เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1315

ยามสุ้มเสียงกัมปนาทดังสนั่นขึ้นพร้อมกันนั้นเอง ขุมพลังมหาศาลที่ไหลเวียนก็ระเบิดพวยพุ่งออกมาจากโพรงถ้ำ!

บริเวณยอดเขาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงประหนึ่งว่าพร้อมจะพังถล่มลงไปได้ทุกเมื่อ

ในใจของผู้อาวุโสทั้งสองต่างบีบรัดเข้าหากันเสียจนแทบหดตัวเป็นก้อน

และด้วยโอกาสนี้เอง พวกเขาก็ได้เห็นว่าเมื่ออสูรศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นได้ยินเสียงการเคลื่อนไหว พวกมันมิเพียงแต่มิหลีกหนี ตรงกันข้ามกลับเร่งความเร็วขึ้นกว่าเก่าแล้วพากันพุ่งตรงไปยังโพรงถ้ำ!

อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่โผมาถึงตนแรกคือหงส์ฟ้า

หงส์ฟ้าจำนวนหนึ่งที่หันมองถวนจื่อนอนแผ่บนพื้น ต่างสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาลหลั่งไหลออกมาจากร่างมัน จึงพากันถอยหลังก้าวหนึ่งโดยมิรู้ตัว

ฉู่หลิวเยว่ตวัดสายตาขึ้นมองพวกมันรอบหนึ่ง

หลังจากนั้นแทบจะทันใด หงส์ฟ้าเหล่านั้นก็พากันโผบินเข้ามาด้านหน้าแบบเรียงเป็นแถว

มีหนึ่งตัวในนั้นที่ฉู่หลิวเยว่พอคุ้นตาอยู่บ้าง นางมองไปยังปีกข้างหนึ่งที่เพิ่งจะงอกขนใหม่ออกมาพลางหรี่ตาลง

“มาถึงเร็วใช้ได้”

ในใจหงส์ฟ้าเหล่านั้นขุ่นเคืองนัก ทว่ากลับมิกล้าพูดออกมา ก่อนจะพากันยืดร่างเล็กจ้อยเหล่านั้นให้ตรงแหน็ว

ฉู่หลิวเยว่เงื้อมือขึ้น

พลังส่วนหนึ่งถูกโอนถ่ายเข้าไปยังร่างกายของพวกมัน

“พวกที่อยู่ด้านหลังน่ะ ออกมาทีละตัว”

ฉู่หลิวเยว่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ

บรรดาสัตว์อสูรที่เพิ่งมาถึงต่างสะดุ้งโหยงพลางมองกันไปมองกันมา รั้งอยู่นานก็ไม่รู้เสียทีว่าใครมาก่อนใครมาทีหลัง

หางคิ้วของฉู่หลิวเยว่เลิกขึ้นเล็กน้อย ด้วยรู้สึกรำคาญอยู่บ้างแล้ว

“เช่นนั้นก็มาตามลำดับที่แลกเปลี่ยนฝีมือกับข้าไปเมื่อก่อนหน้าแล้วกัน”

โอ้ ก็คือถูกตีตามลำดับนี่เอง!

สัตว์อสูรเหล่านั้นต่างเข้าใจขึ้นมาโดยพลัน ก่อนพากันตะลีตะลานไปประจำที่ของตน

ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ ปาดคราบเลือดตรงมุมปากทิ้ง ดวงหน้าปรากฏรอยยิ้มพึงพอใจขึ้นมาอย่างหาดูได้ยาก

ความจริงแล้วในตอนนั้นนางอดกลั้นเอาไว้แทบไม่อยู่แล้ว นางเพียงแค่พึ่งแรงใจเฮือกสุดท้ายจึงยังคงทรงตัวอยู่ได้

นางยกนิ้วขึ้นมา พลังอีกส่วนหนึ่งก็ถูกแบ่งแยกออกไป

ครานี้ แรงกดดันบนร่างของฉู่หลิวเยว่และอาฉยงก็ลดลงไปไม่น้อย

นางปิดตาลง สีหน้าคล้ายยิ้มคล้ายมิยิ้ม น้ำเสียงฟังดูเกียจคร้านปนแหบพร่าอยู่หลายส่วน

“ดีมาก”

“ฟังคำข้าเหมือนอย่างก่อนหน้าแบบนั้นแหละ”

อสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดล้วนตามกันเข้าไปในโพรงถ้ำแบบติดๆ

บริเวณโดยรอบจึงดูเงียบสงบขึ้นมามากทีเดียว

นอกจากกระแสพลังที่ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ที่แผ่ออกมานานๆ ครั้งแล้ว ทุกอย่างล้วนเหมือนสภาพก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพี้ยน

ผู้อาวุโสทั้งสองท่านต่างนิ่งงันพลางลอยอยู่กลางอากาศ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นต่อหน้าทำเอาสิ้นสติกันไปทั้งแถบ

“นี่… อสูรศักดิ์สิทธิ์พวกนั้น… เข้าไปกันดื้อๆ แบบนี้เลยหรือ?”

ผู้อาวุโสฮวาเฟิงกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

“แล้วต่อแถวเข้าไปกันด้วยนะ!?”

โลกนี้มันเกิดอันใดขึ้นกันแน่?

“อวี๋อวี้ เจ้าเองก็พูดอันใดหน่อยซิ!”

“เจ้าอยากให้ข้าพูดอันใดเล่า?”

“เจ้าน่ะ ดีร้ายอย่างใดก็เฝ้าดูสวนอสูรมาได้นานขนาดนี้ ย่อมต้องรู้มากกว่าข้าอยู่แล้วกระมัง? นี่ นี่มันเป็นเรื่องแบบใดกัน?”

ในใจของผู้อาวุโสฮวาเฟิงทั้งตกตะลึงทั้งกังวลใจ

ผู้อาวุโสอวี๋อวี้ส่งสายตามองเขา ก่อนจะตอบไปอย่างแผ่วเบาว่า

“เจ้าว่าหน้าข้าดูเหมือนคนที่รู้หรืออย่างใด?”

“…”

“แต่ว่าฉู่เยว่ยังอยู่ข้างในนั้นนะ!”

“แทนที่จะไปห่วงเขา มิสู้ห่วงสัตว์อสูรในสวนอสูรเหล่านี้ไม่ดีกว่าหรือ”

ผู้อาวุโสอวี๋อวี้สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ

บนยอดเขาจึงปรากฏรอยแตกขึ้นมามากแล้ว

เขาทั้งลูกต่างก็สั่นไหวอย่างรุนแรง

ก้อนหินภูเขาบางส่วนเริ่มเกลือกกลิ้งตกลงไป

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ประหนึ่งกำลังป่าวประกาศต่อโลกหล้าว่า จะมีความเปลี่ยนแปลงอันน่าตื่นตะลึงเกิดขึ้นในเร็ววัน

ด้วยความช่วยเหลือจากอสูรศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ ฉู่หลิวเยว่จึงผ่อนคลายลงไปได้มาก

กระทั่งที่ว่านางเริ่มรู้สึกชินชากับความเจ็บปวดจากการฉีกกระชากเช่นนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว

พลังปราณดั้งเดิมภายในร่างเองก็ถูกใช้ไปจนแทบไม่เหลือ

ฉู่หลิวเยว่ด้านหนึ่งก็พยายามทุกวิถีทางเพื่อช่วยโคจรพลังให้ถวนจื่อ อีกด้านหนึ่งก็คอยฟื้นฟูอาการบาดเจ็บภายในของตนอย่างสุดความสามารถ

ทันใดนั้นเอง

ปีกของถวนจื่อก็ขยับ

ใจของฉู่หลิวเยว่พลันกระตุกอย่างแรง

ในตอนนั้นเอง ไข่มุกธาราที่ฝังอยู่ในตำแหน่งตันเถียนของนางราวกับว่าได้รับการกระตุ้นจากพลังบางอย่าง ก่อนจะเริ่มโคจรอย่างเชื่องช้า!

กระแสพลังที่ถาโถมวุ่นวายทยอยแผ่กระจายออกมาติดต่อกัน!

แทบจะในเวลาเดียวกันนั้น บนร่างของถวนจื่อพลันระเบิดปะทุเอาเปลวเพลิงสีชาดออกมา!

พรึบ!

เปลวเพลิงที่พวยพุ่งจัดการห่อหุ้มทั่วทั้งร่างของมันเอาไว้!

กระแสพลังเหล่านั้นที่คอยโคจรอยู่รอบตัวของมันพากันรวมตัวแทรกซึมเข้าไปภายในร่างอย่างรวดเร็ว!

นัยน์ตาของฉู่หลิวเยว่สว่างวาบ ถวนจื่อใกล้ฟื้นแล้ว!

ทว่าในตอนนั้นเอง อสูรศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ข้างกันนั้นพลันรับรู้ได้ถึงตัวตนอันน่าหวาดผวาบางอย่างก็มิปาน ต่างพากันถอยหลังตามๆ กันไป

สายตาที่พวกมันเบนมองไปยังถวนจื่อเองก็แฝงไว้ซึ่งความเกรงกลัวและความนบนอบอย่างปิดไม่มิดอีกด้วย!

ฉู่หลิวเยว่ประหนึ่งสัมผัสได้ถึงอันใดบางอย่าง ก่อนจะตวัดสายตามองไปยังถวนจื่อ

จากนั้นกลุ่มเปลวเพลิงสีทองอร่ามก็ระเบิดพวยพุ่งขึ้นมาในทันใด!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์