ทุกคนรู้ว่าโหรวหรูไห่ล้ำเส้นนาง
ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไป จะไม่มีใครมองนางในแง่ดี แต่จะคิดว่านางขี้ขลาดและเจ้าเล่ห์แทน
…โดนคนกล่าวหากลางงานมงคล ชี้หน้าด่านางจนขายหน้ากลางสาธารณชน เรื่องแบบนี้ ต่อให้ทนได้ก็ไม่ควรทน!
และถ้าพวกเขารู้ว่า แม้แต่คนอย่างโหรวหรูไห่ก็ยังรอดพ้นไม่ถูกนางลงโทษ เช่นนั้นในอนาคตย่อมเกิดปัญหามากมายตามมาแน่นอน!
ฉู่หลิวเยว่ยังจำได้ดีว่าตอนที่นางมาถึงที่นี่เมื่อครู่ก่อน คนจากหุบเขาหานซานเหล่านั้นยังพูดเรื่องวิธีที่ผู้คนจากเผ่าเซียนสุ่ยหลิงเจียงจะจัดการกับนางอยู่เลย
แม้แต่คนอย่างพวกเขายังมีความคิดเช่นนี้ ฉะนั้นคนอื่นเองก็กล้าคิดเช่นนี้เหมือนกัน
ฉู่หลิวเยว่มาจากนอกพรมแดน แม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะทำได้ดี แต่พออยู่บนยอดเขาและเผชิญหน้ากับนาฬิกาไร้กาลเวลา ผลลัพธ์ที่ได้กลับน่าทึ่งยิ่งกว่า
ทว่าเบื้องหลังนางนั้นไม่มีสำนักวิชา หรือเผ่าใดที่ทรงพลังพอจะสนับสนุนนางเลย
ต่อให้เป็นจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เทียนลิ่งแล้วอย่างใด?
สำหรับคนเหล่านี้มันแทบไม่มีค่าให้เอ่ยถึงด้วยซ้ำ!
ดังนั้น นางจะต้องทำให้คนเหล่านี้ตระหนักว่า นางมิใช่คนที่พวกเขาจะล้ำเส้นได้ง่ายๆ!
นอกจากนี้ นางก็มาที่นี่เพื่อเค้นโหรวหรูไห่อีกเรื่อง
นางอยากรู้ว่าคนที่คอยช่วยหลู่อวี้เออร์อย่างลับๆ นั่นเป็นใคร และหากอีกฝ่ายยังอยู่ในเงามืดทั้งๆ ที่นางยืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่างแบบนี้ ก็ไม่รู้เลยว่านางจะโดนตลบหลังเมื่อไร
ตอนนี้นางลงเรือเดียวกันกับหลินจือเฟยแล้ว
หากสามารถสร้างค่ายกลเคลื่อนย้ายเชื่อมผ่านระหว่างผาแดนสวรรค์และราชวงศ์เทียนลิ่งได้จริง หลังจากนี้มันจะสะดวกสำหรับนาง ในการเดินทางระหว่างสองพรมแดนอย่างมาก
ยิ่งไปกว่านั้น มันไม่ใช่แค่นางคนเดียว!
ถ้าอิงจากสถานะของนางในปัจจุบัน แน่นอนว่านางสามารถเข้าออกอาณาจักรเสิ่นซวี่ได้ตามต้องการ แต่ก็มีข้อจำกัดอย่างมากเช่นกัน
หรงซิวคือโอรสสวรรค์ที่ถูกผู้คนมากมายจับตามอง ซึ่งในอนาคตนางเองก็จะต้องได้รับการปฏิบัติแบบเดียวกันอย่างแน่นอน
เมื่อเป็นเช่นนี้ ฉู่หลิวเยว่ยิ่งหวังให้ตัวเองยืนหยัดได้โดยมิลำบากหรงซิว และสร้างอิทธิพลและอำนาจของนางเอง
อย่างนี้ก็ถือเป็นทางออกอีกทาง
“รีบสารภาพออกมาได้แล้ว ผู้อาวุโสโหรว ท่านเองก็เจ็บเหมือนกันมิใช่หรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ ฉีกยิ้มช้าๆ
ริมฝีปากสวยของนางแย้มยิ้ม แต่มันกลับทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวโดยไม่รู้ตัว!
โหรวหรูไห่หลบตา
“ข้า ข้าไม่รู้…ข้าไม่รู้จริงๆ…”
“เยี่ยนชิง เจ้าช่วยเรียกความทรงจำให้ผู้อาวุโสโหรวหรูไห่ที ดูสิว่าเขาจะจำอันใดได้บ้าง”
ฉู่หลิวเยว่เชิดคางขึ้น
“ขอรับ!”
เยี่ยนชิงตอบรับทันทีและก้าวไปข้างหน้าเพื่อโจมตีอีกครั้ง!
“อย่า…อ๊าก!”
โหรวหรูไห่แทบไม่มีโอกาสแม้แต่จะป้องกันตัวเอง เขาถูกเยี่ยนชิงเตะออกไปจนตัวลอย! และชนเข้ากับผนังอย่างแรง!
เยี่ยนชิงพุ่งตัวตามไปอย่างรวดเร็ว พลันเลือกจุดที่เปราะบางและเจ็บปวดที่บนร่างกายคน แล้วบีบลงไปสุดแรง
ไม่นานโหรวหรูไห่ก็ค่อยๆ เปลี่ยนจากการขัดขืนในตอนแรก เป็นร้องขอความเมตตาแทน และสุดท้ายก็เหลือเพียงเสียงคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวดและไร้เรี่ยวแรง
เซียนหมอระดับเก้าขั้นสูงสุด พูดออกไปก็เหมือนสถานภาพอันสูงส่ง ที่สามารถดึงดูดเสียงเยินยอ และยอดฝีมือมากมายให้เข้ามาพักดีต่อเขา
แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้เขาทำได้เพียงนอนราบกับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง พร้อมลมหายใจอันรวยริน
โหรวหรูไห่หูอื้อ สมองขาวโพลน ร่างกายของเขาเจ็บปวดและชาวาบไปทั่ว
ตอนนี้เขารู้แล้วว่าแม่นางที่กำลังระบายยิ้มอยู่ตรงหน้านั้น ตั้งใจฆ่าเขาจริงๆ!
“ข้า…ข้าพูดแล้ว…”
โหรวหรูไห่รวบรวมกำลังที่เหลือแล้วเอ่ยออกมาสองสามคำ
ฉู่หลิวเยว่ยกมือขึ้น
เยี่ยนชิงพลันหยุดการกระทำ
“พูดมา”
โหรวหรูไห่อ้าปากที่เต็มไปด้วยลิ่มเลือด พลางกล่าวว่า
“นาง…นางคือ…เซิน…เซิน…”
พรวด!
พูดยังไม่ทันจบ เขาก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก ดวงตาสองคู่เหลือกขึ้น ร่างกายกระตุกอย่างรุนแรง ก่อนจะล้มลงกับพื้นและไม่ขยับเขยื้อนอีก
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้ว
แต่ในขณะที่เยี่ยนชิงกำลังจะเคลื่อนไหว ก็ถูกนางรั้งไว้เสียก่อน
“อย่าโดนตัวเขา!”
เยี่ยนชิงผงะไปครู่หนึ่ง พลันเห็นร่างของโหรวหรูไห่ที่แห้งเหี่ยวลงแล้วเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็ว!
และสุดท้ายก็กลายเป็นแอ่งเลือด!
“ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนของพวกนั้นสินะ”
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิด
“เขากับหลู่อวี้เออร์ร่วมมือกัน แต่ไม่แน่ใจว่าเขารับคำสั่งจากหลู่อวี้เออร์ หรือว่าพวกเขาสองคนมีนายคนเดียวกัน…ข้อมูลเหล่านี้ คงต้องรบกวนประมุขหลินตรวจสอบอีกทีหลังจากกลับไปแล้ว”
หลินเทียนเฟิงพยักหน้าด้วยสีหน้าซับซ้อน
ตัวเขานั้นเป็นคนที่เยือกเย็น สง่างามและมีอากัปกิริยาที่โดดเด่นอยู่เสมอ
แม้ใบหน้าหล่อเหลานั่นจะแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม แต่รอบตัวเขากลับมีกลิ่นอายเย็นยะเยือกแผ่ออกมาจางๆ จนทำให้ผู้คนไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ราวกับว่ากลัวจะไปยั่วยุโทสะหรือลบหลู่อีกฝ่ายเข้า
เสมือนว่าเป็นคนที่สูงส่งเกินเอื้อมอย่างใดอย่างนั้น
ทว่าน้ำเสียงอันทุ้มต่ำและแหบพร่าของเขาในยามนี้ ช่างแตกต่างจากท่าทีอ่อนโยนที่เขามักปฏิบัติต่อนาง
มันคันยุบยิบในใจแปลกๆ ราวกับมีบางอย่างฝากรอยขีดข่วนไว้บนหัวใจของนาง
แสงจากคบเพลิงที่อยู่ถัดจาก สะท้อนลงบนใบหน้าอันหล่อเหลาอย่างหาที่เปรียบมิได้ของเขา ขนงเรียวราวคันศรขมวดมุ่นเล็กน้อย ดวงตาคู่คมดุจเหยี่ยวจ้องมองนางอย่างลึกซึ้ง คล้ายจะโอนอ่อนให้กันแต่ก็ไม่ ประหนึ่งว่าเขากำลัง…แอบขุ่นเคืองใจ
ฉู่หลิวเยว่พลันใจอ่อนวูบวาบ ครั้นสัมผัสได้ถึงความหวานอมเปรี้ยวจากบุรุษขี้หวงข้างกาย
ผู้ชายที่เอาแต่เก็บงำความรู้สึกของตัวเอง มักไม่ค่อยแสดงออกเช่นนี้
มันจึงทำให้คนมองอดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้
หรงซิวมองนางพลางกล่าวงึมงัม
“นานแล้วที่ข้ามิได้นอนหลับเต็มอิ่ม นับตั้งแต่ไร้ซึ่งเยว่เอ๋อ”
น่าแปลกที่ฉู่หลิวเยว่เดาความนัยของสิ่งที่เขาจะสื่อได้ในทันที
แววตาของนางวูบไหว พลันก้มตัวลงเล็กน้อยและโน้มเข้าไปใกล้ใบหน้าของหรงซิว
คนทั้งสองหายใจไม่ทั่วท้อง หัวใจสองดวงเต้นระรัวจนได้ยินเสียงของกันและกัน
ฉู่หลิวเยว่ระบายยิ้มหวานบางเบา พลางเอ่ยถาม
“ฝ่าบาทต้องการหลับนอนกับข้าหรือ?”
หรงซิวบีบกระชับมือบางตอบไป
“หมายความว่าเยว่เอ๋อ…ยินยอมหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วด้วยความกลัดกลุ้ม
“แต่เรายังมิไม่อภิเษกสมรสกัน เช่นนี้คงดูไม่ดีนัก? อีกอย่าง ในห้องนี้ก็มีแค่เตียงเดียว”
หรงซิวพลันยิ้มเยาะ
“ข้านอนพื้นก็ได้”
สีหน้าของเขาแข็งทื่อในบัดดล ก่อนจะกัดฟันพูดช้าๆ
“ที่นี่มีผ้านวมผืนเดียว”
หรงซิวใช้ปลายนิ้วเรียวยาวของตน เกลี่ยข้อมือของนางเบาๆ
“มิใช่ปัญหา”
“ข้ามีหลายผืน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...