ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 268

บทที่ 268 แม่นมซีฝังอยู่ที่ใด

อันหลิงหยุนพิงอยู่ที่ขอบประตูอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมคิดว่าจะจบลงเช่นนี้แล้ว คาดไม่ถึงกงชิงวี่กล่าว: “ในเมื่อเรื่องนี้มาจากวังเฟิ่งหยี เราจึงต้องควบคุมตัวเสินเฉิงเสี้ยง เสินหยุนเจ๋ กักบริเวณฮองเฮา ปิดล้อมเมืองหลวง ปิดล้อมจวนเฉินเสี้ยง”

“พ่ะย่ะค่ะ”

มีคนรับคำสั่ง กงชิงวี่มองไปยังแม่นมซี กล่าว: “นำศพของแม่นมซีแขวนไว้หน้าประตูวังสามวัน เพื่อเป็นตัวอย่าง”

“……”

อันหลิงหยุนมองไปกงชิงวี่ในร่างชุดดำ ตกใจเป็นอย่างมาก เป็นคนก็ไม่มีผู้ใดสามารถทำเรื่องเช่นนี้ได้

มีคนรับคำสั่งไปจัดการ ร่างของแม่นมซีถูกลากออกไป ยังมีไม้กางเขนขนาดใหญ่บนลำตัว

อันหลิงหยุนมองแม่นมซีผ่านตรงหน้าไป ขาสั่นไปหมด

แม่นมซีถูกนำตัวไป บนพื้นเต็มไปด้วยเลือด

คำวิงวอนขอความเมตตาของสู้จิ่นดังมาจากข้างใน: “อ๋องเสียน ได้โปรดอ๋องเสียนให้อภัยข้าน้อยเถิดเพคะ ข้าน้อยถูกบังคับจริงๆ ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยยอมตาย ได้โปรดอ๋องเสียไว้ชีวิตครอบครัวข้าน้อยด้วยเถิด อ๋องเสียโปรดให้อภัย”

กงชิงวี่มองสู้จิ่นสักพัก: “ในเมื่อเจ้ายอมรับว่าเคยทำสิ่งเหล่านี้ ข้าจะตรวจสอบเช่นกัน ฉะนั้นรอฟังการจัดการในภายหลังเถิด

สู้จิ่นลอบสังหารเจ้านาย ทำให้วังราชสำนักเกิดความกลาโหม เรื่องตรวจสอบชัดเจนแล้ว วันนี้….ประทานให้ห้าม้าแยกศพ ประการเก้าชั่วโคตร”

พูดจบกงชิงวี่กล่าวต่อ: “วังเฟิ่งหยี วังสวยหัว ขันทีของทั้งสองพระองค์ รับใช้เจ้านายไม่ดี ประทานให้ดื่มเหล้าพิษ”

สู้จิ่นตกใจเป็นลมทันที น้องชายนางกลัวมากจนวิ่งบ้าคลั่งอยู่ในลาน กงชิงวี่เหลือบมอง แล้วหันจากไป

ไปถึงหน้าประตูเห็นอันหลิงหยุน สีหน้าของนางซีดเผือด แววตาที่มองเขาเปลี่ยนไป

กงชิงวี่เอื้อมมือไปสัมผัส เย็นยะเยือก อันหลิงหยุนส่ายหน้า ต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง อ้าปากแต่พูดไม่ออก

กงชิงวี่โค้งตัวอุ้มอันหลิงหยุน พานางจากไป

อันหลิงหยุนจับเสื้อกงชิงวี่แน่น แนบอยู่ในอ้อมแขนของเขา

กงชิงวี่กล่าว: “ข้าน่ากลัวมากใช่หรือไม่?”

อันหลิงหยุนผงกศีรษะ นางหลับตาก็สามารถมองเห็นภาพกงชิงวี่ที่น่ากลัว

กงชิงวี่กล่าวอีก: “เช่นนั้นก็ต้องลืมภาพที่น่ากลัวของข้า เพียงแค่จำภาพที่ดีของข้าก็พอ”

“……”

อันหลิงหยุนเงียบอยู่เป็นเวลานาน กระทั่งถึงหน้าประตูวัง กงชิงวี่เรียกนาง อันหลิงหยุนจึงค่อยเงยหน้าขึ้น มองไปยังแม่นมซีที่นิ่งหน้าประตูวัง

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?” อันหลิงหยุนไม่เข้าใจ บอกว่าแม่นมซีเป็นคนของฮ่องเต้ แต่กลับยอมรับข้อกล่าวหาทั้งหมดเพื่อฮองเฮา

กงชิงวี่กล่าว: “คนที่ทำร้ายนางไม่ใช่ข้า คือคนที่นางต้องการปกป้อง! กระทั่งจนตาย นางก็ไม่ได้เห็นคนผู้นั้น แต่นางเต็มใจที่จะตาย นางควรขอบคุณข้า ข้าทำให้นางบรรลุ!”

อันหลิงหยุนถูกพากลับไปที่วังของหวางฮองไทเฮา หวางฮองไทเฮาเห็นบุตรชายเรือนร่างเต็มไปด้วยเลือดก็ไม่ได้พูดอะไร ไม่แม้แต่สนใจเขาด้วยซ้ำ

อันหลิงหยุนไม่อยากพูดมาก

อยู่กับอันหลิงหยุนสักพักกงชิงวี่ก็ไปพบฮ่องเต้ชิงหยู่ และขณะนี้ในวังเงียบลงเล็กน้อย

ในตอนเย็นกงชิงวี่ไปที่พระราชวังวังเฟิ่งหยีด้วยตนเอง เพื่อซักถามฮองเฮาเสินหยุนชูที่เพิ่งอาการดีขึ้น

ขณะนี้ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็อยู่ เขากุมมือเสินหยุนชู มองกงชิงวี่

“ข้าถามฮองเฮา เรื่องที่แม่นมซีและสู้จิ่นพบกัน ฮองเฮาทราบหรือไม่?” กงชิงวี่ถามตรงๆ

เสินหยุนชูแปลกใจ: “อ๋องเสียน เจ้ามาดูข้า พูดเรื่องพวกนี้ทำไม?”

“แม่นมซีถูกข้าตีตายแล้ว” กงชิงวี่กล่าวอย่างใจเย็น ดวงตาเสินหยุนชูเบิกกว้าง สั่นเล็กน้อย

“เจ้าว่าอะไรนะ?”

“ข้าพูดว่า แม่นมซีถูกข้าตีตายแล้ว และตอนนี้นางแขวนนิ่งอยู่ที่หน้าประตูวัง” อ๋องเสียงยังคงเฉยเมย

ฮองเฮาหายใจหอบ: “เจ้า……เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไร? ฮ่องเต้ แม่นมซีอยู่กับฉันมานานหลายปี แม้ว่าข้ากับนางจะไม่ได้รู้จักกันตั้งแต่ยังเด็ก แต่นางเข้าวัง หม่อมฉันเข้าวัง พวกเราเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน นางกับข้าเป็นทั้งครูและเพื่อนกัน ตอนนี้ถูกตีจนตาย เพราะเหตุอันใด?”

เสินหยุนชูร้องไห้วิงวอน ฮ่องเต้ชิงหยู่กอดนางไว้ในอ้อมแขน: “เจ้าเพิ่งแท้งบุตรร้องไห้จะทำร้ายร่างกาย อย่างร้องเลย ข้าก็ไม่รู้จะทำอย่างไร”

ฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปที่กงชิงวี่: “เจ้าถามเถิด ถามเสร็จแล้วจะได้ไป ตอนนี้ข้ารู้สึกเสียใจที่ให้เจ้าเป็นอ๋องซื่อเจิ้น รอผ่านพ้นเรื่องนี้ไป ข้าว่าเจ้ากลับไปเป็นอ๋องเสียนของเจ้าเถิด”

“หม่อมฉันขอบพระทัยฮ่องเต้ล่วงหน้าพ่ะย่ะค่ะ แต่พระองค์ทั้งสองประสบเรื่องเช่นนี้ ข้าต้องตรวจสอบคดีก่อนพ่ะย่ะค่ะ”

เสินหยุนชูร้องไห้ออกจากอ้อมขาฮ่องเต้ชิงหยู่มองไปยังกงชิงวี่: “เจ้าว่าอย่างไร แม่นมซีเกี่ยวข้องกับเรื่องพระองค์ทั้งสองได้อย่าง?”

“แม่นมซีบอกว่า ไม่ชอบที่เซียวผินได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ และยังมีบุตร ในช่วงระยะนี้ ฮ่องเต้ไปเยี่ยมเซียวผินบ่อยครั้ง นางไม่คู่ควรเท่ากับฮองเฮา และไม่ต้องการให้บุตรของเซียวผิวเกิดออกมา ดังนั้นจึงอาศัยตอนที่พระชายาตวนเข้าวัง สั่งให้สู้จิ่นทำร้ายเซียวผิน สำหรับฮองเฮา……”

“เจ้าสงสัยว่าข้าสั่งการแม่นมซี?” ฮองเฮาตะลึง นั่งลงอีกฝั่ง

“ฮ่องเต้ ต่อให้หม่อมฉันมีจิตใจอิจฉา ก็ทำเรื่องเช่นนี้ไม่ลง บุตรของหม่อมฉันก็ไม่อยู่แล้วเช่นกัน?”

ฮองเฮาร้องไห้น้ำตาอาบหน้า ฮ่องเต้ชิงหยู่กุมมือนาง: “ข้ารู้”

“ฮองเฮา มาวันนี้ คือมาถามเรื่องแม่นมจากท่าน ท่านสั่งการแม่นมซีใช่หรือไม่?”

กงชิงวี่ถามต่อไป ฮองเฮาส่ายหน้า: “ไม่ใช่ ข้าไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย ข้าเชื่อว่าต้องมีคนข่มขู่แม่นมซีเป็นแน่ แม่นมซีไม่มีทำสิ่งเหล่านี้ ผู้ใดข่มขู่แม่นมซีกันแน่?”

กงชิงวี่ลุกขึ้น: “ฮ่องเต้ หม่อมฉันต้องตรวจสอบว่าผู้ใดมีความเกี่ยวข้องกับแม่นมซีทั้งในและนอกวัง รวมไปถึงจวนเฉินเสี้ยง”

ฮ่องเต้มองไปยังฮองเฮา: “ฮองเฮาว่าอย่างไร?”

“ฮ่องเต้ พระองค์สงสัยหม่อมฉันหรือเพคะ?” เสินหยุนชูเต็มไปด้วยความเศร้า

ฮ่องเต้ชิงหยู่ส่ายหน้า: “ข้าไม่สงสัย ข้าแค่เป็นกังวล เรื่องนี้ต้องอธิบายต่อทุกคน เป็นการยากที่จะแก้ตัวโดยไม่ให้คำอธิบายกับผู้คนในวัง”

เสินหยุนชูมองฮ่องเต้ชิงหยู่ เป็นเวลานาน: “เชิญอ๋องเสียนไปเถิดเพคะ หม่อมฉันยินดี”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ หม่อมฉันไปจัดการ”

ฮ่องเต้ชิงหยู่จึงออกคำสั่ง ตรวจสอบจวนเฉินเสี้ยงอย่างละเอียด

ฮ่องเต้ชิงหยู่หันจากไป

ตรวจสอบเป็นเวลาสามวัน จึงปล่อยผู้คนของจวนเฉินเสี้ยง ยืนยันว่าเป็นเพียงแค่แม่นมซีไม่ชอบเซียวผินจึงทำเช่นนี้

หลังจากสามวันอันหลิงหยุนดีขึ้นบ้างแล้ว จึงไปดูเซียวผินและฮองเฮา

จุนฉูฉูก็พ้นผิดเช่นกัน

นางอารมณ์ดีมากเมื่อออกมา เปลี่ยนเสื้อผ้าและไปที่วังเพื่อทักทายฮั๋วไท่เฟย

ขณะนี้อ๋องตวนก็โล่งอก เห็นได้ว่าจุนฉูฉูยังไม่ได้ร้ายถึงขั้นนั้น

อันหลิงหยุนฉีดยาให้เซียวผินอีกครั้ง พูดสองสามคำก่อนที่จะไปพบฮองเฮา

ฮองเฮาซีดเซียว เมื่อเห็นอันหลิงหยุนรู้สึกแย่กว่าเดิม อันหลิงหยุนวางกล่องยาลงสแกนให้กับเสินหยุนชู

“ฮองเฮาร่างกายอ่อนเพลีย ต้องบำรุงปรับสภาพร่างกายให้ดี หม่อมฉันจ่ายยาบำรุงปรับสุขภาพร่างกาย ให้ฮองเฮาใช้เพคะ”

“พระชายาเสียน ตอนที่แม่นมซีตายเจ้าอยู่หรือไม่?” เสินหยุนชูถามเบาๆ

“หม่อมฉันได้ยิน ไม่เห็นเพคะ ต่อมาเห็นแขวนอยู่ที่หน้าประตูวังแล้วเพคะ” เมื่อนึกถึง อันหลิงหยุนยังคงกลัวอยู่

ถึงขนาดสามวันมานี้ไม่พบกงชิงวี่เลย เพราะเห็นนางก็จะนึกถึง ดังนั้นนางจึงไม่พบ

เสินหยุนชูกล่าว: “แม่นมซีกับข้ารู้จักกันมานานหลายปี ข้าไม่เคยคิดฝันว่านางจะมีจุดจบเช่นนี้ ข้าอยากไปเยี่ยมนาง ไม่รู้ว่านางฝังอยู่ที่ใด?”

“ได้ยินมาว่ามันถูกโยนไปที่เนินป่าช้าเพื่อให้อาหารสุนัขแล้วเพคะ” อันหลิงหยุนได้ยินมาเช่นนั้น แต่ในวังมีเนินป่าช้าอะไรนั่นที่ใดกัน ยังสามารถหาสถานที่โดยเฉพาะได้อีกหรือ?

เสินหยุนชูสีหน้าซีดเผือด ร่างกายดูทรุดลงไปอีก

“พระชายาเสียน ข้าเหนื่อยแล้ว เจ้าไปเถิด”

อันหลิงหยุนจึงลุกขึ้น เก็บกล่องยาแล้วจากไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน