สรุปเนื้อหา บทที่ 1452 ลืม – ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
บท บทที่ 1452 ลืม ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
คำตอบของฉู่หลิวเยว่ทำเอาผู้คนรอบด้านตกตะลึง
ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ล้วนตกตะลึงพรึงเพริดกันพักใหญ่ และเกือบคิดว่าพวกเขาหูฝาดไป
ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนั้น แค่คิดก็รู้แล้วว่ามันจักวุ่นวายเพียงใด!
แล้วเขาจะพาคนไปด้วยเหตุใด?
มู่หงอวี่มีความสุขมาก พลันพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ไม่ว่าอย่างใด นางก็ต้องไปดูให้แน่ใจว่า ฉู่เยว่มิได้ถูกใครรังแก!
เมื่อเห็นท่าทางหนักแน่นของฉู่หลิวเยว่ ผู้อาวุโสเหวินซีก็ทำได้เพียงครุ่นคิด หากมิได้คัดค้านแต่อย่างใด
ก็แค่ลูกศิษย์อีกคน คงไม่มีผลกระทบอันใดหรอก
“จะไปด้วยก็ย่อมได้ แต่หงอวี่ เจ้าห้ามพูดจาไร้สาระเมื่ออยู่ที่นั่นเป็นอันขาด เข้าใจหรือไม่?”
มู่หงอวี่ทำท่ารูดปากปิดสนิท แล้วผงกหัวหงึกหงัก
“เช่นนั้นก็ไปกัน!”
ทว่าทันทีที่สิ้นเสียงของผู้อาวุโสเหวินซี ก็พลันมีเสียงท้วงของหลัวซือซือดังมาจากด้านหลัง
“ผู้อาวุโสเจ้าคะ ข้าขอไปด้วย!”
“ซือซือหรือ?”
หลัวเยี่ยนหมิงและจัวเซิงหันขวับไปมองนางด้วยความประหลาดใจ
ก่อนหน้านี้พี่สี่อธิบายไปแล้วตระกูลหลัวไม่ได้รวมอยู่ในการประชุมครานี้ และขอให้พวกเขาพยายามไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ขณะอยู่ในสำนักวิชา
แต่ตอนนี้หลัวซือซือเองก็อยากตามไปหรือ?
คงไม่ใช่ว่านางกำลังพาลหรอกนะ!?
แต่หลัวซือซือยังคงยืนกรานอย่างหนักแน่น
นางหันไปมองผู้อาวุโสเหวินซีด้วยสายตาอ้อนวอน
“ผู้อาวุโสเจ้าคะ ข้าสัญญาว่าพอไปถึงที่นั่นแล้ว ข้าจะเชื่อฟังท่านทุกอย่าง จะไม่พูดจาไร้สาระสักคำเจ้าค่ะ”
ผู้อาวุโสเหวินซีปวดหัวยิ่งนัก
เหตุใดสองคนนี้ถึงอยากไปหนักหนา!?
ถ้ายังแย่งกันไปแบบนี้ มีหวังได้สายจริงๆ แน่!
หัวใจของเขาเต้นรัวราวความดันจะขึ้น
“ไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ!”
…
ในเมืองฝางโจว บรรยากาศบนจัตุรัสอันกว้างใหญ่เงียบสงบ
เหล่าอาคันตุกะนั่งล้อมรอบเป็นวงกลม
คราแรกทุกคนต่างแลกเปลี่ยนบทสนทนากันอย่างออกอรรถรส แต่เมื่อเวลาผ่านไป บรรยากาศรอบด้านก็ค่อยๆ เย็นลงกระทั่งนิ่งสนิท
บางคนมองทางทิศของสำนักหลิงเซียวเป็นบางครั้ง
และมีบางกลุ่มแสดงสีหน้าหงุดหงิดออกมาอย่างเปิดเผย
หากไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนและคนอื่นๆ ยังอยู่ที่นี่ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ พวกเขาก็คงหมดความอดทนไปตั้งนานแล้ว
“ดูไม่ออกเลยว่าไอ้หนูเยว่นี่ จักลำพองตนถึงเพียงนี้”
สุ้มเสียงระดับปานกลางดังขึ้นจากฝูงชน พร้อมกับถ้อยคำประชดประชัน
“แค่ได้เป็น… คนที่ได้โอกาสนั้น ในบุพกาลชายแดนเหนือ คิดว่าตัวเองวิเศษมากหรือไร”
ใครบางคนหัวเราะเยาะ หากแต่เป็นเสียงหัวเราะที่เสนียดหูยิ่งนัก
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนทำหูหนวกชั่วขณะ
ก็แค่คำพูดไร้แก่นสารสองสามคำ? จะไปสนใจให้เสียเวลาเหตุใด
ตราบใดที่คนเหล่านี้ไม่ได้อาละวาดขึ้นมาจริงๆ เช่นนั้นก็ยังพอคุยกันได้
“ได้ยินมาว่าตอนนี้ ฉู่เยว่เป็นเพียงจอมยุทธ์ระดับเก้าเท่านั้น แต่กลับทำตัวโอหังเพียงนี้เสียแล้ว หากในอนาคตเขาทะลวงขึ้นสู่อาณาเขตเซียนเทพได้ เช่นนั้นจะไม่หยิ่งผยองมากกว่านี้อีกหรือ? เมื่อถึงตอนนั้น เกรงว่าพวกเราทุกคน คงไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าเขาแล้วกระมัง! เหอะ!”
สีหน้าของคนบางกลุ่มเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงจนดูไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...