สรุปตอน บทที่ 1310 ข้าทำเอง – จากเรื่อง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
ตอน บทที่ 1310 ข้าทำเอง ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดยนักเขียน จ้าน นิชิโนะ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเวลาผ่านไป ทุกอย่างกลับยิ่งเลวร้ายลง
ภายในห้องสี่เหลี่ยม ฉู่หลิวเยว่พยายามปลุกถวนจื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ก็เปล่าประโยชน์
ทว่าผ่านไปนานเข้า ลมปราณรอบตัวถวนจื่อกลับแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ตอนแรกอินทรีสามตาสามารถชักนำพลังปราณเหล่านั้นให้ไหลกลับคืนสู่ร่างกายของถวนจื่อได้ เพื่อให้มันไหลเวียนอยู่ในเลือดเนื้อของถวนจื่อซ้ำ
แต่พอพลังปราณของถวนจื่อเพิ่มพูนความแข็งแกร่งมากขึ้น ก็ทำให้อินทรีสามตาผจญปัญหาใหญ่
แม้ตัวมันจะเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับสูง หากแต่การปลุกพลังแห่งสายเลือดนั้น ไม่ใช่เรื่องที่คนนอกสามารถยื่นมือเข้าไปได้
ฉู่หลิวเยว่งัดกลวิธีต่างๆ มาใช้ปลุกมัน แต่ถวนจื่อก็ยังเฉย
ดวงตาที่ปิดสนิทนั้นไร้วี่แววว่าจะเปิดออก
หึ่ง!
คลื่นพลังสายหนึ่งแผ่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง และกระแทกเข้ากับค่ายกลที่ฉู่หลิวเยว่สร้างไว้ก่อนหน้า จนเกิดเสียงดังอึกทึก
ค่ายกลอันใหญ่เริ่มสั่นไหว
ฉู่หลิวเยว่ถูขมับอย่างอับจนหนทาง
ด้วยความแข็งแกร่งของถวนจื่อที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คาดว่าค่ายกลของนางอาจจะถูกทำลายภายในครึ่งชั่วยาม
“ทำเช่นนี้ต่อไปย่อมมิได้ผล”
ฉู่หลิวเยว่หันมองอินทรีสามตาด้วยความกังวล
“ยังมีวิธีอื่นอีกหรือไม่?”
อินทรีสามตาส่ายหัว
“มีเพียงต้องทำให้มันตื่นเท่านั้น ถึงจะจบปัญหาทั้งหมดได้ ต่อให้ตามอสูรจากเผ่าเดียวกับมันมา ก็ช่วยอันใดไม่ได้”
“หากมันตื่นขึ้นมาด้วยตัวเองเท่านั้นถึงจะสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้สำเร็จ แม้ว่าญาติของมันจะมา มันก็จะไม่ช่วยอะไร แต่ถ้าปล่อยให้พลังเหล่านี้ไหลเข้าสู่ร่างกายโดยไร้การควบคุมล่ะก็ เกรงว่ามัน…”
ไม่ต้องรอให้พูดจบ ฉู่หลิวเยว่ก็รู้ว่ามันหมายถึงอันใด
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน จู่ๆ นางก็ถามว่า
“ให้ข้าช่วยมันได้หรือไม่?”
ดวงตาเรียวคมของอินทรีสามตาฉายแววประหลาดใจ
“กระไรนะ?”
ฉู่หลิวเยว่พูดซ้ำด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ข้าเป็นนายของมัน เราสองต่างมีพันธสัญญาและเชื่องโยงกันทั้งความคิดและจิตใจ แทบจะเรียกได้ว่ามีชะตากรรมเดียวกันก็ได้ แล้วข้า… พอจะช่วยมันได้หรือไม่?”
อินทรีสามตาเงียบไปครู่หนึ่ง
“ด้วยกำลังของเจ้า แน่นอนว่าเจ้าสามารถช่วยคุมพลังให้มันได้ชั่วครู่ แต่พื้นฐานแล้ว มันไม่สามารถ…”
“เช่นนั้นก็ตกลง”
ฉู่หลิวเยว่ตัดสินใจโดยไม่รอให้อินทรีสามตาพูดจบ
ในเวลาแบบนี้ ขอแค่ช่วยมันได้สักนิดก็ยังดี
ยิ่งรีบช่วยมันเร็วเท่าไร ก็จะยิ่งมีหวังมากขึ้นเท่านั้น
ขอเพียงแค่นางสามารถยื้อได้จนกว่าถวนจื่อจะตื่น แค่นี้ก็คุ้มที่จะลองแล้ว
“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะทำเช่นนี้?”
อินทรีสามตาจ้องฉู่หลิวเยว่ตาไม่กะพริบ แววตาของมันเปี่ยมไปด้วยการคัดค้านและการเตือนกลายๆ
“เจ้าควรรู้ว่าการระเบิดพลังแห่งสายเลือดของกษายะหางวายุนั้นรุนแรงเพียงใด และมันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะต้านทานได้!”
การที่ฉู่หลิวเยว่คิดเอาตัวเองเข้าปะทะกับพลังปราณนั้น ช่างไร้หัวคิดสิ้นดี! นางไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเองเลย!
แต่ฉู่หลิวเยว่กลับยกยิ้มมุมปาก
“ถึงตอนนี้ข้าจะเป็นเพียงจอมยุทธ์ระดับแปด แต่ความแข็งแกร่งทางกายภาพของข้านั้น ไม่ได้ด้อยไปกว่าจอมยุทธ์ระดับเก้าเลย อีกอย่าง ถ้ามันถึงจุดที่อันตรายจริงๆ ข้าก็เอาตัวรอดได้อยู่แล้ว เจ้าเองก็รู้มิใช่หรือ?”
“แต่” อินทรีสามตายังพยายามโน้มน้าว
“และที่สำคัญก็คือ ถวนจื่อเป็นทั้งเพื่อนและครอบครัวของข้า ข้าไม่มีทางอยู่เฉยได้ ต่อให้ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด ข้าก็ยอม”
น้ำเสียงของฉู่หลิวเยว่นั้นฟังดูนุ่มละมุน หากแต่ทุกคำที่เอ่ยออกมานั้น ช่างหนักแน่นราวกับหินพันก้อน
ความรู้สึกบางอย่างแวบผ่านเข้ามาในตาของอินทรีสามตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...