ซั่งอวี้เซินนึกว่าตัวเองหูฝาดไป
“เจ้าว่าอย่างใดนะ?”
เขากัดฟันพูดออกมาทีละคำ
ทุกคำพูดที่หลุดลอดออกมาจากไรฟันนั้นเต็มไปด้วยความอดทนอดกลั้น ขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอย่างไม่สบอารมณ์
ฉู่หลิวเยว่หดคองอตัวลงทันตา
บัดซบจริงเชียว ขโมยของคนอื่นเช่นนี้ช่างน่าอดสูนัก!
แต่เรื่องนี้นางเองก็ทำอันใดไม่ได้จริงๆ!
ใครจะรู้ว่าเขากำลังหลอมอาวุธอยู่ที่นี่กัน?
นอกจากนี้ หลังจากเข้ามาด้านใน ตัวนางเองยังไม่ทันได้ทำอันใดเลยด้วยซ้ำ เป็นกระบี่ชื่อเซียวนั่นต่างหากที่บินออกไปเอง จะโทษนางคนเดียวได้อย่างใด!
แต่นางก็ไม่กล้ายื่นอุทธรณ์ให้ตัวเอง
เพราะดูท่าแล้วถึงจะแก้ตัวอย่างใดก็ไม่มีประโยชน์
นางก้มศีรษะลงเล็กน้อย
“ศิษย์ยอมรับผิดขอรับ”
คำสารภาพอย่างจริงใจนี้ ทำให้ไฟโทสะในใจของซั่งอวี้เซินมิอาจปะทุออกมาได้แล้ว
“เหอะ! เจ้ามันรู้หลบเป็นหลีก! แถมยังกล้า… “ขอยืม” ทัณฑ์สวรรค์ของข้าอีก!”
ซั่งอวี้เซินสะบัดแขนเสื้อ พลันหันไปมองยอดเขา
ก่อนจะมองเห็นร่างเงาของกระบี่เล่มยาว ที่ลอยอยู่ท่ามกลางเหล่าวิถีแห่งสวรรค์ที่กำลังห้ำหั่นลงมาอย่างต่อเนื่อง
“นั่นคือกระบี่ชื่อเซียวหรือ?”
เขาหรี่ตาลงแล้วถามนาง
ฉู่หลิวเยว่แอบตกใจที่เขารู้จักมัน แต่พอคิดทบทวนดูแล้ว ในเมื่อเขาเป็นผู้อาวุโสของสำนัก ย่อมไม่แปลกที่เขาจะรู้เรื่องของมัน
อย่างใดเสียกระบี่เล่มนี้ก็เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้อาวุโสของสำนักรุ่นก่อนหล่อหลอมขึ้นมา และบันทึกเล่มนั้นก็ถูกทางสำนักวิชาเก็บรักษาอย่างดีมาโดยตลอด
“ขอรับ”
“โชคดีของเจ้าแล้วไอ้หนู”
ซั่งอวี้เซินสบถเสียงต่ำ
เขาเฝ้าตามหามันมานานหลายปี แต่สุดท้ายก็ไม่เคยเจอเลยสักครั้ง
แต่ใครจะคิดว่าแค่เขาล้มเลิกแผนการตามหาไปได้ประเดี๋ยวเดียว กลับต้องพลาดท่าให้คนอื่นเช่นนี้!
และที่สำคัญก็คือ กระบี่เล่มนี้ยังเลือกนายของมันแล้วด้วย!
การทำให้อาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อยอมรับนั้น…ไม่ง่ายอย่างที่คิด และเขาเองก็ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ใช้วิธีการใดถึงได้มันมาครอบครอง
ฉู่หลิวเยว่ก้มหน้าลงต่ำกว่าเดิม
“แต่ศิษย์มีความผิด”
นางแอบสัมผัสได้ว่าทัศนคติที่มีต่อกระบี่ชื่อเซียวของผู้อาวุโสท่านนี้ ดูแตกต่างไปจากผู้อาวุโสท่านอื่นเล็กน้อย
ทั้งผู้อาวุโสปั๋วเยี่ยน หรือแม้แต่คณะของผู้อาวุโสชูเฟิงที่พากันไปชิงกระบี่ชื่อเซียวกลับมาด้วยตัวเองในครานั้น ก็ยังเหมือนจะไม่ค่อยรู้เรื่องของกระบี่ชื่อเซียวมากนัก
“นั่นมันกำลังหลอมวิญญาณใช่หรือไม่?”
ประโยคที่ซั่งอวี้เซินกล่าวออกมานั้น ทำเอาฉู่หลิวเยว่ตกใจจนพูดไม่ออกไปแวบหนึ่ง
แต่ครั้นไตร่ตรองดูดีๆ อีกฝ่ายก็เป็นถึงช่างหลอมอาวุธ และดูๆ แล้วจะเป็นช่างหลอมอาวุธระดับสูงด้วย ไม่แปลกที่เขาจะมองออกในทันทีเช่นนั้น
“ผู้อาวุโสเก่งกาจและปราดเปรื่อง ศิษย์ขอคารวะขอรับ”
“ฮึ่ม เจ้าไม่ต้องมาประจบประแจงข้า! พูดตามตรง ข้ารู้จักกระบี่ชื่อเซียวมากกว่าเจ้าเสียอีก!”
แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีวาสนาได้ครอบครอง!
แต่ในเมื่ออาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อนี้ได้เลือกนายคนใหม่แล้ว เช่นนั้นก็พิสูจน์ได้แล้วว่า ในกระบี่ไม่มีจิตวิญญาณของกระบี่สิงสถิตอยู่แล้ว
เมื่อนึกถึงข้อมูลต่างๆ ที่ปั๋วเยี่ยนเคยพูดกับเขาก่อนหน้านี้ เขาก็เริ่มเดาสถานการณ์ได้บางส่วน
จิตวิญญาณของกระบี่ย้ายไปอยู่ในอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งจุนเจ๋อที่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ และถูกบังคับให้จดจำผู้เป็นนายของมัน…
เป็นสถานการณ์ที่ยากจะเกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นแล้วจริง!
สิ่งนี้ย่อมทำให้ผู้คนอิจฉาตาร้อนกันถ้วนหน้า
“แล้วเจ้าจะยืนอยู่ตรงนี้ไปถึงเมื่อไร ยังไม่ขึ้นมาอีก?”
ซั่งอวี้เซินมองฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาค่อนแคะ
“อย่าบอกนะว่าเรื่องแค่นี้ก็ทำไม่ได้?”
ฉู่หลิวเยว่ผงะไปชั่วครู่ ก่อนจะคิดได้ว่าเขากำลังกระตุ้นนาง…
นี้เขา…
ก่อนหน้านี้เขายังโกรธจนอยากลงโทษนางอยู่เลย ทว่ายามนี้จู่ๆ เขากลับสนับสนุนนางเสียอย่างนั้น?
“…ท่านผู้อาวุโส นี่ท่าน…ไม่โกรธแล้วหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ถามอย่างลังเล
“มารดาเจ้าเอ้ย ไยจักถามมากมายเพียงนี้! ต่อให้ข้าเอ็ดเจ้า เจ้าก็ชิงทัณฑ์สวรรค์ของข้าไปแล้วมิใช่หรือ!?”
ซั่งอวี้เซินอยากจะหยุมหัวอีกฝ่ายสักที
พลันถ่ายเทพลังปราณของนางลงในกระบี่อย่างไม่หยุดยั้ง!
เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นทันที
ไม่นาน ลมปราณอันรุนแรงรอบๆ ตัวกระบี่ชื่อเซียว ก็กลับมาสงบดังเดิม
ความรู้สึกเชื่อมโยงที่คุ้นเคยและลึกซึ้งนั้นค่อยๆ แข็งแกร่งขึ้น!
ทันใดนั้น ถวนจื่อก็วิ่งออกมาจากร่างของนาง แล้วกระโจนลงไปในตาน้ำเบื้องล่าง!
จ๋อม!
ฉู่หลิวเยว่ก้มหน้ามองแวบหนึ่ง
ระลอกคลื่นปรากฏบนผิวน้ำอันสงบนิ่ง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นทัณฑ์สวรรค์จำนวนมากที่รวมตัวกัน และแหวกว่ายอยู่ในนั้นได้ชัดเจน
…
เปรี้ยง!
เสียงกัมปนาทดังขึ้นอีกครา!
ฉู่หลิวเยว่ตกใจพลันรีบเงยหน้าขึ้นมอง!
ก่อนจะเห็นว่าทัณฑ์สวรรค์ที่แต่เดิมเหลือน้อยลง พลันปรากฏออกมาอีกเป็นโขยง!
เกิดลมพายุหมุนวนและเสียงกัมปนาทไปทั่วทุกพื้นที่
พร้อมกับร่างเงาของใครบางคนยืนอยู่บนอากาศ เขาคือซั่งอวี้เซิน!
ชายชุดคลุมตัวยาวพริ้วไหวไปตามแรงลม เขาโบกสะบัดแขนเสื้อ ลมปราณรอบตัวเขาพลันพุ่งพล่านอย่างดุเดือด พร้อมแรงกดดันอันทรงพลังที่แผ่กระจายออกมา!
เมื่อเขาทำเช่นนั้น วิถีแห่งสวรรค์ก็เริ่มปรากฏออกมามากขึ้นเรื่อยๆ!
ฉู่หลิวเยว่ทราบในทันทีว่าเขากำลังช่วยเรียกทัณฑ์สวรรค์ให้นาง!
ฉู่หลิวเยว่ซาบซึ้งใจอย่างมาก
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสขอรับ!”
ซั่งอวี้เซินมิได้หันไปมอง แต่ตะโกนเสียงกลับไปว่า
“ขอบคุณอันใด! ตั้งใจหลอมกระบี่ให้ข้าเสีย! หากเจ้าล้มเหลว ก็รอรับบทลงโทษจากข้าได้เลย!”
เขาอุตส่าห์ลงแรงช่วยเหลือขนาดนี้แล้ว จะไม่ยอมปล่อยให้มันล้มเหลวเด็ดขาด!
ฉู่หลิวเยว่อดยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ หากมิได้โต้ตอบแต่อย่างใด นางดึงสายตากลับมา แล้วมุ่งความสนใจไปที่กระบี่ชื่อเซียว!
และในที่สุด ก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบนฝัก!
ฉู่หลิวเยว่ใจเต้นรัว พลันกระชับด้ามกระบี่ในมือไว้แน่น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...