สรุปตอน บทที่ 1473 อย่ามาแหยม! – จากเรื่อง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
ตอน บทที่ 1473 อย่ามาแหยม! ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดยนักเขียน จ้าน นิชิโนะ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
นี่นางยอมรับความจริงต่อหน้าทุกคนแล้วใช่หรือไม่!
เมื่อเจียงเห่อเทียนเห็นภาพนี้ ก็พลันตื่นเต้นดีใจยิ่งนัก
ยอมรับแล้ว!
ว่าแล้วว่านางต้องยอมรับ!
“ซั่งกวนเยว่! ในเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้าจะยังแก้…”
แต่ก่อนที่เจียงเห่อเทียนจะพูดจบ จื่อเฉินก็เปิดตาที่สามของมันเสียก่อน!
ดวงตานั้นมีสีม่วงทอง ทั้งยังทอประกายระยิบระยับ แลดูสูงส่งและองค์อาจ!
มันหันไปมองอินทรีสามตาที่ถูกแท่งเหล็กรัดตัวไว้อย่างแน่นหนา
พลันปล่อยแรงกดดันอันน่าสยดสยองออกมา!
ทันใดนั้น คราบเลือดที่เปรอะเปื้อนอยู่บนร่างของอินทรีสามตาตัวนั้น ก็ลุกไหม้อย่างบ้าคลั่ง!
เปลวไฟสีม่วงทองแผ่ขยายและปกคลุมไปทั่วร่างของมันอย่างว่องไว!
แท่งเหล็กเหล่านั้นแตกออกทีละชุ่น!
รอยเลือดและบาดแผลบนกายของอินทรีสามตาฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ภายใต้ความร้อนของเปลวไฟ!
ลมปราณที่เฉื่อยชาและอ่อนแอของมัน เริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว!
“นั่นมัน…หัวหน้าเผ่า!”
ผู้นำของตระกูลเฟยซิงเหมินอย่างชือเฟิงตกใจมาก พลันลุกขึ้นยืนทันที!
เขามองภาพตรงหน้าอย่างไม่เชื่อสายตา แล้วขยี้ตาไปมาอย่างรุนแรง
ผู้ที่สามารถใช้พลังปราณและแรงกดดันของตน เพื่อรักษาบาดแผลของเผ่าตัวเองได้นั้น…นอกจากหัวหน้าเผ่าในตำนานแล้ว จะเป็นใครได้อีก!
เขาเคยเห็นตำนานนี้ผ่านๆ จากตำราโบราณบางเล่มเท่านั้น แต่ไม่เคยเห็นกับตาตัวเองเช่นนี้
ย้อนกลับไปตอนนั้น เขาบังเอิญจับอินทรีสามตาตัวหนึ่งที่ถูกทิ้งรั้งท้ายได้ และมีความสุขกับผลงานของตนอยู่นาน จากนั้นเขาจึงกลับบ้านไปศึกษาเรื่องของมันอีกพักใหญ่
พลังแห่งสายเลือดอันสูงส่งที่ไหลเวียนอยู่ในตัวของหัวหน้าเผ่านั้น เป็นรากฐานของการกำเนิดเผ่าอินทรีสามตา!
เพียงลั่นวาจา อินทรีสามตานับพันตัวจักตามเข่นฆ่าคนผู้นั้นไปจนตาย!
ทว่าหลายพันปีมานี้ กลับไม่มีแม้แต่เงาของอินทรีสามตาปรากฏขึ้นในอาณาจักรเสิ่นซวี่เลยสักตัว นับประสาอะไรกับตำนานของหัวหน้าเผ่าผู้ยิ่งใหญ่กันล่ะ!
“อะ…อันใดนะ?”
เมื่อได้ยินชือเฟิงกล่าวเช่นนี้ ผู้คนทั้งหมดในจัตุรัสต่างก็ล้วนแตกตื่นกันยกใหญ่
ฉู่เยว่ผู้นี้ ไม่สิ…ซั่งกวนเยว่!
นางทำสัญญากับอินทรีสามตาตัวหนึ่งยังไม่พอ แต่ยังได้ตัวที่เป็นหัวหน้าเผ่ามาด้วย!
แค่นั้นก็เทียบยศถาบรรดาศักดิ์กับพวกเขาได้แล้ว แสดงตอนนี้ว่ามันกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ในพันธสัญญาของซั่งกวนเยว่แล้วใช่หรือไม่?
“ซั่งกวนเยว่ผู้นี้ เป็นใครมาจากไหนกันแน่! ไม่เพียงแต่มีหงส์ทองคำในครอบครอง แต่ยังมีหัวหน้าเผ่าอินทรีสามตาอีกหนึ่งตัวด้วย…”
ท่ามกลางความ มีคนกระซิบคุยกันด้วยความสับสน
อสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงสองตัวที่แม้แต่คนธรรมดายังไม่เคยเห็น แต่นางกลับครอบครองมันได้อย่างง่ายดาย!
“เป็นไปได้อย่างไร!”
บางคนเริ่มได้สติ แต่ก็ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดี
“หงส์ทองคำคืออสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาล หัวหน้าเผ่าอินทรีสามตาเองก็มีสถานะสูงส่งเช่นกัน หากพูดถึงกิตติศักย์และความองค์อาจ ต่างก็กินกันไม่ลงทั้งคู่! ตามหลักแล้ว อสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองตนนี้มีนิสัยหยิ่งผยอง และยากที่มันจะยอมทำสัญญากับเผ่าพันธุ์มนุษย์ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการรับใช้เจ้านายคนเดียวกันเลย!”
เพ้อเจ้อ!
ไร้สาระ!
ถึงพูดออกไปก็ไม่มีใครเชื่อ!
ชือรุ่ยเออร์ยกมือขึ้นปากแดงๆ ของนาง ดวงตางามกระจ่างคู่นั้น เต็มไปด้วยความตกใจ
ไม่แปลกเลย…
ไม่แปลกใจเลยจริงๆ!
ตอนที่อยู่ในบุพกาลชายแดนเหนือ อินทรีสามตาเหล่านั้นปิดล้อมนางไว้
แต่พอฉู่เยว่ปรากฏกาย เรื่องทุกอย่างก็คลี่คลายลงอย่างราบรื่น
พวกเขาทุกคนคิดว่าถ้าฉู่เยว่เข้าไปในค่ายกลของอินทรีสามตา จะต้องเผชิญกับอันตรายเป็นแน่
แต่หลังจากนั้น ฉู่เยว่กลับเดินออกมาด้วยสภาพสมบูรณ์ไร้รอยขีดข่วน!
ในตอนนั้น นางมั่นใจว่าต้องเป็นเพราะอินทรีสามตาของนางแน่นอน แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะเงื่อนงำมากมายถึงเพียงนี้
พอมาคิดดูอีกทีตอนนี้ ผู้ที่สามารถทำให้อินทรีสามตาหลายตัวยอมประนีประนอมได้นั้น นอกจากหัวหน้าเผ่าแล้ว จะเป็นใครได้อีก?
…
“เจ้าเด็กนั่นทำสัญญากับหัวหน้าเผ่าอินทรีสามตาจริงๆ หรือ?”
ดวงตาของผู้อาวุโสฮวาเฟิงกระตุกถี่ยิบ
เดิมทีเขานึกว่าฉู่เยว่ขอให้หงส์ทองคำตัวนั้นช่วยแก้ไขปัญหาให้ ทว่าพอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ ก็รู้ทันทีว่าตัวเองเข้าไปผิดไปมากโข
ในเมื่อมีไพ่เด็ดอยู่ในมือหลายใบ ย่อมเลือกใบไหนก็มาใช้งานก็ได้มิใช่หรือ!
ตอนนั้นเขาไม่น่าเป็นกังวลมากเกินไปเลย!
“เขาเป็นผู้หญิง”
ผุ้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางเอ่ยเตือนช้าๆ
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงสำลัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...