อ่านสรุป บทที่ 1307 ตกใจ จาก ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
บทที่ บทที่ 1307 ตกใจ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายการเกิดใหม่ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
“ฮ่าฮ่า จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างใด!”
ผู้อาวุโสเมิ้งเย่ส่ายพัดไปมาแรงๆ
“ไม่ต้องห่วง ข้ายังมิได้ส่งใบเสร็จค่าสมุนไพรที่เจ้าเก็บไปก่อนหน้าให้วั่นเจิงหรอก! ไว้รอกลับมาแล้วข้าจะถือไปให้เขาดูกับตาเองเลย! ส่วนตอนนี้ อยากได้เท่าไร เจ้าก็เด็ดไปได้เลย!”
เขากล่าวและทำทีตบปาก พลางหรี่ตาลงแล้วหัวเราะคิกคัก
“หลายปีมานี้ เจ้าเป็นศิษย์เพียงคนเดียวของเขา มิใช่ว่าเจ้ากลายเป็นแก้วตาดวงใจของเขาไปแล้วหรอกหรือ? เหอะ เหอะเดาว่าเขาคงมอบสมบัติพิษฐานทั้งหมดให้เจ้าแล้วสิท่า แค่สมุนไพรเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้จักสำคัญไย?”
มุมปากของฉู่หลิวเยว่กระตุกเบาๆ เพราะสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายกำลังมีความสุขอยู่บนความทุกข์ของตน
นางตอบกลับอย่างสุภาพ
“ขอบคุณท่านผู้อาวุโสขอรับ”
หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็ปลีกตัวออกมา และเริ่มเลือกสมุนไพรอย่างระมัดระวัง
ผู้อาวุโสเมิ้งเย่ล้มตัวลงนอนอีกครั้ง ครั้นนึกถึงสีหน้าของวั่นเจิงยามกลับมาเห็นใบเสร็จยาวเหยียดแล้ว เขาก็อดไม่ได้ที่ผิวปากด้วยความคึกคะนอง
ต้องเป็นภาพหรรษามากแน่ๆ!
…
เดิมทีฉู่หลิวเยว่ไม่ได้ขาดแคลนสมนุไพรขนาดนั้น
เมื่อครั้งหรงซิวมอบแหวนเฉียนคุนให้นาง ภายในนั้นล้วนเต็มไปด้วยข้าวของจำเป็นมากมาย
และต่อมานางก็ได้รับของล้ำค่าจากช่องทางต่างๆ เพิ่มอีก
นอกจากนี้ หลังจากเข้ามาในสำนักวิชาแล้ว นางก็แวะเวียนมาที่หุบเขาวาโยโอสถตั้งหลายครั้ง…
แน่นอนว่านางย่อมมีสมุนไพรมากพอสำหรับการปรุงโอสถ
แต่เมื่อนึกถึงค่ายกลและใบสั่งยาที่ผุดขึ้นมาในความทรงจำเมื่อครู่ ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกว่านางยังขาดสมุนไพรอีกหลายอย่าง
บวกกับช่วงนี้นางอ่านตำราปรมาจารย์โอสถเล่มนั้นด้วย ทำให้ต้องมาค้นหาสมุนไพรที่นี่อีกครั้ง
ไม่นานฉู่หลิวเยว่ก็ได้สมุนไพรมามากมาย
และเผลอเดินไปจนถึงริมขอบของสวนสมุนไพรอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว
มีแรงกดดันพุ่งมาจากทางด้านหน้า
ฉู่หลิวเยว่ชะงัก แล้วเงยหน้าขึ้น
ก่อนจะเห็นค่ายกลของหุบเขาวาโยโอสถที่อยู่ไม่ไกลนัก
สีของท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง จนมองเห็นแสงเรืองรองจางๆ ของค่ายกลนั่น
ฉู่หลิวเยว่ใจเต้นแรงราวถูกกระตุ้นด้วยอันใดบางอย่าง
…นางอยากเข้าไปตรวจดูในสวนสมุนไพร!
นับตั้งแต่รู้เรื่องอดีตของตัวเอง ความจริงแล้วนางคิดแบบนี้หลายต่อหลายครั้ง
แต่มันยากเกินไป และนางก็ไม่เคยทำได้สำเร็จ
นั่นเพราะ ข้อแรก ที่ตั้งของสวนสมุนไพรนั่นพิเศษมาก และแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะบุกเข้าไปเงียบๆ โดยมิให้ใครเห็น
และข้อสอง นางทำผิดกฎของสำนักหลายครั้งแล้ว หากถูกจับได้อีกครั้ง คงเกิดปัญหาตามมามากมายเป็นแน่
ทว่าเมื่อวันเวลาผ่านไป แทนที่ความคิดเช่นนี้จะเจือจางลง แต่มันกลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถระงับมันไว้
โดยเฉพาะวันนี้ที่นางทะลวงขึ้นสู่ปรมาจารย์ค่ายกลระดับราชาได้ แรงกระตุ้นนี้ก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้น จนถึงจุดสูงสุด!
ขณะเดียวกัน นางก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่กำลังจ้องมองมา
มันคือสายตาของผู้อาวุโสเมิ้งเย่
ฉู่หลิวเยว่ทำทีหยิบสมุนไพรสองสามที่อยู่ใกล้มืออย่างใจเย็น และเดินเตร่ไปรอบๆ สักพัก ก่อนจะเก็บข้าวของทั้งหมดแล้วเดินไปชำระบัญชี
จากนั้นสายตากดดันของอีกฝ่ายถึงค่อยเบาบางลง
ผู้อาวุโสเมิ้งเย่อาจดูเกียจคร้าน แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนระแวดระวังและเจ้าสังเกตมาก
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในหุบเขาวาโยโอสถอันกว้างใหญ่แห่งนี้ ล้วนตกอยู่ภายใต้การสอดส่องดูแลของเขา
หากกล้าทำผิดในถิ่นของเขา ก็ไม่ต่างจากการรนหาที่ตายเลย
หลังจากที่ฉู่หลิวเยว่จัดแจงค่าสมนุไพรทั้งหมดแล้ว นางก็เอ่ยลาด้วยความเคารพและออกจากหุบเขาไป
ผู้อาวุโสเมิ้งเย่มองตามร่างของนางไปจนสุดสายตา พลางใช้พัดสานเกาคางไปมา แล้วเอนตัวลงนอนอีกครั้ง
…
กว่าฉู่หลิวเยว่จะกลับถึงภูเขาจิ่วเหิง ท้องนภาก็แปรเปลี่ยนเป็นสีดำแล้ว
นางนั่งสมาธิในห้องด้วยความสงบ และปรับสมดุลของลมปราณให้อยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด
กระทั่งตกดึก
ฉู่หลิวเยว่ลืมตาขึ้นแล้วหยิบชุดคลุมสีดำมาคลุมตัวไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...