ยอดหมอสาวน้อย นำช่องอวกาศมาทำนา นิยาย บท 5

หลังจากที่นางจงรับวอวอโถวเนื้อหยาบครึ่งหนึ่งมา เหยี่ยนเสี่ยวซื่อก็กัดอีกครึ่งหนึ่งที่อยู่ในมือของตัว พอกัดไปหนึ่งคำ ออกแรงเคี้ยว กำลังจะกลืนลงคอ แต่ก้อนแป้งเนื้อหยาบเกือบทำนางสำลักตาย

ชาติที่แล้ว แม้ว่าเธอจะเติบโตในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่เธอก็ไม่เคยกินอาหารเนื้อหยาบแบบนี้เลย

เหยี่ยนซูอวิ๋นที่นั่งอยู่ข้างๆรีบวางวอวอโถวในมือแล้วช่วยตบหลังให้: "เสี่ยวซื่อ เจ้าคงหิวมากเป็นแน่ กินช้าหน่อย"

เหยี่ยนเสี่ยวซื่อยิ้มอย่างขมขื่น

“ท่านแม่ ลูกจะให้วอวอโถวลูกนี้กับท่าน ลูกจะดื่มน้ำแกงผักแทน”

นางมอบวอวอโถวที่เหลือให้นางจง แล้วตักน้ำแกงผักหนึ่งชาม ซดน้ำแกงและกินผักลงท้องไปพร้อมกัน

น้ำแกงผักมีรสชาติเข้มข้น ทำให้ในปากมีรสขมเล็กน้อย

โชคดีที่ว่าน้ำแกงผักรสชาติที่ดีกว่า วอวอโถว

หลังกินอาหารเย็นเสร็จ นางจงก็ทำความสะอาดห้องครัว ฟ้าด้านนอกก็มืดแล้ว

ครอบครัวนี้ยากจนมาก แม้กระทั่งเรื่องกินยังเป็นปัญหา ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ไม่จุดตะเกียงน้ำมัน พอตกกลางดึก นางจงเหยี่ยนซูฉิ๋น เหยี่ยนซูเสวี่ย เหยี่ยนซูอวิ๋น กลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อน เหยี่ยนเสี่ยวซื่อยังไม่ง่วง จึงเอนหลังอยู่บนเตียง ตาที่เบิกกว้างกำลังจ้องมอง หลังคาที่มุงจากหญ้าคา

เมื่อลมราตรีพัดกระหน่ำ นางก็ได้ยินเสียงหลังคาสั่นไหว

เกรงว่าศาลเจ้าแห่งนี้คงอยู่ได้ไม่นานแล้ว

ในถิ่นทุรกันดารทางตะวันตกของราชวงศ์ต้าฉู่ ประมาณกลางเดือนสิบสองจะมีหิมะตก ตอนนี้เทศกาลไหว้พระจันทร์เพิ่งผ่านพ้นไป ยังมีเวลาอีกสามเดือนกว่า นางจะต้องลงมือก่อนที่หิมะจะตก หาหนทางซื้อที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ ไม่เช่นนั้น พอหิมะตกหนัก ศาลเจ้าคงจะพังเป็นแน่ สมาชิกทั้งห้าคนคงต้องคนเร่ร่อนไม่มีที่อยู่

เธอถือว่าตัวเองเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัวตระกูลเหยี่ยนอย่างไม่รู้ตัว

จะมีวิธีไหนบ้าง ในเมื่อมาถึงที่นี้แล้ว คงต้องเป็นตัวแทนของเหยี่ยนเสี่ยวซื่อ เพื่อมีชีวิตอยู่ต่อไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอสาวน้อย นำช่องอวกาศมาทำนา