคนที่ความจำค่อนข้างดี สิ่งที่เจ้าเคยพูดข้าล้วนแต่จำได้ทั้งหมด ต่อไปจะคืนให้เจ้าทีละนิด”

ฉู่หลิงเซวียนเบิกตากว้าง สบตาเข้ากับดวงตาที่เย็นชาคู่นั้นของฉู่เชียนหลี มองเห็นท่าทางที่ดูสะบักสะบอมและน่าเกลียดของตนเองอย่างกะทันหันในนั้น

ทันใดนั้น นางมีความรู้สึกเหมือนฟ้าดินกลับตาลปัตร

นางและฉู่เชียนหลี กำลังจะเปลี่ยนตำแหน่งอย่างสมบูรณ์……

นึกถึงเรื่องที่นางเคยทำ ฉู่เชียนหลีรู้สึกเพียงมีความรู้สึกที่หนาวเหน็บเข้ามาปกคลุมร่างกาย ไม่สามารถข่มความหวาดกลัวที่อยู่ในใจได้อีกแล้ว ร่างกายทรุดล้มลงบนพื้นเหมือนกับดินโคลน

ฉู่เชียนหลีลุกขึ้นยืนมองไปทางหยุนชิงกุย

“องค์ชายสาม พึ่งพอใจกับคำขอโทษของข้าหรือเปล่า?”

หยุนชิงกุยจ้องฉู่เชียนหลี ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่านางจงใจแต่กลับเอาเรื่องไม่ได้ ทำได้แต่กัดฟันแน่น

“ใครก็ได้ ประคองฮูหยินและคุณหนูรองกลับ”

นางอู๋ได้ยินแบบนี้ มีความกล้าสายหนึ่งปรากฏขึ้นในใจ กระโดดลุกขึ้นอย่างกะทันหัน องค์ชายสามไม่คิดจะช่วยพวกนางเลยแม้แต่นิดเดียว?

“องค์ชายสาม……”

ในฐานะที่เป็นคู่หมั้น และยังได้รับการสนับสนุนมากมายจากจวนเฉิงเสี้ยง ในช่วงเวลาสำคัญ เขากับไม่มีท่าทีของความเห็นใจและปกป้องฉู่หลิงเซวียน?

“ฮูหยินอู๋ยังมีธุระ?”

“หลิงเซวียนถูกพิษ ต้องการยาถอนพิษ ไม่เช่นนั้นใบหน้าของนางต้องเสียโฉมจริงแน่!”

“ฮูหยินอู๋ ไปเถอะ”

สายตาขององาค์ชายสามเคร่งขรึม

ฉู่เชียนหลีพูดแล้ว ยาถอนพิษทั้งหมดมอบให้เสด็จพ่อหมดแล้ว ถึงนางมีก็ไม่มีทางเอาออกมา ไม่เช่นนั้นก็เท่ากับหลอกลวงเบื้องสูง นางคงไม่ได้โง่หรอกมั้ง?

นางอู๋ย่อมเข้าใจเหตุผลข้อนี้ดี แต่ท่าทีขององค์ชายสามที่ไม่เตรียมตัวเอ่ยปากพูดเลยสักนิด ยังคงทำให้นางรู้สึกเย็นวูบในใจ

แม่นมหวางก้าวออกมาประคองนางออกไปข้างนอก ฉู่หลิงเซวียนก็ถูกประคองลุกขึ้นเช่นกัน เดินตามหลังด้วยท่าทางที่เหม่อลอยราวกับวิญญาณหลุดหายไป

เกาหลินเอ่ยปากพูด “คุณหนูใหญ่ บ่าวก็ควรกลับวังทูลฝ่าบาทแล้ว”

ฉู่เชียนหลีหวั่นไหวเล็กน้อย เอ่ยปากพูดด้วยท่าทางที่อมยิ้ม

“ขอบพระทัยฝ่าบาททรงเมตตา ส่งกงกงมาปกป้องเชียนหลีและตระกูลซู ไม่ว่ายังไง ข้าก็ควรเข้าวังไปขอบคุณฝ่าบาท พอดีมีของขวัญมอบให้ฝ่าบาทด้วย”

“ในเมื่อเป็นแบบนั้น งั้นบ่าวจะสั่งให้คนไปเตรียมรถม้าให้คุณหนูใหญ่เข้าวังไปพร้อมกัน”

“ดี รบกวนเกากงกงรอสักครู่ ข้าต้องเปลี่ยนชุดก่อน”

“เข้าใจแล้ว คุณหนูใหญ่ไม่ต้องรีบร้อน”

เกาหลินพาคนเดินออกไปรอข้างนอก

ซูยี่รีบถามด้วยความเป็นห่วง

“เชียนหลี เมื่อกี้เจ้าดูผิดปกติอย่างยิ่ง เป็นเพราะนางซุนทำอะไรใช่หรือเปล่า? มีผลกระทบต่อร่างกายของเจ้าหรือไม่?”

“ท่านลุงไม่ต้องเป็นห่วง ก็แค่ผงยาที่สามารถทำให้จิตใจของมนุษย์สับสน มันไม่มีผลต่อข้า แค่แกล้งแสดงเท่านั้น”

“แล้วเจ้าเข้าวังครั้งนี้……”

แววตาของฉู่เชียนหลีเคร่งขรึมลง “ท่านลุง ตอนที่เกิดเรื่องกับท่านลุงน่าจะเป็นช่วงเมื่อหกปีก่อน หลังจากนั้นไม่นาน มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกับท่านในสนามรบ และยังมีท่านผู้พี่ มันบังเอิญเกินไปหรือเปล่า”

ซูยี่ขมวดคิ้ว “เจ้าสงสัยว่ามีคนใช้กลอุบาย?”

“ไม่ใช่สงสัย แต่ต้องใช่แน่นอน!” แววตาของฉู่เชียนหลีเคร่งขรึม “ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้ตอนรักษาให้ท่านลุง พลังที่ซ่อนอยู่ในร่างกายของท่าน มันไม่ใช่เรื่องปกติที่สามารถอธิบายได้”

“ทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับซุนยู่จือ?”

“ก่อนหน้านี้ข้าเคยสงสัยราชวงศ์ เพราะถ้าหากตระกูลซูของท่านลุงล้มลง ราชวงศ์ริบอำนาจการทหาร ทำให้อำนาจของแม่ทัพอ่อนแอลง พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ผู้คนอดไม่ได้ที่จะคิด แต่ตอนนี้ ซุนยู่จือก็น่าสงสัยเช่นกัน ดังนั้นข้าจะเข้าวังโยนเหยื่อออกไป ดูซิว่าจะมีของแบบไหนมาติดกับบ้าง”

ซูยี่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ มองขาที่ไม่สามารถลุกขึ้นยืนของตนเอง พูดโทษตัวเอง

“เชียนหลี เดิมทีเรื่องนี้ควรจะเป็นข้า……”

แต่ตอนนี้ ภาระที่หนักอึ้งทุกอย่างกลับไปอยู่บนไหล่ของนางที่เป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง

“ท่านลุง ท่านต้องพักรักษาตัวให้ดี หลังจากสุขภาพของท่านฟื้นฟูกลับมา ท่านต้องมีโอกาสช่วยสนับสนุนข้าแน่นอน” ฉู่เชียนหลีตอบกลับอย่างยิ้มแย้ม

“ได้”

“งั้นข้าไปแล้ว”

ฉู่เชียนหลีไปเปลี่ยนชุดแล้วเข้าวัง

เฟิ่งเสวียนตู้อุ้มเซินเป่าขึ้นมา ในแววตาหงส์เย็นชาจนไม่มีความอบอุ่น ใช้พลังเสวียนส่งเสียงให้เทียนซูและเทียนเสวีย

“หักขาของพวกนางหนึ่งข้าง”

มารังแกกันถึงบ้าน รบกวนโอกาสที่เขาจะได้เดินตลาดร่วมกับฉู่เชียนหลี และยังยุยงคนอื่นให้ไปเป็นนางสนมของผู้ชาย?

เหอะ เห็นเขาตี้จวินหงส์เป็นของตาย?

“รับทราบ!”

บนถนนหน้าบ้านของตระกูลซู มีผู้คนไม่น้อยมามุงดูกัน บางคนมาเพราะถูกดึงดูดโดยนกอินทรีย์ขาวที่เซิ่นเป่านั่งมาจากวัง และมีบางคนเห็นทหารวังต้องห้ามออกมา ก็เลยทำให้เกิดความอยากรู้อยากเห็น จึงเดินทางมามุงดูกัน

“ออกมาแล้ว!”

ทุกคนหันไปมอง

คนรับใช้ของตระกูลฉู่พยายามล้อมรอบนางอู๋และฉู่หลิงเซวียนไว้ตรงกลาง หลบเลี่ยงการมองของฝูงชน

แต่ตอนที่พวกนางกำลังจะขึ้นรถมา นางอู๋ที่อยู่ด้านหน้าลื่นตกลงมาจากที่เหยียบของรถมาอย่างกะทันหัน

ด้านหลัง ฉู่หลิงเซวียนกำลังเหม่อลอย ไม่พบความผิดปกติ วินาทีต่อมา ถูกร่างกายของนางอู๋ล้มกระแทกอย่างแรง นางหงายล้มไปทางด้านหลัง

คนรับใช้รีบเข้าไปประคองด้วยความตื่นตระหนก ในที่สุดก็ถือว่าสามารถรับฉู่หลิงเซวียนเอาไว้ได้ แต่กลับคิดไม่ถึงตอนที่นางอู๋ลุกขึ้นยืนขาอ่อนแรง ล้มก้นทิ่มลงบนขาของฉู่หลิงเซวียน

“แควก!”

“อ๊าก!”

มีเสียงกรีดร้องที่น่าเวทนาดังขึ้น ฉู่หลิงเซวียนขาหักไปในพริบตาโดยอาการมึนงง ในที่สุดก็ทนไม่ไหวหมดสติไปโดยตรง

“หลิงเสวียน!”

นางอู๋มองตาค้าง รีบลุกขึ้นก้าวถอยหลังด้วยความตื่นตระหนก แล้วสะดุดโดนคนรับใช้โดยบังเอิญ ล้มลงบนพื้น ขาข้างหนึ่งกระแทกใส่บนที่นั่งรถม้า มีเสียงกระดูกแตกหักที่ชัดเจนดังขึ้นอีกครั้ง

ขาของนางก็หักเช่นกัน!

“ฮูหยิน! คุณหนู!”

องค์ชายสามคิดแต่จะออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เขาไม่คาดคิดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ขึ้น

มองเห็นสภาพที่น่าเวทนาของนางอู๋และฉู่หลิงเซวียน เขาไม่เพียงแต่ไม่เป็นห่วง ในทางกลับกันยังเกิดความรู้สึกไม่สบอารมณ์และขยะแขยง

เมื่อก่อนนางอู๋เป็นคนมีคุณธรรมรักครอบครัว ฉู่หลิงเซวียนอ่อนโยนสุภาพไม่ใช่เหรอ?

แต่ทำไมเพียงแค่พริบตาเดียว พวกนางถึงดูไร้เหตุผลและน่ารังเกียจเช่นนี้ แม้กระทั่งขึ้นรถม้ายังทำให้เกิดข้อผิดพลาด

“ประคองพวกนางลุกขึ้น ส่งกลับจวนเฉิงเสี้ยงแล้วเชิญหมอหลวงมารักษา ข้าจะเข้าวังไปยอมรับผิดต่อเสด็จพ่อ”

“รับทราบ”

บนรถม้า นางอู๋เจ็บปวดจนแทบหมดสติ นึกถึงสายตาตอนที่จากไปขององค์ชายสาม นางกัดฟันแน่นอดทนเอาไว้

“กลับจวน เร็ว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี