สองวันต่อมา ฉู่เชียนหลีพาเซินเป่าและเฟิ่งเสวียนตู้นั่งรถม้ามุ่งหน้าไปยังลานล่าสัตว์ที่เขาไต้หยุน
เซินเป่าคว่ำอยู่บนหน้าต่าง พยายามยืดตัวมองไปยังด้านนอก
ออกมาจากเมืองหลวง ราวกับได้หลีกหนีจากความวุ่นวาย
ถนนกว้างขวาง ภูเขาเขียวขจี กวาดสายตามองไป ท้องฟ้าสีคราม เมฆบาง ๆ กระจัดกระจายอยู่ในท้องนภา
มองดูแล้วทำให้คนรู้สึกสดชื่นแจ่มใส แทบทนไม่ไหว อยากจะควบม้าสะบัดแส้ไปในทิวทัศน์ของฤดูใบไม้ผลิในทันที
แน่นอนว่า ในนั้นรวมฉู่เชียนหลีที่ต้องการพักผ่อนหลังปลดเกษียณเพียงอย่างเดียวอยู่ด้วย
“ท่านแม่ เซินเป่าคิดถึงท่านปู่ใหญ่และลุงโม่เฟิงจังเลย”
เมื่อเห็นองครักษ์ที่ขี่ม้าอยู่ทั้งสองข้าง เซินเป่าก็ถอนหายใจออกมาหนึ่งครั้ง
ฉู่เชียนหลีลืมตาที่สะลึมสะลือขึ้นมา ยื่นมือดึงเซินเป่าเข้ามาในอ้อมกอด และตบที่หลังของเขาเบา ๆ
“ท่านปู่ใหญ่มีเจ้าขาวและเจ้าชมพูคอยปกป้อง ลุงโม่เฟิงมีโต้เกิ๋นและเผิงเกิ๋นคอยอยู่ข้างกาย วางใจเถอะ ปกติแล้วการล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ผลิใช้เวลาเพียงสิบวัน สิบวันให้หลัง พวกเราก็กลับไป แล้ว”
นางออกมาในครั้งนี้ เดิมอยากจะพาท่านลุงมาด้วย แต่นางเป็นห่วงโสมหยกหิมะขาวที่อยู่ในจวน บกกับที่นั่งเก้าอี้เข็นขึ้นเขา เดินทางไม่สะดวกนัก เลยได้ให้อยู่ที่จวนตระกูลซู และให้เพียงท่านผู้พี่ตามมาด้วย
“ขอรับ ท่านแม่”
เซินเป่าพลิกตัว จงใจให้แก้มแตะที่ปลายจมูกของฉู่เชียนหลี
“หือ? ลูกชายแสนซนของใครกันนะ?”
ฉู่เชียนหลีจักจี้ที่รักแร้ของเซินเป่า
“ฮ่า ๆ ท่านแม่ ลูกชายของท่านเองอย่างไรเล่า!”
เฟิ่งเสวียนตู้ยื่นมือออกไปขวางขอบรถม้าเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เซินเป่าชนเข้าในตอนที่ดิ้นไปมา
บนรถม้าที่ด้านหลัง เซียวจวินยี่ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากทางด้านหน้า เขามองซูจิ่นจืออย่างกระตือรือร้น
“จิ่นจือ พวกเราออกไปขี่ม้ากันดีไหม?”
“เจ้าไปเถอะ ร่างกายของข้า ขี่ม้าไม่ได้”
เซียวจวินยี่แอบทำหึออกมาหนึ่งครั้ง สายตาที่มองซูจิ่นจือมีความคับแค้นใจอยู่เล็กน้อย
ไม่รู้ว่าใครกัน ที่เมื่อวานได้ผลักเขาออกไปไกลสองจั้ง
“เช่นนั้นเจ้าก็อึดอัดอยู่ที่นี่ไปเถอะ ข้าไปเล่นกับเซินเป่าก่อนล่ะ”
เซินเป่าหยอกล้ออยู่กับท่านแม่ของตนอยู่สักพัก แล้วได้ลุกขึ้นมาอย่างว่าง่าย ไม่ได้รบกวนฉู่เชียนหลีนอนพักผ่อนอีก
ทันใดนั้น เสียงของเซียวจวินยี่ก็ได้ดังลอยมาจากนอกรถม้า
“เซินเป่า เซินเป่า?”
“ท่านอาเซียว?”
เซียวจวินยี่ขี่ม้ามาที่ข้าง ๆ รถม้า ยิ้มแฉ่งมองมายังเซินเป่า: “ปะ ท่านอาเซียวพาไปขี่ม้าเล่น”
“เยี่ยมเลย!”
เซินเป่ารีบหันกลับไป มองฉู่เชียนหลีอย่างมีความหวัง
ฉู่เชียนหลีพยักหน้า และหลับตาพลางหาว: “ระวังตัวด้วย”
“ขอรับ ท่านแม่”
ดวงตาของเฟิ่งเสวียนตู้หม่นหมองลงไปเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ขัดขวางเซินเป่าที่ดีใจเป็นลิงโลด เพียงแค่ส่งสายตาให้กับเทียนชูและเทียนเสวียน สั่งให้พวกเขาคุ้มครองเด็กน้อยให้ดี
เซียวจวินยี่อุ้มเซินเป่าขึ้นมาบนม้า และพาเขาขี่ม้าวิ่งอ้อมเป็นวงเล็ก ๆ ที่บริเวณโดยรอบ ทำให้เซินเป่าหัวเราะชอบใจอยู่ไม่หยุด
“เซินเป่า เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเรากำลังจะไปทำอะไรกัน?”
“ท่านแม่บอกว่า ไปลานล่าสัตว์”
“อืม ฉลาดจริง ๆ เช่นนั้นเจ้าว่า ถึงหากได้พบเข้ากับเสือที่ลานล่าสัตว์จะทำเช่นไร?”
เซียวจวินยี่ยิ้มได้ใจ ปีที่แล้วตนได้เข้าร่วมการล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ร่วง เกียรติยศความรุ่งโรจน์จากการที่ตนล่าเสือได้ตัวหนึ่ง ในที่สุดก็หาคนโอ้อวดด้วยได้แล้ว
เซินเป่ารีบยกมือเล็ก ๆ ขึ้นมาทันที แล้วกล่าวเสียงดัง: “ข้ารู้ คุกเข่าเรียกท่านพ่อ!”
เมื่อเซียวจวินยี่ได้ยินคำตอบเช่นนี้ แทบจะตกลงมาจากหลังม้า: “เพราะ......เพราะอะไร?”
“เพราะเสือแม้จะร้ายแต่ก็ไม่กินลูกตัวเองอย่างไรเล่า?”
เซียวจวินยี่ตอบสนองไปชั่วขณะ ถึงจู่ ๆ ก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา: “ฮ่า ๆ ๆ”
เซินเป่าหันหน้ากลับมา แววตาเจ้าเล่ห์: “ข้าขอถามท่านอาเซียวถ้าหากบังเอิญพบกับเสืออยู่ในเขา มีเพียงท่านคนเดียว มีแค่มือเปล่า ร้องเรียกเสือว่าท่านพ่อมันก็ไม่ฟัง แล้วจะทำเช่นไรดี?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี
ไม่อัฟแล้วหรือคะ...
เรื่องนี้สนุกมากขอทางทีมงานอัพเดทต่อด้วยนะคะ😭...
อยากให้อัพเดทเรื่องนี้ต่อไปนะคะ😭...
เรื่องนี้สนุกมากไม่ลงตอนใหม่แล้วหรอค่ะ...
ขอร้องลงตอนใหม่ด้วยนะคะ😭...
เรื่องนี้ไม่ลงต่อแล้วหรอค่ะ...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทแล้วหรอค่ะ...