สรุปเนื้อหา บทที่ 1066 ใครผิดต่อใคร – ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
บท บทที่ 1066 ใครผิดต่อใคร ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ภายในโถงตำหนักใหญ่มีเพียงเสียงพ่นลมหายใจอันหนาวเย็นแว่วมา
แม่นางผู้นี้กล้าดีมาจากไหนถึงได้เหิมเกริม กล้าเอ่ยกับโอรสสวรรค์เช่นนี้?
ผู้คนต่างก็กลั้นหายใจรอคอยพลังอัสนีบาตของโอรสสวรรค์ ทว่ากลับเห็นเพียงเขาผงกศีรษะแล้วถามอย่างจริงจังว่า
“เช่นนั้นตอนนี้มองเห็นหรือยัง?”
น้ำเสียงเป็นปกติ ไม่เพียงแต่ไร้ซึ่งอารมณ์โทสะ แต่ยังเต็มไปด้วยความอดทนที่หาได้ยาก
ทุกคน “???”
ฝ่าบาท!
ท่านสร่างแล้วหรือยัง!
นี่ท่านกำลังทำอันใดอยู่!?
ฉู่หลิวเยว่เขย่าจอกสุราในมือเบาๆ พลางเอียงศีรษะแล้วมองสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างละเอียดรอบหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าช้าๆ
“เห็นแล้วล่ะ”
อืม
หลังจากจากกันไปเสียยาวนาน ในที่สุดก็พบเห็นแล้ว
แต่คิดไม่ถึงว่าจะพบกันในสถานที่เช่นนี้ และในสถานะเช่นนี้
หรงซิว ณ ตอนนี้นั้นต่างจากเขาคนเดิมเมื่อก่อนนัก
เมื่อก่อนเขามักสวมชุดสีขาว สง่างามและสูงส่ง รูปลักษณ์เป็นดั่งเทพเซียน
ทว่าตอนนี้ เขากลับเปลี่ยนเป็นชุดคลุมสีดำ มีแรงกดดันมหาศาลและไอสังหารที่ทำให้คนรู้สึกหวาดผวาได้ในพริบตา
นั่นคือวันที่นางได้ยินผู้คนเรียกเขาว่า “โอรสสวรรค์” เป็นครั้งแรก
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฉู่หลิวเยว่จึงค่อยๆ ตระหนักได้ว่าหรงซิวย่อมมิใช่คนธรรมดาอย่างที่เขาแสดงให้นางเห็นอย่างแน่นอน
นางคาดไว้ว่าภูมิหลังตัวตนของหรงซิวนั้นจะไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง ทว่ากลับคาดไม่ถึงเลยว่าจะทำให้ผู้คนตกตะลึงได้เช่นนี้
“ฝ่าบาทช่างรูปโฉมสง่างามนัก เพียงพอแล้วที่จะดึงดูดให้โฉมงามจากทั่วหล้าคะนึงหาแต่ท่าน”
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยด้วยรอยยิ้มที่ไม่เหมือนยิ้ม
“ฝ่าบาท พวกท่าน…รู้จักกันหรือ?”
เจียงจื่อหยวนที่อยู่ด้านหลังเขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกมา
สายตาของนางเคลื่อนมองไปมาระหว่างคนทั้งสอง ความรู้สึกไม่สบายใจเล็กๆ กำลังก่อตัวขึ้นที่ส่วนลึกในจิตใจ
การที่หรงซิวเป็นเช่นนี้นั้นย่อมเป็นอันใดที่ผิดปกติ
หลายปีมานี้ เขาไม่เคยใกล้ชิดกับแม่นางคนใด กระทั่งเอ่ยปากพูดคุยก็ยังไม่คิดทำ
ไม่ว่าจะเป็นคนของพระราชวังเมฆาสวรรค์หรือคนจากตระกูลต่างๆ เบื้องล่าง ต่างก็เคยเอ่ยโน้มน้าวให้เขาอภิเษกนับครั้งไม่ถ้วน
แต่เขามิเคยเอ่ยตอบรับ
มาครั้งนี้ คงเป็นเพราะเขาไม่อยากจะดึงเชิงอีกต่อไป จึงพยักหน้าตอบรับให้จัดพิธีการคัดเลือกพระชายาขึ้นมา
แม้ว่าครานี้จะมีแรงกดดันและเสียงเซ็งแซ่มากมาย แต่เจียงจื่อหยวนรู้ดีว่าหรงซิวไม่มีทางเลือกชายาสามสนมสี่อย่างแน่นอน
กระทั่งการปฏิบัติตัวของเขาต่อนางดูไร้ซึ่งความอดทนมากกว่าก่อนนี้อักโข
ทว่าตอนนี้…เขากลับพูดเช่นนั้นกับแม่นางคนอื่นจริงๆ หรือ?
ประเด็นอยู่ที่ว่าแม่นางนี้รูปลักษณ์ภายนอกดูธรรมดายิ่ง อีกทั้งสถานะเองก็ไม่ได้สูงส่ง นี่ฝ่าบาทกำลัง…คิดอันใดอยู่กันแน่?
เสียงของหรงซิวฟังดูเรียบเฉย ทว่ามิได้เอ่ยปฏิเสธ
“ย่อมต้องรู้จัก”
ฮูหยินของตน องค์หญิงของตน คู่หมั้นของตน เขาจะไม่รู้จักได้เช่นไร!?
“ก่อนนี้ช่างโชคดีนักที่ได้พบหน้าพระโอรสอยู่หลายครั้ง”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มพลางเอ่ยตอบ
ในใจหรงซิวพลันกระตุก
คำพูดเช่นนี้…
นี่นางกำลังประกาศอย่างชัดเจนหรือว่ามิต้องการเกี่ยวข้องอันใดกับเขา?
“ฝ่าบาท วันนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองพระชนมพรรษาของท่าน อีกทั้งยังมีพิธีคัดเลือกนางสนม ท่านอย่ามาเสียเวลากับข้าอยู่อีกเลย รีบเริ่มงานเร็วเข้าเถอะ!”
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยย้ำเตือน
บริเวณทรวงอกของหรงซิวพลันรู้สึกตีบตัน
ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คนจำนวนมากเช่นนี้ ตอนนี้เขาจึงไม่สามารถเอ่ยอันใดออกมาได้
“เช่นนั้น…เชิญคุณหนูตู๋กูทำตัวตามสบายเถิด ให้คิดเสียว่าที่นี่คือบ้านของเจ้าแล้วกัน”
เอ่ยจบ เขาก็มองฉู่หลิวเยว่อย่างลึกล้ำรอบหนึ่ง ก่อนจะหมุนกายเดินขึ้นไปด้านบน
“อ๊ะ ฝ่าบาท…”
เจียงจื่อหยวนมองไปยังหรงซิว ก่อนจะเลื่อนไปมองตู๋กูเยว่
นี่…สรุปแล้วมันเกิดเรื่องอันใดกัน?!
“จื่อหยวน ยังไม่รีบกลับมาอีก”
ในตอนนั้นเอง เจียงเห่อเทียนพลันเอ่ยปากขึ้น ก่อนจะโบกมือไปให้เจียงจื่อหยวน
ต่อหน้าคนจำนวนมากมายเช่นนี้ นางยืนอยู่ตรงนั้นกับผู้ใดกัน ดูอย่างใดก็ไม่งามตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...