ตอน บทที่ 1182 อ่านจบแล้ว จาก ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1182 อ่านจบแล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ที่เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ผู้อาวุโสเหวินซีใจกระตุกวูบ ก่อนจะหันไปมองเขาอย่างพินิจ ก่อนจะพบว่าใบหน้าของอีกฝ่ายนั้นดูปกติดี ดวงตาคมกริบกระจ่างชัดเจน ราวกับมิได้เมามายในสุรา?
แต่เสื้อผ้าของเขากลับมีกลิ่นฉุนของเมรัยลอยตลบอบอวล
เขาเบนสายตาไปมองจอกสุราที่ว่างเปล่า ดูเหมือนว่าน้ำเมาในจอกจะไม่ได้ไหลลงไปในลำไส้ หากแต่ไหลลงพื้นแทน
ผู้อาวุโสเหวินซีคว้าแขนของเขา แล้วลากอีกคนเข้าไปในห้อง พลันปิดประตูตามหลังเสร็จสรรพ
หลังจากแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้ ผู้อาวุโสเหวินซีก็หันมามองเขาด้วยสายตาจริงจัง
“วันนี้เจ้ามาที่นี่ เพื่อคุยกับข้าเรื่องนี้หรือ?”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงเดินไปหาเก้าอี้แล้วทิ้งตัวนั่งลงอย่างแรง คิ้วเข้มขมวดเป็นปมระคนดูสับสน
“เจ้าบอกว่า วันนั้นนางเข้ามาในเมืองฝางโจวแล้ว พูดตามตรงนางชอบเตร็ดเตร่ไปทั่ว แต่นี่ก็นานแล้ว นางควรจะกลับมาได้แล้วนะ? แต่แล้วเหตุใด…ข้าถึงไม่เห็นแม้แต่เงาของนาง?”
เพราะเหตุนี้ เขาถึงจงใจรออยู่ที่ฝางโจวสองสามวัน กระนั้นจนถึงตอนนี้ นางก็ยังไม่ปรากฏตัว
และยิ่งเวลาผ่านไป ผู้อาวุโสฮวาเฟิงก็ยิ่งปล่อยวางไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงมาหาผู้อาวุโสเหวินซีที่สำนัก แล้วถามความเห็นของอีกฝ่าย
“นางเป็นเช่นนี้แต่ไหนแต่ไรแล้ว เอาแน่เอานอนกับนางไม่ได้หรอก บางทีนางอาจติดพันกิจธุระจนมาช้า ยิ่งไปกว่านั้น…ถึงนางจะกลับมาที่ฝางโจว แต่ก็ไม่มีใครล่วงรู้ว่านางจะกลับมาที่สำนักหรือไม่”
ผู้อาวุโสเหวินซีนั่งลงข้างเขา
“บางที นางอาจจะจากไปอีกแล้วก็ได้?”
ริมฝีปากของผู้อาวุโสฮวาเฟิงกระตุกเบาๆ พลันสบถเสียงต่ำอย่างอดไม่ได้
“เจ้าเด็กไร้หัวใจ!”
นางมาถึงฝางโจวแล้ว และด้วยความสามารถของนาง นางย่อมรับรู้ได้ว่าเขากับเหวินซีอยู่ที่นั่นในวันนั้น!
“หายหัวไปเสียหลายปี พอกลับมาทั้งที แม้แต่หน้าก็ยังไม่ได้เห็น! ลืมกฎเกณฑ์ที่เคยพร่ำสอนไปแล้วหรือ!”
ผู้อาวุโสเหวินซีมองเขาอย่างมีนัย
“นางเคยอยู่ใน ‘กฎเกณฑ์’ ด้วยหรือ?”
“…”
ปัง!
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงกระแทกจอกสุราลงบนโต๊ะ
“ไม่กลับก็ไม่ต้องกลับ! ไม่มีนางคอยควบคุม ข้าจักดื่มสุราให้สาแก่ใจไปเลย!”
ผู้อาวุโสเหวินซีมองเขาอย่างเหนื่อยใจ
ครั้นมองดูสีหน้าไร้ชีวิตชีวาของเขา ย่อมรู้ว่าต่อให้เขาดื่มเข้าไปมากเพียงใด ก็ใช่ว่าเขาจะมีความสุข
“นางโตแล้ว มีความคิดความอ่านเป็นของตัวเอง ถ้าอยากกลับมา เดี๋ยวนางก็มาเอง เจ้าจักรีบไปไย”
ผู้อาวุโสเหวินซีหัวเราะเบาๆ
“ช่วงนี้เจ้าเพิ่งรับศิษย์มามิใช่หรือ? อบรมสั่งสอนให้ดีล่ะ! นางมิใช่แม้แต่ศิษย์ของเจ้ากับข้าด้วยซ้ำ ประเดี๋ยวได้เสียแรงเสียเวลาอยู่ที่นี่โดยเปล่าประโยชน์”
“เหอะ”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงเหลือบมองชั้นหนังสือด้านข้างด้วยเย้ยหยัน
“แล้วเจ้าปัดกวาดเช็ดถูตำราหายากเหล่านั้นเหตุใด? นอกจากนางแล้ว ไม่มีใครกล้าแอบอ่านตำราของเจ้าหรอก!”
“นี่เจ้า…”
ผู้อาวุโสเหวินซีถึงกับสะอึก
แว้งกัดกันเช่นนี้ ช่างน่ารำคาญที่สุด!
“พูดก็พูดเถอะ เจ้าเองก็รับศิษย์มาแล้วมิใช่หรือ? หลัวซือซือและจัวหมิงผู้นั้นล้วนเป็นต้นกล้าที่ไม่เลวเลย โดยเฉพาะหลัวซือซือ เมื่อเวลานั้นมาถึง นางจะอยู่ในสิบอันดับแรกบนรายชื่องานประลองชิงอวิ๋นแน่นอน”
“ฮึ่ม ตอนนี้ในหัวของเด็กนั่น มีแต่เรื่องของไอ้หนุ่มฉู่เยว่ผู้นั้น!”
ผู้อาวูโสเหวินซีอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อ
“แต่เหมือนว่าพรสวรรค์ด้านนี้ของฉู่เยว่จะไม่เลวเลยนะ ก่อนหน้านี้พวกเราไม่เคยเอะใจเลย…”
พวกเขารู้อยู่แล้วว่าฉู่เยว่จะชนะหลิ่วจื่ออัน แต่พอเห็นกับตาก็ยังตกใจอยู่ดี
สามารถพัฒนาทักษะการต่อสู้ได้แบบก้าวกระโดดเช่นนี้ ยิ่งแสดงให้เห็นอันใดหลายๆ อย่าง
“ตอนแรกเขาบอกว่าเขาเป็นจอมยุทธ์ระดับเจ็ด และไม่ได้พูดอันใดเพิ่มเติม แล้วแบบนี้ใครจะเดาความคิดเขาได้? แต่ตามแผนของเขา เขาอยากเป็นยอดฝีมือด้านเซียนหมอ”
ผู้อาวุโสเหวินซียักไหล่
“สมใจไอ้แก่วั่นเจิงนั่นแล้ว อัจฉริยะผู้เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณอันแรงกล้าเช่นนี้ หาตัวจับได้ยากนัก”
ทั้งสองคนนั่งหันหน้าเข้าหากันและเงียบไปสักพัก
ก่อนจะสบตากันครู่หนึ่ง
“ฮวาเฟิง เจ้าว่าฉู่เยว่ผู้นั้น มีส่วนคล้ายนางหรือไม่?”
…
พระจันทร์ดวงใหญ่ลอยสูงเด่นอยู่กลางท้องฟ้า
และไม่นานก็ถึงเวลาออกจากภูเขาหมื่นเมรัยแล้ว
ฉู่หลิวเยว่กลืนกินพลังปราณดั้งเดิมเส้นสุดท้ายเข้าไป แล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น
อีกไม่นาน นางก็ทะลวงได้แล้ว
ร่างเพรียวบางหันศีรษะไปมอง ก่อนจะเห็นถวนจื่อที่ลงไปแช่อยู่ในตาน้ำพุเสียครึ่งตัว ตั้งแต่ยามใดก็ไม่รู้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...