สรุปเนื้อหา บทที่ 1309 ตื่นจากนิทรา – ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
บท บทที่ 1309 ตื่นจากนิทรา ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ณ กลางเวหาในค่ำคืนอันแสนเงียบงัน
ร่างของฉู่หลิวเยว่เหาะเหินอยู่บนอากาศราวภูติผี และทะยานข้ามไปที่ภูเขาฝั่งตรงข้ามอย่างรวดเร็ว
เมื่อยืนมองจากตรงนี้ จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของสวนสมุนไพรที่รายล้อมไปด้วยทิวเขามากมายได้อย่างชัดเจน
และสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้น ทำเอานางจำต้องกลั้นหายใจและไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา เพราะกลัวพลาดฉากอันงดงามเช่นนี้ไป
ความจริงแล้วสวนสมุนไพรแห่งนี้ เป็นที่ราบลุ่มที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางยอดเขาสูงที่ล้อมรอบมันไว้
แต่ไม่ทราบด้วยเหตุผลอันใด มันถึงอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากเช่นนี้ และเกือบสูงถึงครึ่งหนึ่งของยอดเขาเหล่านี้เลยก็ว่าได้
ทั้งกว้างใหญ่ รื่นรมย์และดูมีชีวิตชีวา
นี่เป็นความประทับใจครั้งแรกของฉู่หลิวเยว่ที่มีต่อมัน
ค่ายกลขนาดใหญ่ห่อหุ้มมันไว้ราวกับหมอกหนา
ตอนที่มองจากเขาอวี้เหิง นางมองเห็นเพียงภาพสวนลางๆ เนื่องจากระยะทางที่ค่อนข้างไกล
แต่พอมายืนมองใกล้ ภาพทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น
ฉู่หลิวเยว่สามารถมองเห็นสมุนไพรบางชนิดที่ปลูกอยู่ข้างในได้อย่างคลุมเครือ
และแค่ปรายตามองแวบเดียว นางก็รู้ทันทีว่าข่าวลือที่ได้ยินจากจงซวิ๋นนั้นเป็นเรื่องจริง
เพราะสมุนไพรที่นางเห็นเหล่านี้ ล้วนเป็นวัตถุดิบที่หายากและมีค่ามาก
แม้จะถูกค่ายกลขวางกั้น แต่ฉู่หลิวเยว่ก็ยังคงได้กลิ่นหอมๆ นั้นเล็ดลอดออกมาปะทะจมูกของตนอยู่ดี
มันคล้ายกับสมุนไพรที่อยู่ในหุบเขาวาโยโอสถ แต่ก็มีส่วนที่ต่างเช่นกัน
ส่วนใหญ่สมุนไพรจะมีกลิ่นออกขมฝาด
แต่สมุนไพรในสวนนี่กลับมีกลิ่นหอมหวานแฝงอยู่
ดวงตากลมพลันหรี่ลงทันที
ก่อนจะเห็นบัวระบำดอกใหญ่บานสะพรั่งนับไม่ถ้วน
กลีบดอกของมันพลิ้วไหวตามสายลม ดูสวยสดงดงามยิ่งนัก
พลันมีความสงสัยปรากฏขึ้นในดวงตาของฉู่หลิวเยว่
หรือว่านาง… จะเป็นคนปลูกดอกบัวทั้งหมดนี้?
แต่ถึงนางจะชอบบัวระบำมากแค่ไหน แต่การดูแลพวกมันนั้นยุ่งยากมาก และระยะเวลาออกดอกก็สั้นมากด้วย
หากอิงตามนิสัยของนางแล้ว ดูไม่น่าจะมีความอดทนกับการปลูกดอกไม้ประเภทนี้…
นางเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอีกเล็กน้อย พลันเหลือบไปเห็นเก้าอี้หวายสองตัวตรงริมทะเลสาบ
ฉู่หลิวเยว่อึ้งไปพักหนึ่ง
หนึ่งในสองตัวนั้น น่าจะเป็นที่นั่งของนาง
แล้ว… เก้าอี้อีกตัวล่ะ?
ทว่าก่อนที่นางจะได้คิดหาคำตอบ จู่ๆ ก็มีคลื่นความผันผวนแผ่ซ่านออกมาจากค่ายกลของสวนสมุนไพร
ฉู่หลิวเยว่ชะงัก
คราวนี้นางยังไม่ทันได้สัมผัสค่ายกลเลย แล้วเหตุใดมันถึงตอบสนองเร็วเช่นนี้?
ผ่านไปสักพัก นางก็เริ่มหวาดระแวงขึ้นมา แล้วรีบกวาดสายตามองไปรอบด้าน!
ใครบางคนเปิดค่ายกลแล้วเดินเข้าไป
ดูเหมือนว่าเขาจะมาจากทางหุบเขาวาโยโอสถ
ฉู่หลิวเยว่ถอยหลังทันควันแล้วรีบหาที่ซ่อนตัว
พลันคิดก่นด่ากับตัวเองว่าก่อนออกมา นางน่าจะดูฤกษ์ยามเสียก่อน
ผ่านมาเพียงค่อนคืน แต่นางกลับได้พบเจอคนนู้นคนนี้มาตลอดทาง
นางจ้องมองชายผู้นั้นอย่างตั้งใจ ก่อนจะพบว่ารูปร่างของเขาช่างคุ้นตานัก
และหลังจากเพ่งมองอยู่นาน นางก็ตระหนักได้ว่าเขาคือผู้อาวุโสเมิ้งเย่!
ในยามนี้ ชายชรารูปร่างอ้วนท้วนถือพัดสานไว้ในมือข้างหนึ่ง และเดินเท้าเปล่าเข้าไปมาสวนสมุนไพร
เขาย่ำเท้าเข้าไปด้วยความเคยชิน และหยุดยืนอยู่ข้างสมุนไพรเหล่านั้น พลางพับแขนเสื้อและกางเกงขึ้น
ฉู่หลิวเยว่เดาออกทันทีว่าเขากำลังจะทำอันใด หัวใจดวงน้อยพลันเต้นถี่รัว
ก่อนจะเห็นผู้อาวุโสเมิ้งเย่ลงไปดูแลสมุนไพรด้วยตัวเอง!
ฉู่หลิวเยว่อ้าปากค้างและมองดูภาพนั้นอย่างไม่เชื่อสายตา
ผู้อาวุโสเมิ้งเย่มาที่นี่เพื่อ… ช่วยดูแลสวนสมุนไพรให้นาง?
ผู้อาวุโสเมิ้งเย่เป็นทั้งปรมาจารย์และเซียนหมอ ดังนั้นเขาจึงทำสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายดายและคล่องแคล่ว
และเมื่อดูจากจำนวนของบัวระบำแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาทำแบบนี้…
นางมองดูร่างท้วมของชายชราที่กำลังก้มตัวลง แล้วดึงสมุนไพรที่เหี่ยวเฉาออกมาอย่างระมัดระวัง พลันรู้สึกจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...