ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 116

ซือหยางเหล่ตามองนาง

“ไม่ได้!”

เพราะนิสัยขี้โมโหร้ายของกู้หมิงจูจะทำให้รร่วมกลุ่มต้องลำบาก อีกอย่าง นางดูไม่ออกหรือว่าพี่ใหญ่ไม่ได้มีใจให้นางเลยสักนิด

เมื่อกู้หมิงจูถูกปฏิเสธตรงๆ ก็รู้สึกร้อนที่ใบหน้า

นางมองไปที่ซือถิงอย่างน่าสงสาร แต่กลับพบว่าซือถิงไม่แม้แต่ชายตามองมาที่นาง ทั้งยังเย็นชาราวกับว่าไม่สนใจเลยสักนิด

กู้หมิงจูรู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับไฟสุมทรวงที่ทำให้นางรู้สึกแผดเผาทรมานไปทั้งร่าง

นางกัดริมฝีปากล่างเพื่อควบคุมไม่ให้ระเบิดอารมณ์ออกมา

แต่ทว่าความอิจฉาริษยาและความเกลียดชังต่อฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ในใจกลับมีมากกว่า

ฉู่หลิวเยว่มีสิทธิ์อะไร พวกเขาถึงได้เอ่ยปากชวนนางก่อน แต่พอนางเป็นฝ่ายเสนอตัวเองบ้างกลับโดนปฏิเสธ

สิ่งที่นางเอ่ยขอแล้วไม่มีวันได้ แต่ฉู่หลิวเยว่กลับทิ้งมันไปอย่างไร้ค่า

นางไม่เชื่อว่าฉู่หลิวเยว่จะได้ดีเช่นนี้ไปตลอด

ในไม่ช้าตงฟังชิงก็มาถึง

การสนทนาภายในห้องเรียนเงียบสนิทในทันที

ตงฟังชิงหัวเราะในลำคอแล้วปรายตามองหน้าทุกคน

“ดูเหมือนพวกเจ้าจะตั้งหน้าตั้งตารอเทศกาลล่าสัตว์อสูรมากทีเดียว! ยังมีเวลาอีกตั้งครึ่งเดือน พวกเจ้าก็พร้อมตั้งศัตรูกันแล้วหรือ”

“อาจารย์ตงฟัง มีข่าวลือว่าจะมีสัตว์อสูรระดับสูงปรากฏตัวในครั้งนี้ด้วยจริงหรือ” มีนักเรียนคนหนึ่งโพล่งถามด้วยความอยากรู้

ตงฟังชิงลูบเคลาของตัวเองไปมา”

“เทศกาลสัตว์อสูรคลุ้มคลั่งนี้มีสัตว์อสูรนับร้อยนับพันรวมตัวกันอยู่ที่เทือกเขาวั่นหลิง หากโชคดี พวกเจ้าก็จะได้เห็นสัตว์อสูรระดับสูงเป็นบุญตาแน่นอน”

เมื่อสิ้นเสียงของผู้เป็นอาจารย์ ดวงตาของนักเรียนหลายคนก็ลุกวาวและปกปิดความตื่นเต้นในแววตาไม่มิด

“หากนักเรียนคนใดสามารถล่าสัตว์อสูรสำเร็จ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะช่วยเพิ่มพลังและประสิทธิภาพในการต่อสู้ของพวกเขาอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปรมาจารย์อย่างพวกเรา ความแข็งแกร่งทางกายภาพค่อนข้างอ่อนแออยู่แล้ว และหากมีสัตว์อสูรมาอยู่เคียงข้าง ก็ไม่มีสิ่งที่ต้องกังวลอีกต่อไป”

แม้ฐานะของปรมาจารย์จะสูงกว่าผู้ฝึกยุทธ์ แต่ก็มีจุดอ่อนนั่นคือไม่เก่งในการต่อสู้ระยะประชิด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างค่ายกลต้องใช้เวลาและสมาธิ

คราวนี้นี่เองถ้ามีสัตว์อสูรมาช่วยก็จะยิ่งเพิ่มพละกำลังมากขึ้นไปอีก

ดังนั้นเมื่อเทียบกับผู้ฝึกยุทธ์แล้ว ปรมาจารย์จะสนใจเรื่องสัตว์อสูรมากกว่า

“พวกเจ้าบางคนในที่นี้มีสัตว์อสูรในครอบครองอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็ยังไม่มี อย่างนั้นก็ดีเลย พวกเจ้าจะได้ใช้โอกาสนี้หาสัตว์อสูรที่เหมาะสม หากรู้สึกถูกชะตาก็ลองดูก็แล้วกัน”

“อาจารย์ตงฟัง ผู้ฝึกฝนหนึ่งคนสามารถครอบครองสัตว์อสูรได้เพียงตัวเดียวเท่านั้นหรือ”

“ถูกต้อง สัตว์อสูรมีนิสัยดุร้ายแต่ก็เย่อหยิ่งทระนง ไม่ยอมมีเจ้านายคนเดียวกันเด็ดขาด หากเจ้าล่าสัตว์อสูรตัวใหม่มาเจ้าก็จะต้องปล่อยหรือไม่ฆ่าสัตว์อสูรตัวเดิมให้ตายเสียก่อน แต่สัตว์อสูรที่เคยมีเจ้านายมาก่อน มันจะมีปราณของมนุษย์ติดตัวไปด้วย พอมันกลับคืนสู่ธรรมชาติ มันก็จะโดนสัตว์ชนิดเดียวกันรังเกียจ ดังนั้นในกรณีส่วนใหญ่ เมื่อมันถูกเจ้าของปล่อยทิ้ง สัตว์อสูรมีทางเดียวเท่านั้นคือต้องตาย”

ทุกคนต่างพยักหน้าด้วยความเข้าใจ

“แม้สัตว์อสูรจะดุร้าย แต่ดูเหมือนพวกมันก็มีความทะนงตัวเหมือนกัน…”

ตงฟังชิงถอนหายใจแล้วเอ่ยขึ้น

“ถูกต้อง เมื่อใดก็ตามที่พวกมันยอมรับในตัวเจ้าของแล้วก็จะจงรักภักดีตลอดไป พร้อมร่วมเป็นร่วมตายกับเจ้าของ ดังนั้นตอนที่พวกเจ้าไปล่าสัตว์อสูรจะต้องระวังแล้วระวังอีกและเลือกตัวที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง”

นักเรียนทุกคนต่างพากันตื่นเต้น

“ขอรับ!”

“เจ้าค่ะ!”

ฉู่หลิวเยว่ที่กำลังมองกระดานหมากรุกตรงหน้าถึงกับหยุดชะงักการเคลื่อนไหว

ร่วมเป็นร่วมตายกับผู้เป็นนาย…

ดังนั้น หลังจากที่นางตาย…

“เอาล่ะ ยังเหลือเวลาอีกสิบกว่าวัน พวกเจ้าก็ขยันฝึกฝนกันหน่อย เมื่อพลังเพิ่มขึ้นถึงจะสามารถล่าสัตว์อสูรระดับสูงได้ วันนี้อาจารย์จะสอบค่ายกลแหล่งน้ำ…”

เมื่อตงฟังชิงโบกมือตัวหมากรุกก็ลอยออกมาแล้ววางเรียงลงบนกระดานหมากด้วยแผนที่ค่ายกลผืนใหม่

ฉู่หลิวเยว่ก้มหน้าลงไปเหมือนเดิมและขจัดความคิดในใจของนาง

คาบเรียนครั้งนี้ ฉู่หลิวเยว่ค่อนข้างใจลอยและไม่ตั้งใจมากนัก

แม้ว่าดวงตาจะจ้องมองไปที่กระดานหมากรุก กลับมีภาพมากมายลอยวนเวียนอยู่ในหัวของนาง

ในอดีตชาติ นางเป็นถึงองค์หญิงฟ้าลิขิตอันสูงศักดิ์ แน่นอนว่านางก็มีสัตว์อสูรของตนเอง

แต่ตอนที่นางเกิดเรื่อง มันกำลังอยู่ในธรณีประตูแห่งการบรรลุ จึงเข้าสู่การหลับใหล

ในเวลานั้น นางถูกหักหลังและตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงเลือกที่จะจุดไฟเผาตัวเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์