ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 957

บทที่ 957 ท่านปู่ผู้เยาว์วัย

กงชิงเห้าเทียนวางคนลง ถอดชุดเกราะบนร่างออกแล้วโยนทิ้งไปอีกด้าน ข้างในเกราะล้วนอาบเปื้อนไปด้วยเลือดแดงฉาน

มู่หมั่นจือถดกายถอยหนีไปข้างหลัง: "เจ้าจะทำอะไรน่ะ?"

กงชิงเห้าเทียนจ้องมองนางครู่หนึ่ง จากนั้นจึงเดินไปนั่งขัดสมาธิลงที่พื้น: "เจ้าแต่งงานแล้วหรือไม่?"

“ หน้าไม่อาย!”

"ท่านย่าของข้าชอบพูดว่าท่านปู่หน้าไม่อาย ท่านปู่ยังบอกอีกว่าคำ ๆ นี้ฟังแล้วรื่นหูนัก ข้าไม่เคยเชื่อเลยสักครั้ง ไม่คิดว่าจะฟังรื่นหูจริง ๆ เสียด้วย!"

"ข้าแต่งงานแล้ว" เมื่อเห็นว่ากงชิงเห้าเทียนเตรียมจะลงมือแล้ว มู่หมั่นจือก็ตกใจจนร้องตะโกนออกไป

กงชิงเห้าเทียนถามว่า: "ชื่ออะไรหรือ ? สามีของเจ้าน่ะ!"

“ ซือถูฟ่าง!”

สีหน้าของกงชิงเห้าเทียนพลันเย็นชา: "ซือถูฟ่าง?"

"อื้ม"

........

ทั้งสองมองหน้าประสานสายตากันอีกครั้ง กงชิงเห้าเทียนใช้มือเดียวฉีกกระชากชุดเกราะของมู่หมั่นจือออก มู่หมั่นจือตกตะลึงตัวแข็งทิ่อ กงชิงเห้าเทียนโยนเกราะของนางทิ้งไปส่ง ๆ แววตาเย็นชาเสียดแทง

"เจ้า ... ข้าจะฆ่าเจ้า!" มู่หมั่นจือยกมือขึ้นได้ก็ฟาดลงไปทันที กงชิงเห้าเทียนผลักนางกระเด็นออกไป นางล้มหงายลงไปนอนอยู่บนพื้น กงชิงเห้าเทียนจี้สกัดจุดชีพจรบนร่างของนางทันที ถอดทิ้งชุดเกราะที่หุ้มร่างกายส่วนล่างออกมาตรง ๆ แล้วโยนทิ้งไป

มู่หมั่นจือตวาดด่าเขาดังลั่น: "เจ้ามันเดรัจฉาน!"

กงชิงเห้าเทียนใช้มือคลำสัมผัสลงไป มู่หมั่นจือตกตะลึงจนตัวแข็งทื่อไปโดยสิ้นเชิงแล้ว

กงชิงเห้าเทียนออกแรง ขาของมู่หมั่นจือส่งเสียงดัง กร๊อบ เสียงหนึ่ง ก็กลับเข้าที่อย่างเก่า มู่หมั่นจือเจ็บจนหน้าเปลี่ยนเป็นสีม่วงไปทั้งหน้าแล้ว

กงชิงเห้าเทียนคลายจุดชีพจรให้นาง แล้วลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก มู่หมั่นจือตะเกียกตะกายลุกขึ้น ตามออกไปคว้าดาบขึ้นมาแทงเข้าใส่ทันที กงชิงเห้าเทียนหันมาเตะสกัด ทั้งสองจึงลงมือต่อสู้กันอีก มู่หมั่นจือถูกปัดจนดาบกระเด็นหลุดออกจากมือ ร่วงจากท้องฟ้าลงมา แลเห็นเต็มสองตาว่ามันตกลงมาพร้อมจะเสียบเข้าที่หัวของนางแล้ว กงชิงเห้าเทียนจึงสะบัดดาบออกไปกระบวนท่าหนึ่ง

ดาบเล่มนั้นพลันกระเด็นไปปักลงบนพื้น มู่หมั่นจือตกตะลึงอึ้งค้าง

กงชิงห่าวเทียนหันหลังกลับ กระชับดาบในมือเตรียมจากไป มู่หมั่นจือเหลือบมองดาบเล่มนั้น เดินไปดึงมันออกมา

กงชิงเห้าเทียนไปถึงใต้หน้าผา แหงนหน้ามองแล้วกระโดดขึ้นไป มู่หมั่นจือตามขึ้นไปติดๆ วิชาตัวเบาของทั้งสองล้วนไม่เลว จึงขึ้นไปได้ไม่ยาก

แต่ไปได้แค่ครึ่งทาง มู่หมั่นจือเกิดเหยียบพลาด คนจึงร่วงตกลงไปอีกครั้ง

มู่หมั่นจือหวีดร้องเสียงแหลม กงชิงเห้าเทียนหันกลับมา เหวี่ยงโซ่กักวิญญาณออกไปคล้องเข้าที่ข้อมือของนาง ดึงนางขึ้นมาแล้วโยนขึ้นไปข้างบนตรงๆ ระหว่างทางขึ้นไปกงชิงเห้าเทียนกอดเอวของมู่หมั่นจือขึ้นไปจนสุดทาง

หลังปล่อยคน กงชิงเห้าเทียนก็หันหลัง เตรียมตัวจากไป

ในเวลานั้นเอง บริเวณโดยรอบต่างมีคนแอบซุ่มอยู่ พลันพุ่งทะยานออกมาขวางทางกงชิงเห้าเทียนเอาไว้ แต่ละคนมีคันธนูและลูกศรอยู่ในมือ หันเล็งไปทางกงชิงเห้าเทียน

กงชิงเห้าเทียนหันกลับมามองดูมู่หมั่นจือ แล้วโยนดาบในมือทิ้งไป

คนกลุ่มนั้นจึงเข้ามาจับคน พาตัวไปทั้งอย่างนั้น มู่หมั่นจือเองก็กลับไปพร้อมกัน

ระหว่างทางมู่หมั่นเฉิงเอ่ยถามมู่หมั่นจือ: "น้องเล็ก เขาทำร้ายเจ้าหรือไม่?"

"ไม่เจ้าค่ะ"

มู่หมั่นจือหันไปมองกงชิงเห้าเทียนที่ถูกพาตัวไป: "จะจัดการกับเขาอย่างไรเจ้าคะ?"

"เดาว่าคงต้องตายนั่นล่ะ ซือถูฟ่างยิ่งกังวลอยู่ว่าจะบีบบังคับพวกเขาอย่างไรดี"

เมื่อสองพี่น้องกลับไป มู่หมั่นจือพักผ่อนได้ครึ่งวัน ก็ไปที่ค่ายทหารพบซือถูฟ่าง

ซือถูฟ่างอายุสามสิบ มีภรรยาหนึ่งคน แต่เสียชีวิตไปแล้ว

เมื่อเห็นมู่หมั่นจือ ซือถูฟ่างก็เดินเข้าไปหานาง: "กลับมาแล้วหรือ?"

"อื้ม"

ซือถูฟ่างจูงมือมู่หมั่นจือเดินไปด้านหน้า นางรีบดึงมือออกไปวางไว้ด้านหลัง

ซือถูฟ่างก็เป็นผู้ชายที่นับได้ว่าหล่อเหลาไม่ธรรมดาผู้หนึ่ง เขาฉลาดหลักแหลม มีไหวพริบและรู้จักวางกลยุทธ์

แต่ในสายตาของมู่หมั่นจือแล้ว จู่ ๆ นางก็รู้สึกว่าไม่คุ้มค่าที่จะกล่าวถึงขึ้นมาเฉย ๆ

ซือถูฟ่างหันหลัง แววตาเย็นชาลงไปเล็กน้อย: "เจ้าทำอะไร?"

"ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นแหล่ะ เจ้าปล่อยคนนั้นไปเถอะ เขาช่วยข้าไว้ ถ้าไม่มีเขา ข้าก็คงจะขึ้นมาไม่ได้แน่"

“ เขาเป็นศัตรู อย่างไรก็ต้องตาย อีกทั้งต้องใช้เขาเพื่อข่มขู่กงชิงยี่เหรินด้วย”

“ แต่เขาช่วยข้าไว้”

"คนที่จะสร้างสิ่งยิ่งใหญ่ ไม่ควรยึดติดกับเรื่องอะไรเล็กน้อย เจ้าควรให้ความสำคัญกับสถานการณ์โดยรวมก่อน เจ้าคือคนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นฮองเฮาของข้านะ" ซือถูฟ่างพูดจาราวกับว่าตนเองมีเหตุมีผล เต็มไปด้วยสัจธรรมอันถูกต้องอย่างยิ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน