สรุปเนื้อหา บทที่ 1505 ข้าใช้แล้ว มันจะเหตุใด – ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ โดย จ้าน นิชิโนะ
บท บทที่ 1505 ข้าใช้แล้ว มันจะเหตุใด ของ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ในหมวดนิยายการเกิดใหม่ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
เขาไม่ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่ามันเกิดเรื่องอันใดขึ้น แต่ฉู่หลิวเยว่สามารถเข้าใจได้ในทันที
มีเหตุใดบ้างที่ทำให้เผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลงตามล่าอย่างสุดหล้าฟ้าเขียว ถ้าไม่ใช่เรื่องโครงกระดูกนั้น?
ฉู่หลิวเยว่เม้มริมฝีปากแน่น
แต่โหมวเหยาเหมือนว่าจะไม่ได้สนใจคำตอบของนางเลย
การตอบสนองของเกล็ดแผ่นนั้นได้บ่งบอกทุกอย่างหมดแล้ว!
เขากวาดสายตาสำรวจฉู่หลิวเยว่ขึ้นลง จากนั้นก็หันไปมองซั่งกวนจิ้งที่ยืนอยู่ไม่ไกล แววตาเต็มไปด้วยความประชดประชัน
“ที่แท้พวกเจ้าก็เป็นสายเลือดเดียวกัน…ซั่งกวนจิ้ง เจ้าใจกว้างกับทายาทของตัวเองมากเลยนะ! คาดไม่ถึงว่าของประเภทนี้ก็ยังจะมอบให้นางด้วย!”
หากครุ่นคิดให้ละเอียดแล้วนี่ก็เป็นเรื่องปกติ
หากเรื่องกระดูกของไท่ซวีเฟิ่งหลงแพร่กระจายออกไป ไม่รู้ว่าจะดึงดูดความวุ่นวายมามากน้อยเท่าใด
มีเพียงคนของตนเองเท่านั้นที่ไว้ใจได้มากที่สุด
โชคดีที่ตอนนั้นเขายังไม่เชื่อคำหลอกลวงของซั่งกวนจิ้ง!
…ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่มีความคิดที่จะคืนโครงกระดูกเหล่านั้นเลย!
ซั่งกวนจิ้งสีหน้าเย็นชา จากนั้นเขาก็พุ่งตัวมาหยุดยืนที่ด้านข้างของฉู่หลิวเยว่ และยืนขวางนางเอาไว้
“โหมวเหยา มีอันใดก็มาทำข้า อย่าลากคนอื่นเข้ามายุ่งด้วย!”
“คนอื่น? นางเป็นทายาทของเจ้านับว่าเป็นคนอื่นได้อย่างใด? ยิ่งไปกว่านั้น…ของสิ่งนั้นก็ยังอยู่ที่นาง!”
โหมวเหยายกมือขึ้นแล้วชี้ไปทางฉู่หลิวเยว่
เกล็ดบนหลังมือของเขาส่องประกาย สว่างแวววับ ทั้งเฉียบคม และเย็นยะเยือก
“หึ มิน่าล่ะเจ้าถึงใจกล้าเช่นนี้ ที่แท้เจ้าก็มีหงส์ทองคำคอยช่วยเหลือ…”
ทันทีที่เขาเห็นถวนจื่อ ในแววตาของโหมวเหยาก็มีประกายรังเกียจปรากฏขึ้น
“ในฐานะสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาล คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะมาทำพันธสัญญากับมนุษย์ชั้นต่ำ ช่างดึงตัวเองให้ตกต่ำเสียจริง!”
พรึ่บ!
ทันใดนั้นเปลวเพลิงที่อยู่บนร่างของถวนจื่อก็ลุกโชนขึ้น! ในแววตามีประกายกรุ่นโกรธทะลักทลายออกมา!
จะว่ามันน่ะว่าได้ แต่จะมาดูถูกนาง ไม่ได้เด็ดขาด!
“หึ ดูท่าทางของเจ้าสิ หรือว่าเจ้าจะเป็นสุนัขของพวกมนุษย์เหล่านี้จริงๆ? ไม่รู้จริงๆ ว่าพวกของโบราณไม่ได้ความอย่างเผ่าหงส์ทองคำกำลังทำอันใดอยู่ คาดไม่ถึงว่าให้พวกมนุษย์ทำเช่นนี้จริงๆ! พวกเจ้าไม่ขายหน้า แต่ข้ารู้สึกละอายแทน!”
เดิมทีพวกสัตว์อสูรก็เป็นปรปักษ์กับมนุษย์ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาล
สายเลือดที่สูงส่งทำให้พวกมันอยู่เหนือกว่าคนอื่นมาโดยตลอด และไม่เคยเห็นพวกมนุษย์อยู่ในสายตา
กอปรกับเรื่องที่ซั่งกวนจิ้งทำมาก่อนหน้านี้ ทำให้อคติและความโกรธแค้นของโหมวเหยาที่มีต่อมนุษย์ฝังรากลึกลงไปอีก
คำพูดในตอนนี้จึงไม่น่าฟังอย่างยิ่ง
ถวนจื่อเปล่งเสียงร้องหวีดแหลมจากในลำคอ!
มันขยับปีกขึ้นราวกับจะพุ่งตัวออกไปต่อสู้กับอีกฝ่าย!
“ถวนจื่อ”
น้ำเสียงของฉู่หลิวเยว่เย็นชาและราบเรียบเป็นอย่างมาก
ถวนจื่อเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม แต่ก็ทำได้เพียงอดทนเท่านั้น
ฉู่หลิวเยว่ลูบปีกของมันเบาๆ
อารมณ์ของถวนจื่อค่อยๆ สงบลง
หลังจากนั้นฉู่หลิวเยว่ก็สาวเท้าก้าวเดินขึ้นมาด้านหน้า
“เยว่เออร์…”
ซั่งกวนจิ้งพูดขึ้นด้วยความลังเลเล็กน้อย
“ท่านวางใจเถอะ ข้าแค่มีเรื่องจะพูดกับท่านผู้นี้เท่านั้น”
เมื่อมองไปที่ดวงตาที่นิ่งสงบไร้ระลอกคลื่นของนางแล้ว ซั่งกวนจิ้งก็รู้สึกวางใจลงได้เล็กน้อย หลังจากลังเลไปสักพัก ในที่สุดก็พยักหน้า
ฉู่หลิวเยว่เดินขึ้นมาอีกหนึ่งก้าว แล้วเงยหน้ามองทางโหมวเหยา
“ข้าได้ยินมาว่าท่านโหมวเหยาเป็นผู้อาวุโสของเผ่าไท่ซวีเฟิ่งหลง มีตำแหน่งสูงส่ง แต่ข้ากลับไม่ทราบว่า ท่านเข้ามาดูแลเรื่องของเผ่าหงส์ทองคำตั้งแต่เมื่อใด?”
“ถวนจื่อติดตามข้ามาหลายปี ตั้งแต่ตอนแรกที่มันเป็นไก่ฟ้าเก้าสี ก่อนจะทะลวงด่านสำเร็จจนกลายเป็นหงส์ทองคำ คำพูดของท่านนั้น อาจจะเป็นการทำลายมิตรภาพระยะยาวของพวกเราอย่าง…หลีกเลี่ยงไม่ได้นะเจ้าคะ?”
โหมวเหยาตกใจอย่างมาก เขากวาดสายตามองสลับไปมาระหว่างฉู่หลิวเยว่และถวนจื่อด้วยความสับสน
หงส์ทองคำตัวนี้ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นการทะลวงด่านมาจากไก่ฟ้าเก้าสี?
หากเป็นเช่นนี้ ผู้อื่นก็ไม่มีสิทธิ์ชี้หน้าตีตราเอาผิดกับพวกเขา
ใบหน้าของเขาตึงเครียดมากขึ้น
“แต่ถึงอย่างนั้น ตอนนี้มันก็เป็นหงส์ทองคำแล้ว ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตามธรรมเนียมของเผ่าหงส์ทองคำ! เจ้าไม่มีทางไม่รู้ว่า หลังจากมันทะลวงด่านมาแล้ว มันควรกลับไปกราบไหว้บรรพบุรุษของเผ่าหงส์ทองคำ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...