บทที่ 1100 เห็นพ้องต้องใจ – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1100 เห็นพ้องต้องใจ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ฉู่หลิวเยว่ตามหลินเทียนเฟิงเข้าไปในห้อง
และเมื่อได้ยินการเคลื่อนไหว หลินจือเฟยก็ออกมาต้อนรับพวกเขาทันที
“ถวายบังคมพระชายา”
หลินจือเฟยทำความเคารพ
ถึงจะผ่านไปเพียงไม่กี่วัน แต่สถานะของแม่นางตรงหน้าได้เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์แล้ว และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สั่นสะเทือนไปทั้งโลกาสุราลัย
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มบาง
“คุณชายหลินมิต้องพิธีรีตรอง ก่อนหน้านี้ข้าเคยสัญญาว่าจะรักษาอาการป่วยให้เจ้า และตอนนี้ข้ามาตามสัญญาแล้ว โปรดนั่งลงเถอะ”
ได้ยินเช่นนั้นหลินจือเฟยก็นั่งลง
ฉู่หลิวเยว่ช่วยวัดชีพจรให้เขา พลางคิดอยู่ครู่หนึ่ง
“ร่างกายของเจ้าฟื้นตัวเกินครึ่งแล้ว นอนพักอีกสักสองสามวัน ประเดี๋ยวก็ฟื้นฟูได้เต็มที่”
“ขอบพระทัย พระชายา!”
หลินเทียนเฟิงที่เฝ้ามองอยู่ด้านข้างไม่สามารถระงับความตื่นเต้นไว้ได้ พลันกล่าวขอบคุณด้วยความดีใจ
เมื่อก่อนฉู่หลิวเยว่ช่วยพวกเขา เพื่อต้องการความช่วยเหลือจากพวกเขา
ทว่าตอนนี้ทั้งๆ ที่สถานะของนางวิเศษวิโสถึงเพียงนี้แล้ว แต่นางก็ยังกลับมาและมอบความช่วยเหลือในระดับที่พิเศษกว่าให้พวกเขาอีกครา
แน่นอนว่าหลินเทียนเฟิงรู้สึกประทับใจมาก
หลินจือเฟยยิ้มตอบนิดๆ พร้อมคลื่นอารมณ์บางอย่างที่ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา
“… อันที่จริง สาเหตุหลักของโรคก็ถูกกำจัดออกไปแล้ว ส่วนที่เหลือก็ปล่อยให้เซียนหมอคนอื่นๆ ดูแลต่อได้ ไม่จำเป็นจะต้องเพิ่มภาระให้พระชายาเช่นนี้เลย…”
“เซียนหมอคนอื่นหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ผละมือออก พลางเลิกคิ้วแล้วหัวเราะเบาๆ
“อย่างเช่น ผู้อาวุโสโหรวหรูไห่น่ะหรือ?”
ทั่วทั้งห้องโถงพลันเงียบลงทันตา
ขณะนี้ นอกจากพวกเขาสี่คนแล้วก็ไม่มีใครอื่นอีก ฉะนั้นพวกเขาจึงมิเข้มงวดเรื่องการวางตัวมากนัก
หลินเทียนเฟิงย่นคิ้วและพูดว่า
“ก่อนหน้านี้เขาล่วงเกินพระชายาหลายครั้ง ถือเป็นความผิดมหันต์…ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าพูดเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าสาธารณชนในตำหนักศักดิ์สิทธิ์”
ตราหน้าฉู่หลิวเยว่ว่าเป็นคนนอกพรมแดนต่อหน้าทุกคนในงาน แค่นี้ก็ชัดเจนแล้วมิใช่หรือว่าไม่ชอบพอในตัวนาง?
หากต่อมา หรงซิวและผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกไม่ช่วยกันควบคุมสถานการณ์ไว้ รวมทั้งถ้าไม่ได้การวางตัวอันชาญฉลาดของฉู่หลิวเยว่ ก็ไม่รู้เลยว่าบทสรุปที่ตามมานั้นจะเป็นเยี่ยงไร
ฉู่หลิวเยว่เดินไปด้านข้างและเขียนใบสั่งยาหนึ่งใบ
มือเรียวบรรจงเขียน พลางขยับเอ่ยปากพูด
“โหรวหรูไห่กับข้ามิได้มีเรื่องขับข้องใจอันใดต่อกัน แต่เขากลับโจมตีข้าอย่างอาจหาญนัก ประมุขหลิน… ท่านมิแปลกใจสักนิดเลยหรือ?”
แววตาของหลินเทียนเฟิงวูบไหว
“พระชายาหมายความว่า…”
“ถ้าเขาไม่ชอบใจที่ข้ารักษาหลินจือเฟยให้หายดี และทำให้สิ่งที่เขาทำไม่ได้ เขาเลยโจมตีข้าเช่นนั้น ก็ถือว่าเขาเป็นคนใจแคบอย่างมาก ทว่าเขาเองก็เป็นถึงเซียนหมอระดับเก้าขั้นสูงสุด หากจะใช้เล่ห์เหลี่ยมกลั่นแกล้งข้าเล็กๆ น้อยๆ ก็ย่อมได้ แต่เหตุใดเขาถึงต้องสร้างความวุ่นวายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์ด้วย?”
ฉู่หลิวเยว่วางพู่กันลง พลางตรวจสอบใบสั่งยาอย่างระมัดระวัง และส่งให้เยี่ยนชิงที่ยืนรออยู่ข้างๆ
“ช่วยหาสมุนไพรเหล่านี้ให้ข้าที”
เยี่ยนชิงยื่นมือทั้งสองข้างออกไปรับ ก่อนจะรับคำสั่งด้วยความเคารพและจากไปอย่างรวดเร็ว
ที่นี่คือพระราชวังเมฆาสวรรค์ และฉู่หลิวเยว่ก็ยังเป็นถึงชายาเอกที่เพิ่งได้รับตำแหน่งไปหมาดๆ ข้าราชบริพารน้อยใหญ่ล้วนไม่กล้าขัดนาง
และนั่นทำให้เยี่ยนชิงไม่ต้องทิ้งนางไว้คนเดียว พลันรีบผละตัวออกไปช่วยหาสมุนไพร
หลินเทียนเฟิงมิใช่คนโง่ เขาเข้าใจทันทีว่าฉู่หลิวเยว่หมายถึงอันใด
“พระชายาหมายความว่า…มีคนแอบยุยงโหรวหรูไห่ให้…”
ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที
ผู้ที่สามารถทำเช่นนี้ได้ จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับพวกเขา และมีอำนาจมากพอควร
หลังจากคิดดูแล้ว มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีโอกาสมากที่สุด!
“…เป็น…หลู่อวี้เออร์หรือ?”
เขาพึมพำเสียงแผ่วด้วยความไม่เชื่อ
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มเยาะหนึ่งที
“ดูเหมือนประมุขหลินจะเข้าใจอันใดขึ้นมาบ้างแล้วนะ”
หลินเทียนเฟิงหน้าแดงสลับเขียวด้วยความทึ่ง
“เป็น…เป็นไปได้อย่างใด? โหรวหรูไห่อยู่กับตระกูลหลินของข้าและภักดีต่อตระกูลมานานหลายสิบปี อวี้เออร์นั้นเพิ่งเข้ามาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน…”
“ตั้งแต่นางเข้าไปอยู่ในตระกูลหลิน คุณชายก็ล้มหมอนนอนเสื่อมาโดยตลอด”
ฉู่หลิวเยว่กล่าวด้วยความฉลาดหลักแหลม
หลินเทียนเฟิงตกใจ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...