ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี นิยาย บท 88

ยอดเขาไต้หยุน บุรุษในชุดขาวผู้หนึ่งยืนอยู่บนยอดเขาที่สูงที่สุด เมื่อเห็นอินทรีมู่หยูกลับมา รอยยิ้มประจบสอพลอก็ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าทันที

“อินทรีมู่หยู เจ้าพักผ่อนก่อน รอถึงตอนกลางคืน ก็ถึงเวลาที่พวกเราจะทำให้ทั่วทั้งตงเสวียนสั่นสะเทือนแล้ว!”

อินทรีมู่หยูหยุดอยู่บนก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง ทำความสะอาดขนของตน โดยไม่ได้สนใจบุรุษที่กำลังกล่าวอยู่เลยสักนิด

บุรุษผู้นั้นกลับไม่ได้ใส่ใจ และเดินเข้าไปช่วยแปรงขนให้กับอินทรีมู่หยู จากนั้นก็ได้หยิบข้าวทิพย์ออกมากำหนึ่งแล้วประเคนให้

อินทรีมู่หยูกระพือปีกอย่างยิ่งยโส แล้วก้มหน้าลงกินอาหาร

ในพระราชนิเวศน์ เพราะเรื่องของไก่ขนม่วง ฮ่องเต้จึงได้เรียกเหล่าขุนนางให้มาประชุม ส่วนฉู่เชียนหลีนั้นได้อยู่ในห้องกับเซินเป่า

เฟิ่งเสวียนตู้ยกน้ำชาและของว่างเข้ามา ก็ได้เห็นฉู่เชียนหลียื่นแขนออกมา เลิกแขนเสื้อขึ้น ปรากฏให้เห็นข้อมือขาว ๆ บนข้อมือ กำไลหยกเลือดหงส์เปล่งประกายงดงาม

เซินเป่านั่งลงไปที่ข้างเก้าอี้ ประเคนกำไลหยกเลือดขึ้นมาอย่างระมัดระวัง ปากเล็ก ๆ ก็เริ่มขมุบขมิบ

“กำไลน้อย เซินเป่าอยากได้ไหมเงือก! เซินเป่าอยากได้ไหมเงือก......”

เฟิ่งเสวียนตู้ฝีเท้าชะงักไปเล็กน้อย และกล่าวอย่างงุนงง: “ทำอะไรกัน?”

ฉู่เชียนหลีหยิบของว่างขึ้นมาก้อนหนึ่งแล้วใส่ลงไปในปาก และเอ่ยตอบ: “พอพรน่ะ!”

“จะได้ผลได้อย่างกัน?”

ฉู่เชียนหลีเงยหน้า: “เมื่อก่อนข้าเองก็ไร้เดียงสาเหมือนกับเจ้า”

สู้เอาเป็นเอาตายอยู่ที่องค์กรกาลเวลามานานหลายปี นางเชื่อมาตลอดว่ามีให้ถึงจะมีได้ ต่อมาได้เห็นความรักความเข้าข้างที่กำไลหยกเลือดหงส์มีต่อเซินเป่า นางถึงพลันเข้าใจขึ้นมา

ในตอนที่เจ้าวิ่งไปข้างหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่นั้น ก็ได้มีขึ้นคนรถสปอร์ตไปเสียแล้ว

เพราะฉะนั้น ทำใจให้ชินก็พอ

เฟิ่งเสวียนตู้หลุดหัวเราะออกมา จากนั้นก็ส่ายศีรษะ

กำไลหยกเลือดหงส์เป็นสมบัติของเผ่าหงส์ แต่สืบทอดกันมา เป็นสัญลักษณ์ของราชินีหงส์มาโดยตลอด อย่างมากก็แค่ช่วยเพิ่มแรงผูกติดระหว่างเผ่าหงส์และไฟประหลาดเท่านั้นเอง และสะดวกต่อการให้กำเนิดทายาท ส่วนอย่างอื่น......

“แปะ!”

เสียงหนึ่งดังขึ้น เส้นไหมม้วนหนึ่งตกลงมาบนโต๊ะ

เซินเป่าดวงตาเป็นประกายขึ้นมา และจูบลงไปบนกำไลหยกเลือดหงส์

“ขอบคุณกำไลน้อย ท่านแม่ รีบดูเร็ว อันนี้ใช้ได้หรือไม่?”

ฉู่เชียนหลีหยิบของที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมา ใช้นิ้วลองบิดไปมา: “ใช้ได้!”

“ท่านแม่ แล้วจะจับไก่ขนม่วงได้ไหมขอรับ?”

“ไม่มีปัญหา!”

ฉู่เชียนหลียกแขนขึ้นแล้วโบกไปมา และส่งรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งให้กับเฟิ่งเสวียนตู้

“กำไลน้อย เจ้าไม่เลวเลยจริง ๆ !”

บนกำไลหยกเลือดหงส์ เหมือนมีแสงแวบผ่านไปราง ๆ และหายไปในทันที

ฉู่เชียนหลียิ้มเยาะ: เหอะ ๆ ในที่สุดนางก็พบเข้ากับข้อลับลมคมในแล้วสินะ?

นางว่าแล้วเชียว คนในองค์กรกาลเวลาพวกนั้น มีใครบางที่ไม่ถูกนางสั่งสอนจนเชื่อฟัง ถ้าหากมีประสงค์ร้ายต่อนางจริง ๆ ก็ควรที่จะวางแผนสังหารนางอย่างไม่อาจหนีรอดไปได้ แต่ไม่ใช่ทิ้งให้มาอยู่ที่นี่โดยไม่ถามสารทุกข์สุกดิบ

ไหมเงือกม้วนนี้นางได้มาตอนที่เข้าไปในโลกแห่งปีศาจ ปีศาจเงือกได้เป็นผู้สร้างขึ้น ตกน้ำไม่ละลายตกไฟไม่ไหม้ ทอเป็นผ้า กลายเป็นผ้าคลุมเงือกแยกพลังวิญญาณ ทำให้ล่องหนได้ เป็นสมบัติวิเศษของโลกแห่งนั้น

ตามหลักแล้ว ของประเภทนี้อยู่ในขอบเขตที่องค์กรกาลเวลาจะเก็บเอากลับไป

ทว่าในตอนนี้ มันกลับได้หล่นออกมาจากกำไลหยกเลือดหงส์ นั่นก็หมายความว่า กำไลบัดซบนี่ได้ซ่อนเครื่องมือของนางเอาไว้มากกว่านี้ใช่หรือไม่?

เซินเป่าสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของฉู่เชียนหลี จึงได้รีบวิ่งเข้ามาดึงแขนเสื้อของนางเอาไว้ในทันที

“ท่านแม่ เป็นอะไรไป? อารมณ์ไม่ดีหรือเปล่า?”

ฉู่เชียนหลีลูบศีรษะเล็ก ๆ ของเขา

“ไม่หรอกจะ ท่านแม่อารมณ์ดีมาก อีกไม่นานก็จะให้ลูกได้ทานไก่ขนม่วงตุ๋นโสมชื่อหยุน”

“ขอรับ”

เฟิ่งเสวียนตู้นั่งอยู่ที่ด้านข้าง เขาอ้าปากอยู่บ่อยครั้ง สุดท้ายก็เก็บเอาความตกตะลึงที่อยู่ภายในใจเอาไว้

กำไลหยกเลือดหงส์สามารถขอพรได้จริง ๆ เช่นนั้นหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอร้อยพิษสยบปฐพี