ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 230

ตอนที่ 230 ผู้ที่ตอบแทนบุญคุณคนด้วยความแค้น

อันหลิงหยุนเริ่มต้นการผ่าตัด หมอจวนรู้สึกภูมิใจมาก พวกเขาล้วนมีประสบการณ์ตั้งนานแล้ว เรื่องผ่าเปิดหน้าท้อง แทบจะไม่ต้องให้พระชายาเอ่ยปากก็ยังได้

อันหลิงหยุนรีบผ่าตัดนำถุงน้ำดีออก จากนั้นจึงเย็บปิดอีกครั้ง

เมื่อครบสองชั่วยาม อันหลิงหยุนก็เสร็จสิ้นการผ่าตัด นางตัวสั่นโอนเอนเกือบจะล้มลง กงชิงวี่ยืนอยู่ข้างๆรอนางอยู่นานแล้ว เขาเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเข้าไปอุ้มนางทันที

อันหลิงหยุนเหนื่อยแล้ว กงชิงวี่ค้อมตัวลงอุ้มนางไปนั่งอีกด้าน

อันหลิงหยุน อดดูถูกตัวเองไม่ได้ ร่างกายนี้ช่างน่าผิดหวังยิ่งนัก

"หมอจวน ทำความสะอาดเร็วเข้า"

หมอจวนมือเท้าคล่องแคล่ว ใช้เวลาไม่นาน ก็ทำความสะอาดโต๊ะผ่าตัดเสร็จเรียบร้อย

อันหลิงหยุนพักผ่อนเพียงครู่ จึงเปลี่ยนยาให้กับเฉิงเสี้ยงฮูหยิน

"อาการตอนนี้เท่าที่ดูก็ไม่มีอันใดแล้ว ให้ย้ายไปที่เตียง ข้าจะรั้งอยู่ที่นี่เฝ้าระวังอาการ ในช่วงสามวันนี้ ห้ามใครเข้ามาที่นี่โดยเด็ดขาด ผู้ป่วยต้องการความเงียบสงบและควรพักผ่อนให้มาก ไม่ว่าใครก็ไม่ควรเข้ามาส่งเสียงดัง"

ทุกคนล้วนให้ความร่วมมือ เสินหยุนชูก็ออกไปข้างนอก

ในห้องเหลือเพียงเสินหยุนเจ๋และกงชิงวี่ อันหลิงหยุนฝากหมอจวนสองคนของจวนเอ๋องเสียน ให้ช่วยคอยดูแลอาการ นางออกไปมอบหมายให้อาหยู่ ที่มากับหมอจวน ให้ไปยังจวนอ๋องเสียนนำยาปฏิชีวนะที่เหลือมายังที่นี่

ช่วงพลบค่ำ เฉิงเสี้ยงฮูหยินรู้สึกตัวตื่นแล้ว

ลืมตาขึ้นมาเสินฮูหยินจึงเอ่ยปากเรียก“ สา ... ”

"ท่านแม่ ... " เสินหยุนเจ๋เห็นเฉิงเสี้ยงฮูหยินฟื้นขึ้นมาแล้ว จึงลุกขึ้นไปดูคน

น้ำตาเอ่อล้นท่วมท้นดวงตา สองคนทั้งมารดาและลูกชาย อันหลิงหยุนถอนหายใจได้ด้วยความรู้สึกโล่งอก

"ท่านอ๋อง ข้าเหนื่อยแล้ว พวกเราไปพักผ่อนกันเถอะ" อันหลิงหยุนโอนเอนขณะที่ก้าวเดิน ขาทั้งสองข้างเหมือนไม่ทำตามคำสั่ง นางกังวลว่าจะมีอันใดเกิดขึ้นกับเด็ก แต่ก็ทนไม่ได้ที่เห็นการตายแล้วไม่ช่วย

ถึงกระไร นั่นก็คือชีวิตคนหนึ่งคนเชียวนะ

กงชิงวี่เดินไปยังข้างกายของอันหลิงหยุน ค้อมตัวลงไปอุ้มนางขึ้นมา ออกไปหาห้องพักเพื่อพักผ่อนสักครู่

ฮ่องเต้ชิงหยู่บังเอิญเสด็จออกมาจากอีกห้อง ทอดพระเนตรเห็นกงชิงวี่ จึงตรัสถามว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น

แม่นมซีรีบกราบทูลถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ฮ่องเต้ชิงหยู่จึงทรงทราบเรื่อง การผ่าตัดเฉิงเสี้ยงฮูหยิน

เสินหยุนชูยืนเหม่อลอยอยู่ในสวน แต่เมื่อฮ่องเต้ชิงหยู่เสด็จเข้าไป นางจึงสังเกตเห็น หันกายกลับมาพลางเช็ดน้ำตา: "ฝ่าบาท"

“ ในเมื่อพระชายาเสียนลงมือรักษา ย่อมรับรองได้ว่าต้องปลอดภัยไร้เรื่องราวอย่างแน่นอน ไม่ต้องทุกข์ใจอีกต่อไปแล้ว?” ฮ่องเต้ชิงหยู่โอบกอดฮองเฮาเข้ามาในพระอุระ

เสินหยุนชูพยักหน้าและหยุดร้องไห้แล้ว

อันหลิงหยุนนอนหลับไปเป็นเวลาหนึ่งวัน ถึงค่อยตื่นขึ้นมาในตอนดึก

เมื่อตื่นขึ้นมา จึงไปตรวจดูอาการของเฉิงเสี้ยงฮูหยิน

เฉิงเสี้ยงฮูหยินตื่นขึ้นมาแล้วเช่นกัน แต่นางเจ็บจนถึงกับร้องไห้ออกมา

อันหลิงหยุนฉีดยาให้นางเข็มหนึ่ง นางจึงสามารถนอนหลับลงได้

เสินเฉิงเสี้ยงซาบซึ้งใจจนถึงกับพูดไม่ออก: "อ๋องเสียน ข้าติดค้างหนี้ชีวิตเจ้าชีวิตหนึ่ง"

หลิงหยุนเป็นคนดี ขอเพียงเกิดเรื่องขึ้นมา พวกท่านไม่โทษเราก็พอแล้ว" กงชิงวี่กล่าวอย่างไม่ไว้หน้า ถึงแม้กับเสินเฉิงเสี้ยงเขาก็เป็นเช่นนี้

ที่ช่วยคน ก็เป็นเพียงเพื่อฮองเฮาเท่านั้น หากเกิดเรื่องอันใดขึ้นกับจวนเฉิงเสี้ยง ฮองเฮาก็ย่อมเกิดเรื่องด้วยเช่นกัน เขาเป็นห่วงเด็กในท้องของเสินหยุนชู

อันหลิงหยุนมาถึงรู้สึกไม่เห็นด้วย เดินเข้าไปตรวจอาการเฉิงเสี้ยงฮูหยิน คอยถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของนางอยู่ตลอด

เฉิงเสี้ยงฮูหยินซาบซึ้งใจจนหาใดเปรียบทุกทิศทุกที่ไม่มีว่างเว้น ทันทีที่อันหลิงหยุนออกไป เฉิงเสี้ยงฮูหยินก็ส่งคนไปเชิญเสินหยุนชูทันที

เสินหยุนชูรออยู่ที่ประตูนานแล้ว เข้าประตูมาเห็นมารดาฟื้นขึ้นมาแล้ว จึงอดร้องไห้ออกมาไม่ได้

"ท่านแม่" เสินหยุนชูรีบเดินไปที่เตียง เข้าไปเยี่ยมเฉิงเสี้ยงฮูหยิน

"เจ้าช้าลงหน่อยเถิด เจ้ากำลังจะเป็นแม่คนอยู่แล้ว" เฉิงเสี้ยงฮูหยินฝืนจนพูดออกมาได้ นางรู้สึกไม่สมัครใจที่ต้องมาเห็น ท่าทางซีดเซียวของบุตรสาวเช่นนี้

เมื่อมองไปที่คนอื่น ๆ ในห้อง เฉิงเสี้ยงฮูหยินใช้สายตาสื่อสารให้ทุกคนลงไปก่อน

การได้พบหน้าบุตรสาวนับเป็นสิ่งที่ล้ำค่า เฉิงเสี้ยงฮูหยินหวังเพียงว่า เสินหยุนชูจะสามารถให้กำเนิดเด็กได้อย่างปลอดภัยราบรื่น

ทุกคนล้วนออกไปจนหมด เสินหยุนชูเช็ดน้ำตา: “เป็นเพราะลูกไม่ดีเอง ท่านแม่ต้องเป็นเช่นนี้ก็เพราะข้าแท้ๆ”

เฉิงเสี้ยงฮูหยินส่ายหน้า “ แม่รู้ว่าลูกเข้าวังไปต้องพบเรื่องน้อยเนื้อต่ำใจเช่นไร แต่นี่คือชีวิตของเจ้า แม่หวังเพียงให้ลูกประพฤติตนตามภาระหน้าที่อันพึงกระทำ ไม่ออกนอกลู่นอกทาง เป็นคนที่อยู่ในกรอบอันดีงาม”

“อดีตผ่านไปแล้วก็ให้ผ่านไปเถอะ ในอนาคตเมื่อเจ้าให้กำเนิดลูกของฮ่องเต้ ก็จงปรนนิบัติรับใช้ฝ่าบาทให้ดี”

เสินหยุนชูพยักหน้า ถือได้ว่าเป็นการรับปากเรียบร้อยแล้ว

เฉิงเสี้ยงฮูหยินร่างกายยังอ่อนแออยู่มาก หลับตาลงฝืนอดทนต่อความเจ็บปวด และพักผ่อนไป

เสินหยุนชูจึงออกไป จากนั้นจึงตามเสด็จฮ่องเต้ชิงหยู่กลับวัง

นางมีฐานะเป็นฮองเฮา แม้จะออกจากวังนางก็ไม่สามารถออกนานจนเกินไปได้

เสินหยุนชูตามเสด็จฮ่องเต้ชิงหยู่กลับวัง อันหลิงหยุนเฝ้ามองดูอยู่ในห้อง นางไม่ได้ออกไปโดยอ้างว่านางหลับสนิทไปแล้ว

แต่เมื่อดูเสินหยุนชูจากไป อันหลิงหยุนยังคงรู้สึกว่า คนที่โหดเหี้ยมที่สุดก็คือฮ่องเต้นี่เอง

ความยิ่งใหญ่ของราชวงศ์อยู่เหนือกว่าทุกสิ่ง แม้ว่าจะเป็นสตรีที่รักมากมายเพียงใด ในตอนนี้สถานการณ์มารดาของนางเป็นถึงขนาดนี้ ลูกสาวก็ยังต้องจากไปไม่อาจอยู่ด้วยได้

อันหลิงหยุนรอจนฮ่องเต้ชิงหยู่เสด็จจากไป จึงออกมาจากห้อง ไปตรวจอาการเฉิงเสี้ยงฮูหยิน เมื่อนางเห็น อันหลิงหยุนจึงกล่าวขอบคุณออกมาเสียงหนึ่ง

“ คืนนี้ท่านอาจจะรู้สึกเจ็บปวดมาก ข้าได้เตรียมยาชาไว้ให้แล้ว แต่ยาชาไม่เอื้อต่อการฟื้นตัวของท่านนัก และไม่สามารถใช้มากจนเกินไปได้” อันหลิงหยุนอธิบายอย่างเป็นกิจวัตรประจำวันที่ทำประจำ .เฉิงเสี้ยงฮูหยินจึงมองนางนิ่ง

เฉิงเสี้ยงฮูหยินคิดกระไรก็ไม่เข้าใจว่า เพราะเหตุใดอันหลิงหยุนถึงได้ช่วยนาง

ความเป็นความตายของนาง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อมุมมองของตระกูลเสิน ที่มีต่อตระกูลอันอยู่แล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องราวทั้งหลายภายในวังเหล่านั้น นางก็ควรจะรู้ว่า ทั้งหมดเป็นเพราะฮองเฮาทั้งสิ้น

“พระชายาเสียน เรื่องที่เจ้าถูกลอบสังหารในวัง ตรวจสอบแน่ชัดแล้วหรือไม่?” เฉิงเสี้ยงฮูหยินอดถามไม่ได้

อันหลิงหยุนตรวจอาการเฉิงเสี้ยงฮูหยินเสร็จ จึงเงยหน้าขึ้น "เรื่องในวังข้าเองก็ไม่แน่ชัด การตรวจสอบนั้นมีการตรวจสอบแน่นอนแล้วแต่ผลสรุปเป็นเช่นไร ข้าไม่อาจรู้ได้"

“ พระชายาเสียน มีเรื่องหนึ่งที่หม่อมฉันไม่ทราบ”

“เชิญฮูหยินว่ามาเถิด”

“ ข้างนอกล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฮองเฮาเป็นผู้ลงมือกระทำทั้งหมด พระชายาเสียนมีความคิดเห็นกระไรหรือ?”

"ฮูหยิน ข้าไม่คิดเห็นว่ากระไร แต่เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านเป็นห่วงนั้น ข้าสามารถออกความคิดเห็นได้สักสองสามประโยค”

“ความรักที่ฮ่องเต้ทรงมีให้ฮองเฮานั้น คือสิ่งที่ทุกคนเห็นชัดอยู่กับตาแล้ว ไม่เช่นนั้นหลายปีที่ผ่านมาฝ่าบาทย่อมไม่ทรงปล่อยให้วังหลังว่างเปล่าเช่นนั้น ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง เรื่องที่พาฮองเฮาตามเสด็จออกนอกวังยามวิกาล เพื่อมาเยี่ยมเยียนอาการฮูหยินเช่นนี้”

“ฝ่าบาททรงปกป้องตระกูลเสิน เพราะเหตุใดจึงเชื่อว่าเป็นเพราะฮองเฮา นั่นก็คงเป็นเพราะตระกูลเสินอีกเช่นกันนั่นล่ะ”

ตระกูลเสินทำคุณประโยชน์มากมายให้กับราชสำนัก มีความจริงใจต่อฝ่าบาท

ฮูหยินไม่รู้สึกว่า ฝ่าบาททรงให้ความสำคัญกับแม่ทัพน้อย และแม่ทัพใหญ่บ้างเลยหรือ? "

คำพูดของอันหลิงหยุนสิ้นสุดลงเท่านี้ ก็หวังว่า การผ่าตัดให้เฉิงเสี้ยงฮูหยิน คงจะไม่กลายเป็นการกระทำที่สูญเปล่าแล้วกัน

เฉิงเสี้ยงฮูหยินมองไปยังอันหลิงหยุน เหมือนดั่งตัวเองตกอยู่ในภวังค์ จู่ๆนางก็เข้าใจแล้วว่า เพราะเหตุใดบุตรสาวของนางจึงได้ทำเช่นนั้น

อันหลิงหยุนออกไป ความกังวลของเฉิงเสี้ยงฮูหยิน ไม่เพียงลดน้อยลง แต่กลับกลายเป็นยิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเสียอีก

มีคนที่ความคิดอ่านมองทะลุปรุโปร่งเช่นนี้ แล้วชูเอ๋อของนางจะทำกระไร?

หลังจากอันหลิงหยุนรั้งอยู่ในจวนเฉิงเสี้ยงเป็นเวลาสามวัน ในสามวันนี้ ร่างกายของเฉิงเสี้ยงฮูหยินฟื้นตัวได้ไม่เลวทีเดียว นางจึงนับว่ารู้สึกสบายใจขึ้นบ้าง

หลังจากผ่านพ้นสามวัน อันหลิงหยุนไปตรวจร่างกายเฉิงเสี้ยงฮูหยิน เมื่อตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าไม่มีอันใดผิดปกติ จึงจ่ายยาไว้แล้วจากไป

เมื่อมองไปยังเงาร่างด้านหลังของอันหลิงหยุนที่เดินจากไป เสินเฉิงเสี้ยงก็หันไปมองยัง เฉิงเสี้ยงฮูหยินที่นอนอยู่บนเตียง

“ ฮูหยิน เจ้าเองก็คิดว่าพระชายาเสียน เก็บไว้ไม่ได้เช่นกันหรือ?” เสินเฉิงเสี้ยงได้ยินที่เฉิงเสี้ยงฮูหยินพูดเมื่อคืน

เฉิงเสี้ยงฮูหยินพยักหน้า: "ท่านนายไม่เคยได้พูดคุยกับนาง ย่อมไม่เข้าใจความกังวล ยามที่ได้เผชิญหน้ากับนาง หม่อมฉันเข้าใจแล้วว่า เพราะเหตุใดชูเอ๋อจึงได้ทำเช่นนั้น"

เสินเฉิงเสี้ยงไม่เอ่ยคำ ต่อให้เขาจะต้องรับมือ นั่นก็นับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

อันหลิงหยุน ออกจากจวนเฉิงเสี้ยงมาเตรียมตัวขึ้นรถม้า เสินหยุนเจ๋รีบเรียกนางเอาไว้: "พระชายาเสียนโปรดรอก่อน"

หลิงหยุนพลันหดหู่ใจ กลัวอันใดได้อย่างนั้นเสียจริง!

อันหลิงหยุนหมุนกายกลับไปมองด้านหลัง ถามว่า "แม่ทัพน้อยมีสิ่งใดหรือ?"

กงชิงวี่ยังไม่ได้เข้าไปในรถ แต่จิตสังหารของเขาที่แผ่ออกมานั้น ทำให้อันหลิงหยุนรู้สึกกังวลใจอย่างยิ่ง

“ ท่านอ๋อง ขึ้นมาเพคะ”

อันหลิงหยุนยื่นมือให้กงชิงวี่ เขาจับมือนางเอาไว้ จิตใจจึงได้รู้สึกสงบขึ้นมาได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน