ตอน บทที่ 1491 ใครว่านางไม่มีเบื้องหลัง จาก ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 1491 ใครว่านางไม่มีเบื้องหลัง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ที่เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ทุกคนที่อยู่รอบข้างเงียบไปในทันที
คำพูดประโยคนี้แฝงไปด้วยข้อมูลเป็นจำนวนมาก คนธรรมดายังไม่สามารถตอบสนองได้ในทันที
แม้กระทั่งฉู่หลิวเยว่ก็ยังตกใจ นางเบิกตากว้างมองไปทางองค์ปฐมกษัตริย์
เมื่อฟังจากคำพูดขององค์ปฐมกษัตริย์ ก่อนหน้านี้… เขาเคยมีการติดต่อกับคนของสำนักปีกสุวรรณมาก่อน?
อีกทั้งอีกฝ่ายยังให้ความเคารพเขาเป็นอย่างมาก?
นี่มัน…
เรื่องจริงหรือไม่?
สามารถทำให้บรรพบุรุษสำนักปีกสุวรรณหวาดกลัวได้ถึงขนาดนั้น ในตอนนั้นองค์ปฐมกษัตริย์แข็งแกร่งขนาดไหนกันแน่?
เดินทีนางมีความรู้สึกกังวลใจอยู่เล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงเทือกเขาเก้าวิถีภายในบุพกาลชายแดนเหนือ และกระดูกมังกรหลายชิ้น นางก็คิดว่าเรื่องเหล่านี้ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านั้นหวาดกลัวคำพูดขององค์ปฐมกษัตริย์เป็นอย่างมาก
เดิมทีชายคนที่พูดนั้นยังคงมีความมั่นใจอยู่ แต่เมื่อเห็นท่าทางขององค์ปฐมกษัตริย์แล้ว หัวใจของเขาก็รู้สึกสั่นสะท้านขึ้นมาทันที
“เจ้า… ท่านเป็นใครกันแน่?”
ภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่ ไม่มีคนเช่นนี้ไม่ใช่หรือ?
ต่อให้นึกย้อนกลับไป ก็เหมือนว่าจะไม่มีนี่นา!
ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายนั้นเป็นของจริง
แต่ถ้าไม่มีสถานะและเบื้องหลัง เขาคงไม่กล้าพูดต่อหน้าคนจำนวนมากเช่นนี้
องค์ปฐมกษัตริย์เอามือไพล่หลัง แล้วพูดขึ้นเสียงเรียบว่า
“ชื่อที่แท้จริงของข้าคือ… ซั่งกวนจิ้ง! แต่ว่าข้ายังมีชื่ออีกชื่อหนึ่ง บางทีพวกเจ้าอาจจะคุ้นหู… มู่เทียนจิ้ง”
“มู่เทียนจิ้ง… ชื่อนี้เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน…”
ใครสักคนที่อยู่ภายในกลุ่มพูดพึมพำขึ้นมาเสียงเบา
“เหมือนว่าข้าคยได้ยินชื่อนี้จากที่ไหนกัน… แต่จู่ๆ มันก็นึกไม่ออก!”
“มู่เทียนจิ้ง…มู่เทียนจิ้ง…”
คนจำนวนไม่น้อยขมวดคิ้วแล้วครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้
ฉู่หลิวเยว่หันศีรษะไปมองทางหรงซิว
ชื่อนี้ขององค์ปฐมกษัตริย์ นางไม่เคยได้ยินมาก่อน และไม่รู้ว่าหรงซิวรู้อันใดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่
เหมือนว่าเขาจะสามารถอ่านใจนางออก หรงซิวยิ้มออกมาแล้วพยักหน้าเบาๆ
ฉู่หลิวเยว่เบิกตากว้างเล็กน้อย แล้วยิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้นกว่าเดิม
ที่จริงแล้วองค์ปฐมกษัตริย์…
“มู่เทียนจิ้ง…ท่านมู่?”
เหยาปินพูดพึมพำ ทันใดนั้นภายในสมองของเขาก็มีแสงสีขาวสว่างวาบ เขาหันไปมองทางองค์ปฐมกษัตริย์ด้วยความประหลาดใจ
“ท่านคือท่านมู่หรือ? ท่านยัง…มีชีวิตอยู่หรือ?”
คำพูดประโยคนี้ เขาถามด้วยความระมัดระวังและรอบคอบเป็นพิเศษ
คนจำนวนไม่น้อยหันมามองด้วยความประหลาดใจ
ท่านมู่? หมายความว่าอย่างใดกัน?
“ช้าก่อน! เมื่อพันปีก่อนมีตำนานเล่าว่า อาณาจักรเสิ่นซวี่มีปรมาจารย์ด้านการหลอมอาวุธปรากฏขึ้นมาหนึ่งคน คนนั้นแข็งแกร่งไร้เทียมทาน เขาท้าทายปรมาจารย์ด้านการหลอมอาวุธเจ็ดคนต่อเนื่องกัน และไม่เคยพ่ายแพ้เลยสักครั้ง! หรือว่า…”
ชือรุ่ยเออร์เหมือนคิดอันใดได้ขึ้นมาอย่างกะทันหัน นางเบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกตะลึง และมองมาทางองค์ปฐมกษัตริย์อย่างไม่อยากจะเชื่อ
หลังจากที่เงียบไปสักพักหนึ่ง คนที่อยู่ในจัตุรัสก็ส่งเสียงดังฮือฮาขึ้นมา
ที่แท้ก็คือคนผู้นี้เอง!
ที่แท้ก็คือเขา?
ความจริงแล้วเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคนผู้นี้ พวกเขาล้วนเคยได้ยินมาบ้างไม่มากก็น้อย
เพราะว่าประวัติของคนผู้นี้คือตำนาน!
ในปีนั้น เขาเป็นคนที่ไม่มีเบื้องลึกเบื้องหลัง บุกเข้ามายังอาณาจักรเสิ่นซวี่เพียงคนเดียว
ท่าทางกำเริบเสิบสานและหยิ่งผยองเป็นอย่างยิ่ง!
แต่ทว่าคนผู้นี้ก็มีฝีมือจริงๆ
ภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่ปรมาจารย์ด้านการหลอมอาวุธเป็นสิ่งที่หาได้ยากและล้ำค่าอย่างมาก
แต่เขากลับแวะเวียนไปหาคนเหล่านั้น
ถ้าพูดให้น่าฟังเสียหน่อย ก็ต้องบอกว่า “แลกเปลี่ยนวิชา” ถ้าพูดให้ไม่น่าฟัง มันก็คือ การไปสังหาร
ได้ยินว่าปรมาจารย์ด้านการหลอมอาวุธทั้งเจ็ดนั้น ได้รับการกระตุ้นจากเขา และพ่ายแพ้ไปอย่างต่อเนื่อง
บางคนต้องปิดด่านฝึกร้อยปี ฝึกฝนอย่างบ้าคลั่ง
มีบางคนเลื่อมใสศรัทธาในตัวเขาเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งตระกูลก็ไม่ต้องการแล้ว ขอติดตามเขาไปในทันที
และอย่างสุดท้ายนั้นอนาถเป็นที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...