บทที่ 1184 สวนสมุนไพร – ตอนที่ต้องอ่านของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ตอนนี้ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายการเกิดใหม่ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 1184 สวนสมุนไพร จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บางคนหันมามองนางเป็นครั้งคราว ราวกับว่าพวกเขาจำฉู่หลิวเยว่ได้
แต่ฉู่หลิวเยว่ไม่สนใจพวกเขา และค้นหาวัตถุดิบยาที่ต้องการต่อไป
ดวงตากลมกวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะพบอีกชนิดที่ต้องการ
แต่ก็ยังเหลือสมุนไพรชนิดสุดท้ายอย่างใบกระดูกงามอีกหนึ่ง ทว่าหลังจากค้นหาอยู่นาน นางกลับหามันไม่เจอเสียที
หุบเขาวาโยโอสถกว้างใหญ่จริงๆ แถมยังมีสมุนไพรนับไม่ถ้วน ทว่าใบกระดูกงามนั้นมีขนาดเพียงเล็บมือ ซึ่งยากต่อการค้นหา
แต่สมุนไพรชนิดนี้ชื่นชอบแสงแดด เป็นไปได้สูงที่จะพบมันบนยอดเขาที่แดดส่องถึง
ฉู่หลิวเยว่คิดอยู่พักหนึ่งแล้วเดินไปยังยอดเขาทางด้านซ้าย
หลังจากเดินไปไกลพอควร ในที่สุดนางก็ได้กลิ่นจางๆ ที่คุ้นเคย
หัวใจดวงน้อยเต้นรัวด้วยความดีใจ มันต้องอยู่ข้างหน้านี้แน่ๆ!
แต่ในขณะที่นางก้าวออกไปเด็ดใบกระดูกงาม จู่ๆ ก็มีค่ายกลโปร่งใสส่องแสงแวววาวปรากฏขึ้นตรงหน้านาง!
ฉู่หลิวเยว่ชะงักฝีเท้า
“ไอ้หนู เจ้าเข้าไปฝั่งนั้นไม่ได้”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงทุ้มต่ำแลแหบพร่าดังขึ้น ราวกับเจ้าของเสียงนั่นเพิ่งตื่นจากการหลับไหลก็มิปาน
ฉู่หลิวเยว่จ้องมองลายเส้นสีเงินที่ปรากฏบนค่ายกล แรงกดดันอันน่าตกใจพลันหยุดลงอย่างรู้งาน ก่อนจะหันกลับไปมองต้นเสียง
บริเวณที่นางยืนอยู่ตอนนี้ห่างไกลจากคนอื่นๆ มาก และแทบไม่มีใครอยู่แถวนี้เลย แสดงว่าเสียงนั้นน่าจะมาจาก…ผู้อาวุโสที่นอนอยู่ไกลออกไปกลางหุบเขา?
พวกเขาสองคนอยู่ห่างกันมาก แต่ชายชรายังคงนอนอยู่บนตะแคร่ไม้เล็กๆ ไร้ซึ่งการเคลื่อนไหว ราวกับว่าเขานอนหลับสนิท
แต่เสียงนั้นกลับดังชัดเจนราวพูดอยู่ข้างๆ หู
“มองหาอันใดหรือไอ้หนู?”
เสียงนั้นโพล่งขึ้นราวประชด
ฉู่หลิวเยว่มั่นใจว่าชายชราคือเจ้าของเสียงนั้นจริงๆ
นางแอบตกใจนิดหน่อย
นั่นเพราะหุบเขาวาโยโอสถมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก แต่เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้อาวุโสคนนั้น
และค่ายกลนี่ก็น่าจะเป็นฝีมือของเขาเช่นกัน
นางประสานหมัดไปทางผู้อาวุโสแล้วโค้งคำนับด้วยความเคารพ
“ศิษย์มีนามว่าฉู่เยว่ ขอคารวะท่านผู้อาวุโสขอรับ”
“หือ? ฉู่เยว่?”
เมื่อได้ยินคำพูดของนาง กลับมีความประหลาดใจปะปนอยู่ในน้ำเสียงของผู้อาวุโส
หลังจากนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็เห็นผู้อาวุโสที่นอนนิ่งอยู่อยู่นานลุกพรวดขึ้นนั่ง เขานวดหว่างคิ้วไปมา พลันมองมาทางนาง
แม้นางจะมองไม่ค่อยเห็นใบหน้าและสีหน้าของเขา แต่ฉู่หลิวเยว่มั่นใจว่าเขากำลังใช้สายตาที่เต็มไปด้วยสงสัยใคร่รู้จ้องมองนางอยู่
“เจ้าคือไอ้หนูที่เพิ่งมาวันแรกก็ถูกขังไว้บนเขาเฝิงหมินใช่หรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่ “…”
นี่ชื่อเสียงของนางดั่งกระฉ่อนขนาดนั้นเชียวหรือ…
“ศิษย์ละอายใจขอรับ”
นางกล่าวพลางก้มศีรษะลงต่ำ
“เมื่อครู่ศิษย์เพียงต้องการเข้าไปเก็บใบกระดูกงามสักสองสามใบ มิทราบเลยว่าตรงนั้นเป็นเขตหวงห้าม ศิษย์มิได้ตั้งใจทำให้ท่านขุ่นเคือง โปรดยกโทษให้ศิษย์ด้วยขอรับ”
“เจ้ามาที่นี่ครั้งแรก ไม่รู้ย่อมไม่แปลก”
ดูเหมือนผู้อาวุโสจะไม่ได้อยากตำหนิฉู่หลิวเยว่เท่าใด แต่กลับหัวเราะออกมาแทน
“แต่ดูเหมือนวั่นเจิงจักภูมิใจในตัวเจ้ามากเลยสินะ เขาถึงได้บอกให้เจ้ามาหุบเขาวาโยโอสถภายในเร็ววันเช่นนี้?”
เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสทั้งสองสนิทสนมกัน ฉู่หลิวเยว่เงียบไม่รู้จะตอบอันใดพักหนึ่ง พลันเลือกที่จะเงียบแล้วตั้งใจฟังเขา
“ตำแหน่งของใบกระดูกงามนั้นแปลกจริงๆ แต่ก็ยังอยู่ภายในค่ายกล เจ้าไปเด็ดมันเถอะ อย่าออกนอกค่ายกลก็พอ”
พลันเกิดความผันผวนเล็กน้อยจากด้านหลัง
ฉู่หลิวเยว่มองย้อนกลับไป และเห็นว่าแสงบนค่ายกลนั้นหรี่ลงแล้ว แสดงว่าผู้อาวุโสจงใจลดพลังปราณลง
ครั้นสัมผัสได้ว่าแรงข่มนั่นลดลงแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และก้าวไปข้างหน้าสองสามก้าวพร้อมแหวกหญ้าแห้งแถวนั้นออก ก่อนจะเห็นใบกระดูกงามสองสามใบที่ซ่อนอยู่ในร่องใต้หินก้อนใหญ่
ใบของมันมีสีเขียวสด แต่มีขนาดเท่าเล็บมือ ขอบใบหยักเป็นแฉกๆ และมีแม่คะนิ้งเกาะอยู่จางๆ
ดูแล้วผ่องใสมันวาวราวกับหยกสีมรกต
ทว่าหากสังเกตให้ดี จะเห็นเส้นใยภายในใบไม้ ซึ่งแตกแขนงและเรียงกันเหมือนเป็นโครงกระดูก
ฉู่หลิวเยว่เด็ดพวกมันออกมาอย่างระมัดระวัง
แต่จู่ๆ ก็มีลมกระโชกแรงพัดมา
ปอยผมบริเวณหน้าผากหลุดลุ่ยตามแรงลม ทิ้งตัวคลอเคลียไปตามปรางแก้มเนียนจนรู้สึกระคายนิดๆ
นางยืดตัวขึ้นและมองไปข้างหน้าโดยไม่ตั้งใจ
พลันจดจ้องภาพตรงหน้าไม่วางตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...