สรุปตอน บทที่ 1493 เกรงใจกันเกินไปแล้ว – จากเรื่อง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
ตอน บทที่ 1493 เกรงใจกันเกินไปแล้ว ของนิยายการเกิดใหม่เรื่องดัง ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดยนักเขียน จ้าน นิชิโนะ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
ทุกคนตกตะลึงเป็นอย่างมาก
เดิมทีเขาคิดว่าเรื่องนี้จะจบลงแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นเช่นนี้!
พวกเขาไม่ซักถามอีกต่อไปแล้ว นับว่ายอมถอยหนึ่งก้าว เลือกที่จะประนีประนอม
แต่ซั่งกวนจิ้งยังไม่ยินยอมที่จะปล่อยเรื่องนี้ไปอย่างนั้นหรือ?
พวกเขาร่วมมือกันเพื่อที่จะจัดการซั่งกวนเยว่ ความจริงแล้วก็เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมเล็กน้อย แต่นั่นเป็นเพราะต้องการให้นางอธิบายเรื่องนี้อย่างชัดเจน แต่ไม่มีใครตั้งใจจะลงดาบเด็กคนนี้จริงๆ
แล้วอีกอย่างคนในสถานที่นี้ ล้วนที่สถานะไม่ต่ำต้อย
หากพวกเขาต้องต่อแถวกันเพื่อขอโทษแม่นางน้อยคนหนึ่ง มันจะเป็นเรื่องบ้าอันใดกันแน่?
แม้ว่าตอนนี้ “แม่นางน้อย” ผู้นี้จะเป็นพระชายาของพระราชวังเมฆาสวรรค์ อีกทั้งยังเป็นทายาทของซั่งกวนจิ้งที่เขาให้ความรักมากที่สุด ใช้เวลาเพียงครู่เดียวก็สามารถทำเสร็จแล้ว แต่มันจะทำเช่นนั้นได้อย่างใด!
ซั่งกวนจิ้งคาดเอาไว้ตั้งนานแล้วว่าพวกเขาจะไม่ยอมรับ
“โอ้ว เมื่อครู่นี้พวกเจ้าเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรือ ว่าหากสืบเรื่องนี้ให้ชัดเจนแล้ว พวกเจ้าจะเป็นคนขอโทษนังหนูเยว่เออร์ด้วยตนเองน่ะ แต่มาในตอนนี้…เจ้ากลับรู้สึกเสียใจแล้วหรือ?”
ทุกคนต่างมองหน้ากัน
นี่เป็นเพียงคำพูดทั่วไปหนึ่งประโยคเท่านั้น จะคิดจริงจังได้อย่างใด?
เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ซั่งกวนจิ้งไม่เข้าใจ แต่เขาตั้งใจทำเช่นนี้ เพื่อช่วยรักษาหน้าให้กับนาง!
แต่เรื่องเช่นนี้ พวกเขาไม่สามารถทำได้จริงๆ
…หากเรื่องนี้ถูกป่าวประกาศออกไป มันจะเป็นอย่างใด? ศักดิ์ศรีของเขาคงไม่ต้องเอาไว้แล้วละมั้ง!
ความเงียบกลืนกินอยู่ครู่หนึ่ง เหยาปินสาวเท้าขึ้นไปด้านหน้าหนึ่งก้าว แล้วพูดขึ้นมาว่า
“ท่านมู่…ผู้อาวุโสซั่งกวน เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้พวกเรานั้นทำไม่ถูกต้องจริงๆ อีกทั้งที่พวกเราเพิ่งทำไปเมื่อครู่นี้ ส่วนหนึ่งนั้นมันก็เกี่ยวข้องกับข้า ถ้าเช่นนั้นข้าขอเป็นตัวแทนของทุกคน กล่าวขอโทษกับคุณหนูซั่ง…”
อาจจะเป็นเพราะคำเตือนเมื่อครู่นี้ของหรงซิว ทำให้คำว่า “คุณหนูซั่งกวน” ต้องพูดไม่จบประโยค
เขาเพิ่งพูดคำนั้นออกไป แต่แผ่นหลังของเหยาปินก็มีเหงื่อเย็นๆ ผุดขึ้นมา
สายลมบางเบาเข้าปะทะหน้า ทำให้รู้สึกหนาวสั่น
นี่มัน…
ด้านหนึ่งคือพระราชวังเมฆาสวรรค์ ส่วนอีกด้านหนึ่งคือซั่งกวนจิ้ง ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ไม่สามารถล่วงเกินได้ทั้งนั้น!
ซั่งกวนจิ้งเหลือบสายตามองเขาอย่างราบเรียบ
“เจ้า…”
เขาไม่ทันได้พูดคัดค้านอันใด ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็ดึงแขนเสื้อของเขาเบาๆ
“องค์ไท่จู่”
เมื่อได้ยินดังนั้น องค์ปฐมกษัตริย์ก็รีบหันกลับไปมองในทันที เดิมทีเขามีสีหน้าเคร่งครึ้มและเย็นชา แต่เพียงชั่วพริบตาเดียวใบหน้าของเขาก็ประดับด้วยรอยยิ้ม
“ว่าอย่างใดหรือเยว่เออร์?”
ทุกคนเห็นว่าเขาเปลี่ยนสีหน้าไปอย่างรวดเร็ว มุมปากของพวกเขาก็กระตุกขึ้น
สามารถพูดได้เลยว่าสองมาตรฐาน แต่เช่นนี้มันก็เกินไปหน่อยแล้ว!
เพียงแค่ช่วงเวลาที่หันหน้ากลับไป สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนทันที!
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ
“องค์ไท่จู่ ข้าคิดว่าที่ท่านชายเหยาเสนอมาดีมาก”
ทันใดนั้นเหยาปินรู้สึกว่าเหมือนได้รับการนิรโทษกรรม นางหันไปมองทางฉู่หลิวเยว่อย่างซาบซึ้ง
นางไม่ได้ทำเพื่อตัวเองทั้งหมด ประเด็นสำคัญคือนางไม่อยากให้สถานการณ์ภายในวันนี้ตึงเครียดมากเกินไป
ถ้าเรื่องในวันนี้ไม่สามารถยุติได้ แน่นอนว่าในอนาคตก็ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้
หากซั่งกวนเยว่ยินยอมที่จะออกหน้าไกล่เกลี่ยก็จะมีทางลงให้กับทั้งสองฝ่าย และสามารถช่วยทุกคนลดปัญหาไปได้ไม่น้อย
องค์ปฐมกษัตริย์หรี่สายตามองนาง
“เยว่เออร์ เจ้าเห็นด้วยเช่นนั้นจริงๆ หรือ?”
ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม
“เจ้าค่ะ ความจริงแล้วสิ่งที่ท่านชายเหยาพูดก่อนหน้านี้ก็ไม่เลวเลย ที่ทุกคนมาที่นี่ในวันนี้ ความจริงแล้วก็เพื่อจะสืบเรื่องเหล่านี้ให้ชัดแจ้ง แต่สำหรับตัวข้าแล้ว…บางทีก่อนหน้านี้อาจจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าใจข้าผิด ซึ่งข้าสามารถใช้โอกาสนี้อธิบายเรื่องราวให้ทุกคนได้เข้าใจ…ถือว่าไม่เลวเลย”
แววตาขององค์ปฐมกษัตริย์เต็มไปด้วยความรักใคร่
“แต่ว่า ครั้งนี้เจ้าได้รับความอัปยศอดสูมากเกินไป…”
ไม่ช่วยนางระบายความโกรธ ภายในใจของเขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้เยว่เออร์ก็ได้รับความลำบากมาไม่น้อย กว่าจะมาถึงเทียนลิ่งก็ไม่ง่าย ดังนั้นเขาจึงจะคืนทุกสิ่งทุกอย่างให้กับนาง
เพียงชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงอาณาจักรเสิ่นซวี่ และคาดไม่ถึงว่านางจะถูกคนจำนวนมากมายรังแกกลั่นแกล้งเช่นนี้
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น คงไม่สามารถอดทนได้ตั้งนานแล้ว
ภายในใจของฉู่หลิวเยว่รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา ดวงตาของนางแดงขึ้นเล็กน้อย แต่รอยยิ้มยังคงสว่างสดใส
“ข้าก็ยังมีท่านอยู่ไม่ใช่หรือ?”
ยังมีหรงซิว ยังมีสำนัก
ความจริงแล้วคนเหล่านี้ยืนอยู่เคียงข้างนางและคอยช่วยเหลือนางอยู่ตลอดเวลา!
“องค์ไท่จู่ แค่ท่านสามารถกลับมาได้ เยว่เออร์ก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากแล้ว เรื่องอื่นนั้นไม่นับเป็นความอัปยศอดสู”
แทนที่นางจะมาเสียเวลาคิดเล็กคิดน้อยกับคนเหล่านี้ สู้เอาเวลาไปคุยกับองค์ปฐมกษัตริย์เรื่องตระกูลจะดีกว่า
ไม่ช่วยนางระบายความโกรธ ภายในใจของเขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...