ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1105

สรุปบท บทที่ 1105 รอเจ้ากลับมา: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

บทที่ 1105 รอเจ้ากลับมา – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1105 รอเจ้ากลับมา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“แน่นอนอยู่แล้ว”

หลินจือเฟยกล่าวด้วยความมั่นใจ

“ฝ่าบาทเป็นหนึ่งในศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดของสำนักหลิงเซียว และเป็นศิษย์ผู้เก่งกาจอย่างหาที่เปรียบมิได้ในช่วงนั้น ทว่าสองปีที่ผ่านมา ฝ่าบาทไม่ค่อยได้กลับไปที่นั่น แต่ท่านก็ยังเป็นแบบอย่างที่ลูกศิษย์หลายคนของสำนักหลิงเซียวชื่นชมไม่ขาดสาย”

ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปนิด

“เขาเป็นศิษย์ของที่นั่นหรือ? แต่เขาก็เป็นคนของพระราชวังเมฆาสวรรค์มิใช่หรือ ไฉนถึงไม่ฝึกกับทางตระกูลของเขา แต่ดัน…”

ได้ยินเช่นนี้ หลินจือเฟยถึงตระหนักได้ว่าฉู่หลิวเยว่กำลังผิดประเด็น

เขายิ้มบางและอธิบายว่า

“พระชายา ดูเหมือนท่านจะไม่ค่อยรู้เรื่องสำนักวิชาหลิงเซียวมากนัก แม้จะใช้ชื่อสำนักวิชา แต่ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นสำนักวิชาอันดับหนึ่งในอาณาจักรเสิ่นซวี่เลย สำนักหลิงเซียวนั้นมีทุนและทรัพยากรที่แน่นอนต่อลูกศิษย์ทุกคน”

“สำนักหลิงเซียวมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับหมื่นปี เสมือนมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่นและรากฐานที่ลึกซึ้ง แม้แต่ตระกูลใหญ่ๆ ชั้นนำมากมายก็ไม่อาจเทียบได้ ที่นั่นมียอดฝีมือระดับสูงนับไม่ถ้วน รวมทั้งทรัพยากรหายากมากมาย ดังนั้น นอกจากผู้ฝึกต้นที่ยึดตนเป็นอิสรชนแล้ว ก็ยังมีลูกหลานตระกูลขุนนางจำนวนมาก ที่ต้องการเข้าศึกษาที่สำนักหลิงเซียวเพื่อก้าวสู่เส้นทางผู้ฝึกตน”

“ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าสำนักหลิงเซียวนั้นมีการฝึกฝนที่เป็นระบบและการแนะนำที่ดีต่อศิษย์ ทว่าอีกแง่หนึ่งก็เพราะศิษย์ของสำนักหลิงเซียวนั้นกระจายตัวอยู่ทั่วราชอาณาจักร และส่วนใหญ่ก็มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นต่อสำนักวิชา ซึ่งหากเข้าเป็นศิษย์สาวกของที่นี่ได้ ก็สามารถสร้างเครือข่ายเส้นสายของตัวเองได้กว้างขวาง”

“ไม่ว่าจะมองอย่างใด การไปศึกษาและฝึกตนที่สำนักหลิงเซียวนั้นที่ ถือเป็นความฝันที่ผู้ฝึกตนมากมายในอาณาจักรเสิ่นซวี่ปรารถนา”

หลินจือเฟยกล่าวพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ พร้อมคลื่นอารมณ์ที่ซัดเข้ามาในรูม่านตาใสกระจ่างของเขา

“ข้าเองก็ด้วย”

หลินจือเฟยในอดีตนั้นมีแต่ความฝันที่ยากจะเป็นจริง

ในตอนนั้น การออกไปนอกตระกูลถือเป็นเรื่องยากสำหรับเขา และขยับก็เจ็บปวดไปทั่วร่างกายแล้ว

แต่ตอนนี้มันต่างออกไป

ยามนี้ร่างกายของเขาแข็งแรงขึ้นมาก เช่นนั้น…สำนักหลิงเซียวที่เฝ้าฝันถึง ก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว!

ฉู่หลิวเยว่มองเห็นความปรารถนาอันลึกซึ้ง และความคาดหวังของเขาต่อสำนักหลิงเซียวได้ชัดเจน แต่ในใจก็ยังแอบสงสัยนิดหน่อย

หลินจือเฟยมีนิสัยเฉยชา และยากที่เขาจะสนใจอันใดจริงๆ จังๆ เช่นนี้ แม้แต่ตำแหน่งประมุขของผาแดนสวรรค์ เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าอยากรับช่วงต่อเลย

อย่างใดก็ตาม เมื่อพูดถึงสำนักหลิงเซียว การแสดงออกของเขากลับแตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง

สำนักวิชาแห่งนั่น…ยอดเยี่ยมถึงเพียงนั้นเลยหรือ?

ฉู่หลิวเยว่จึงแสร้งเอ่ยทีเล่นทีจริง

“ฟังแล้วเหมือนว่าสำนักหลิงเซียวจะดีอย่างที่เจ้าว่าจริงๆ เจ้าพูดเสียข้าอยากไปดูให้เห็นกับตาเลย”

ดวงตาของหลินจือเฟยเป็นประกายในทันใด เขาผุดลุกขึ้นนั่งแล้วพูดว่า

“ข้าดีใจที่ท่านคิดเช่นนั้น หากว่าตามพรสวรรค์ของท่านแล้ว ท่านจะต้องได้รับการยอมรับจากพวกเขาแน่นอน”

ถึงตอนนี้นางจะเป็นเพียงจอมยุทธ์ระดับเจ็ดคนหนึ่ง

และถ้าที่เจ้าพูดมานั้นเป็นความจริง ก็หมายความว่าในอาณาจักรเสิ่นซวี่แห่งนี้ นางไม่ได้สังกัดสำนักวิชาใดและไม่มีสำนักใดให้พึ่งพาเลย เช่นนั้น…สำนักหลิงเซียวก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด!

ฉู่หลิวเยว่เองก็ฉุกคิดได้เช่นกัน

นางหรี่ตาและเริ่มเก็บเอาเรื่องนี้ไปคิดอย่างจริงจัง

“ที่เจ้าพูดมาก็ถูก…”

นอกจากสงสัยเรื่องธุระของหรงซิวแล้ว การไปที่นั่นแล้วได้พัฒนาศักยภาพและขยายเครือข่ายของตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่คุ้มค่าแก่การลงทุนเช่นกัน

แม้ว่าการฝึกอยู่ในพระราชวังเมฆาสวรรค์จะสะดวกสบาย แต่กลับรู้สึกว่ามันไม่อิสระสักเท่าไร

และยิ่งนึกถึงเหล่าผู้อาวุโสที่ต่อต้านนางกับหรงซิว ฉู่หลิวเยว่ก็ยิ่งเบื่อ

การอยู่ที่นี่ในฐานะชายาเอก ทำให้ผู้คนรอบตัวคอยจับจ้องทุกคำพูดและการกระทำของนางเสมอ

เมื่อคิดแบบนี้ ฉู่หลิวเยว่ก็ยิ่งอยากไปสำนักหลิงเซียวมากขึ้น!

“ไว้ข้าจะลองคิดดูอีกที”

ฉู่หลิวเยว่กล่าวแล้วลุกขึ้นยืน

“ส่วนเจ้าจะไปก็ไปเถอะ แต่อย่าลืมข้อตกลงระหว่างเราแล้วกัน”

หลินจือเฟยพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม

“คำสั่งของพระชายาถือเป็นคำขาด ข้าจะทำให้ดีที่สุด”

หลังจากที่ฉู่หลิวเยว่กลับไปยังห้องบรรทมของตน นางก็เริ่มคิดเรื่องสำนักหลิงเซียวอีกครั้ง

พอตู๋กูโม่เป่าเห็นว่านางดูใจลอย ก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม

“คิดอันใดอยู่หรือ?”

ฉู่หลิวเยว่ผงะเล็กน้อย ก่อนจะย้อนถามเขาว่า

“พี่เป่า เจ้าเคยได้ยินเรื่องสำนักหลิงเซียวหรือไม่?”

ตู๋กูโม่เป่าหยุดชะงัก และเงยหน้าขึ้นมองนางด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาสีม่วงอันเต็มไปด้วยเสน่หาคู่นั้น ช่างลึกล้ำจนยากจะหยั่งถึง

“ข้าเคยได้ยินมาบ้าง ไยจู่ๆ เจ้าถึงพูดเรื่องนี้ได้?”

บทที่ 1105 รอเจ้ากลับมา 1

บทที่ 1105 รอเจ้ากลับมา 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์