สรุปเนื้อหา บทที่ 1107 เจ้าคนมหันตภัยนั่นมาอีกแล้วหรือ – ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
บท บทที่ 1107 เจ้าคนมหันตภัยนั่นมาอีกแล้วหรือ ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ฉู่หลิวเยว่ใจเต้นระรัว!
ทว่าคลื่นความผันผวนเกิดขึ้นเพียงพริบตาเท่านั้น และก่อนที่ฉู่หลิวเยว่จะทันได้ตอบสนอง ทุกอย่างก็จบลงแล้ว!
และถ้าไม่ใช่เพราะฉู่หลิวเยว่ยังสัมผัสได้ถึงพลังปราณดั้งเดิม ที่พลุ่งพล่านในจุดตันเถียนของตนล่ะก็ นางอาจจะคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตาไปแล้ว!
“นี่! เจ้าจะเข้าไปหรือไม่? ถ้าไม่เข้าก็ออกไปซะ อย่าขวางทาง!”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงก่นด่าอันแข็งกร้าวดังมาจากด้านหลัง
ฉู่หลิวเยว่หันกลับไปมอง
ก่อนจะเห็นคนสามคนยืนอยู่ตรงนั้น
คนหนึ่งเป็นผู้หญิง และอีกสองคนเป็นผู้ชาย
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะอายุราวยี่สิบต้นๆ และยังสวมใส่อาภรณ์หรูหราที่ตัดเย็บมาจากผ้าเนื้อดี อีกทั้งรูปร่างหน้าตาก็ยังยอดเยี่ยมไร้ที่ติเช่นกัน
ทั่วทั้งตัวของพวกเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายของผู้มากผู้ดี
เห็นได้ชัดว่าเป็นเหล่าทายาทของตระกูลที่ร่ำรวยแน่ๆ
ส่วนเจ้าของวาจาเมื่อครู่ ก็คือชายร่างสูงผอมที่อยู่ตรงกลาง
เด็กสาวที่อยู่ข้างๆ เขาพลันแย้งขึ้นด้วยความโมโห
“พี่เซิง ก่อนออกมาเจ้าลืมแล้วหรือว่าท่านประมุขสั่งไว้เช่นไร? อยู่ข้างนอกก็หัดสำรวมหน่อย”
ดูเหมือนชายร่างสูงผอมคนนั้นจะเชื่อฟังคำพูดของนาง เขาเกาหัวแล้วยิ้มแหยๆ อย่างเก้อเขิน
“ข้าก็แค่กลัวเราไปสายมิได้หรือไร? พี่สี่และคนอื่นๆ รอพวกเราอยู่ที่สำนักวิชาตั้งนานแล้วนะ!”
แม่นางคนนั้นยิ้มบางอย่างละอายใจ พลางกล่าวว่า
“ที่จริงมันเป็นเพราะข้า ถ้าไม่ใช้เพราะข้าใช้เวลาฝึกนานกว่าคนอื่น ป่านนี้คงทะลวงถึงจอมยุทธ์ระดับเก้าแล้ว และพวกเจ้าสองคนก็จะได้ไม่ต้องเสียเวลารอข้า”
ชายหนุ่มทั้งสองส่ายหัวพัลวัน
“ถึงเจ้าจะเด็กกว่าพวกข้า แต่เจ้ามีพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมมาก! ถ้าเจ้าได้เข้าไปศึกษาในสำนักหลิงเซียว ไม่นานเจ้าจะทะลวงอาณาเขตเซียนเทพได้! และกลายเป็นยอดฝีมือระดับเทพแน่นอน!”
ในใจของฉู่หลิวเยว่วูบไหวแปลกๆ พลันก้าวถอยหลังอย่างรู้งาน และปล่อยให้พวกเขาผ่านไป
คนทั้งกลุ่มเดินผ่านประตูเข้าไป
แม่นางคนนั้นหันมาค่อมศีรษะให้ฉู่หลิวเยว่เล็กน้อย เพื่อแสดงความขอโทษต่อนาง
แต่จู่ๆ ฉู่หลิวเยว่ก็ตะโกนขึ้น
“โปรดรอสักครู่”
เดิมทีแม่นางคนนั้นหมุนตัวกลับและก้าวเท้าออกไปแล้ว แต่เมื่อได้ยินเสียงเรียกก็พลันหันกลับมามองนางอีกครั้ง
“คุณชายมีธุระอันใดหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่แย้มยิ้มและยกกำปั้นทั้งสองข้างขึ้นมาประกบกุมไว้ด้านหน้าเป็นการทักทาย
“ข้ามีเรื่องอยากจะถามพวกเจ้าสักหน่อย”
แม้ว่าหน้ากากที่นางสวมอยู่ตอนนี้จะมิได้หล่อเหลาพิเลิศพิไลเพียงนั้น แต่ก็ยังถือว่าภูมิฐานและพอเข้าสังคมได้อยู่
พร้อมกับดวงตาใสแจ๋วเสมือนไร้ซึ่งเล่ห์เหลี่ยมคู่นั้นแล้ว มันยิ่งทำให้คนอื่นวางใจนางได้ง่ายๆ
ไหนจะรอยยิ้มบางดูสุขุม ดวงตาที่โค้งลงดุจพระจันทร์เสี้ยวที่ทั้งสดใสและแพรวพราว ภาพลักษณ์เช่นนี้ล้วนสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนโดยปริยาย
และด้วยเหตุผลบางอย่าง จู่ๆ ใบหน้าของแม่นางผู้นั้นก็เริ่มเห่อร้อนขึ้นทีละนิด
“เชิญคุณชายกล่าวมาได้เลย”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มรับและถามว่า
“สำนักหลิงเซียวเปิดรับสมัครลูกศิษย์ แต่อย่างน้อยศิษย์ผู้นั้นต้องเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้าหรือ?”
พวกเขามองนางราวกับกำลังมองสิ่งแปลกปลอม
“นี่เจ้ามุดออกมาจากซอกใดกัน แม้แต่เรื่องแค่นี้ก็ยังไม่รู้หรือ?”
ชายหนุ่มปากเสียในตอนแรก โพล่งออกมาอย่างอดไม่ได้
เดิมทีเขาอยากจะเสริมต่ออีก แต่กลับถูกแม่นางข้างกายถลึงตาใส่เสียก่อน
“ความจริงแล้ว มันไม่ใช่เสียทีเดียว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...