ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1539

สรุปบท บทที่ 1539 ไว้หน้า: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์

ตอน บทที่ 1539 ไว้หน้า จาก ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 1539 ไว้หน้า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายการเกิดใหม่ ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ ที่เขียนโดย จ้าน นิชิโนะ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ด้านนอกเขาหมื่นเมรัย ภายใต้การจับจ้องของสายตานับไม่ถ้วน ค่ายกลกระสวยสวรรค์ปกคลุมไปทั่วยอดเขาสูงใหญ่โดยสมบูรณ์

เส้นโครงสีเงินทุกสายล่องลอยแผ่วเบาไร้สุ้มเสียง ผ่าแบ่งเอาเขาหมื่นเมรัยออกเป็นสองส่วนในชั่วพริบตา!

เกล็ดน้ำแข็งสีเลือดที่ปกคลุมทั่วยอดเขาเริ่มละลาย จากนั้นก็หยดร่วงลงสู่พื้นดิน

ฝูงชนต่างเฝ้ารอดูอย่างเงียบงัน ตาก็จ้องเขม็งไปยังบนตาน้ำที่อยู่บนยอดเขา

คลื่นน้ำกระเพื่อมไหว หากแต่ท้ายที่สุดแล้วก็มิได้บังเกิดการเคลื่อนไหวใดๆ ออกมาแม้แต่นิด

อีกทั้งเงาร่างสองร่างที่พวกเขาต้องการพบก็ไม่โผล่ออกมาแม้แต่เงา

เวลาดูจะเคลื่อนผ่านไปอย่างยากเกินจะรับไหว

ประกายแสงส่องสว่างทะลุผ่านชั้นเมฆหนาสาดส่องลงบนผืนดิน

ทุกสิ่งทุกอย่างประหนึ่งถูกยกเอาผ้าแพรโปร่งสีดำออก เผยให้เห็นรูปร่างแต่เดิมของพวกมันออกมา

ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนเงื้อศีรษะขึ้นมองอย่างเหม่อลอยอยู่หลายส่วน

ฟ้าสว่างแล้ว

ค่ำคืนนี้ช่างยาวนานนัก

“ปั๋วเหยี่ยน เกล็ดน้ำแข็งที่ปกคลุมบนยอดเขารอบๆ ละลายหายไปหมดแล้ว”

สุ้มเสียงของผู้อาวุโสฮวาเฟิงฟังดูสั่นเครือไม่น้อย

ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนมองตามสายตาของเขาไป กลับพบว่าภายใต้แรงกดดันมหาศาลของค่ายกลกระสวยสวรรค์ที่แผ่กระจายไปโดยรอบ มาบัดนี้กลับละลายหายไปจนหมดแล้ว

มีเพียงบนยอดเขาหมื่นเมรัยเท่านั้นที่ยังคงหลงเหลือเกล็ดน้ำแข็งกระจัดกระจายอยู่บ้าง

รอบๆ ยอดเขาที่ตาน้ำตั้งอยู่ยังมีเกล็ดน้ำแข็งอยู่มาก หากแต่ดูแล้วก็คงอยู่ได้อีกไม่นาน

ค่ายกลกระสวยสวรรค์ดูไปแล้วมีขนาดเล็กกว่าก่อนหน้านี้อยู่บ้าง ก่อนจะเริ่มรวบรวมพลังจากโดยรอบทั้งหมดมาไว้ ณ ใจกลางเพื่อเตรียมจัดการกับเกล็ดน้ำแข็งส่วนที่เหลือ

ในตอนนั้นเอง เส้นโครงสีเงินเหล่านั้นจึงมาปกคลุมรวมตัวกันอยู่บนเขาหมื่นเมรัยเพียงที่เดียวแล้ว

ทว่า… เขาหมื่นเมรัยในตอนนี้อยู่ในสภาพหลุมบ่อย่ำแย่จนแทบจำเค้าลางไม่ได้แล้ว

มันมินับว่าเป็นเขาลูกหนึ่งแล้วด้วยซ้ำ หากแต่เปลี่ยนไปเป็นก้อนหินขนาดมหึมาที่ถูกขัดเจียระไนไว้เสียมากกว่า

รูปทรงของมันบิดเบี้ยว ก่อให้เกิดเป็นรูปร่างประหลาดตา

ยิ่งกว่านั้นสิ่งที่ทำให้คนตื่นตกใจยิ่งกว่าเก่าคือ จนกระทั่งตอนนี้ ก้อนหินที่ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ ยังคงหมุนวนเชื่องช้าตามค่ายกลกระสวยสวรรค์อย่างต่อเนื่อง

เส้นโครงทุกสายดูไปแล้วสว่างเรืองรองจับตานัก ทว่ากลับแฝงไว้ซึ่งรังสีสังหารนับไม่ถ้วน!

พวกเขาล้วนรู้แจ้งแก่ใจดีว่าพลังของค่ายกลกระสวยสวรรค์อันนี้น่าหวาดหวั่นถึงเพียงใด!

ทันทีที่สัมผัสโดน มันก็จะจัดการบีบรัดเอาทุกสิ่งทุกอย่างไว้มิให้มีโอกาสตอบโต้!

นั่นรวมไปถึงสิ่งมีชีวิตทุกรูปแบบที่อยู่ข้างในนั้นด้วย!

พื้นที่ที่บรรดาเกล็ดน้ำแข็งสีเลือดเหล่านั้นเหือดหายไปล้วนปรากฏเป็นพื้นที่สีดำไหม้เกรียม ดูแล้วไร้ซึ่งแววชีวิตชีวาโดยสิ้นเชิง

พอเห็นภาพได้เลยว่า หากคิดจะฟื้นฟูทุกสิ่งให้กลับมาอยู่ในรูปแบบเดิมต้องผลาญเวลาและแรงกำลังไปไม่รู้กี่มากน้อย

“นี่มัน… คือสิ่งใดกันแน่…”

ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนจับจ้องเขม็งไปยังตาน้ำ อดไม่ได้ที่จะพึมพำเสียงต่ำออกมา

ราวกับว่าเพราะถูกค่ายกลกระสวยสวรรค์ยับยั้งเอาไว้ ใจกลางตาน้ำจึงมิมีน้ำพุหลั่งไหลออกมาอีก ทั้งฟื้นฟูกลับไปอยู่ในสภาพแต่เดิม

ผิวน้ำมิอาจกระเพื่อม บริเวณรอบตาน้ำเองก็จับตัวแช่แข็งเป็นเกล็ด

ทว่าระหว่างที่ตาน้ำกำลังไหลทะลักก็ปรากฏเป็นผิวน้ำสีดำทมิฬลึก ทำให้มองไม่เห็นถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นภายใน

ก้อนหินสีเทาที่ถูกวางซ้อนทับกันเป็นชั้นที่ตั้งอยู่โดยรอบ บัดนี้เองก็ถูกพลังของค่ายกลกระสวยสวรรค์บีบรัดจนแตกกระเจิงกลายเป็นเศษหินชิ้นเล็กชิ้นน้อยนับไม่ถ้วน

ภาพฉากนี้ทำให้ผู้คนที่ได้ยลมองต่างครุ่นคิดลึกล้ำ

เพราะว่าก้อนหินที่ล้อมรอบตาน้ำอยู่นั้นมีความพิเศษยิ่งนัก ถูกทัณฑ์สวรรค์ฟาดผ่าลงตั้งมาหลายปี ฟาดฟันรอยเอาไว้ด้านบนไม่น้อย หากแต่มิเคยถูกทำลายแม้แต่น้อย

มาบัดนี้ ยามอยู่ต่อหน้าค่ายกลกระสวยสวรรค์ กลับมิมีกระทั่งแรงที่จะใช้ดิ้นรนต่อต้านเลยด้วยซ้ำ

เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้แล้ว เกรงว่าคนทั้งสองที่อยู่ภายในตาน้ำจะ…

ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนนวดหว่างคิ้วของตน รับรู้ได้ถึงความรู้สึกเหนื่อยล้าจนแทบขาดใจ

คนทั้งสองมีสถานะสำคัญอย่างยิ่งยวด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความรู้สึกที่เจ้าสำนักและบรรดาผู้อาวุโสมีต่อเด็กทั้งสองคนนั้นที่นับว่าไม่เลวเลยมาโดยตลอด

หากว่าเกิดขึ้นจริงละก็…

เขามิกล้าคิดไปมากกว่านี้แล้ว

หลังครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็เบนสายตามองไปทางผู้อาวุโสท่านอื่น

“ฮวาเฟิง วั่นเจิง แล้วก็โอวหยาง แล้วก็…”

เขายังคงเรียกชื่อผู้อาวุโสต่ออีกสองสามท่าน

บทที่ 1539 ไว้หน้า 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์