เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1548

ฟึ่บ!

ร่างเงาร่างหนึ่งเคลื่อนมาสกัดกั้นเบื้องหน้าคนทั้งสองอย่างรวดเร็ว!

เป็นหนานซู่ไหวนั่นเอง!

“ที่นี่ข้าจัดการเอง หรงซิว เจ้าพาแม่นางหนูเยว่เอ๋อร์กลับไปเสีย!”

หนานซู่ไหวแผดเสียงเข้ม!

หลังคนทั้งสองออกมาได้ไม่นาน เขาก็พบว่านังหนูเยว่เอ๋อร์นอนพิงอยู่ในอ้อมอกหรงซิว ดูท่าว่าหมดสติไปเรียบร้อยแล้ว

เขายังไม่ทันรู้ถึงสถานการณ์ของนางว่าเกิดอันใดขึ้นกันแน่ จึงย่อมมิกล้าปล่อยทั้งคู่ออกไปเสี่ยงอันตราย

หรงซิวไม่มีทีท่าลังเลแม้แต่น้อย ยามได้ยินคำบอกเช่นนั้นก็สะกิดเท้าหลบฉากไปด้านหลังทันที!

ประกายแสงสีน้ำเงินเข้มพลันเรืองวาบ!

ในมือหนานซู่ไหวมีกระบี่ยาวเฉียบคมเล่มหนึ่งปรากฏขึ้นมาอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ!

กระบี่ทั้งเล่มแผ่ประกายสีน้ำเงินเข้มออกมาจางๆ กว้างประมาณสามนิ้วเห็นจะได้ บนตัวกระบี่สลักลวดลายบางอย่างที่ชวนประหลาดตานัก

ยามกวัดแกว่งมัน ประกายเย็นยะเยือกจะสาดแววระยิบระยับพร่างพราย

หนานซู่ไหวสองมือจับกระบี่มั่น ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ลมปราณทั่วทั้งร่างแผ่กระจายรุนแรง!

ทันใดนั้น พลังแห่งสวรรค์และโลกที่อยู่รอบบริเวณราวกับถูกเรียกหาก็มิปาน พวกมันเริ่มหลั่งไหลมาทางกระบี่เบื้องหน้าเขาอย่างบ้าคลั่ง!

ยิ่งตัวกระบี่กักเก็บพลังไว้มากเท่าไร สีของมันก็ยิ่งลึกล้ำบริสุทธิ์มากขึ้นเท่านั้น!

มองไปแล้วก็ดูเหมือนหยกน้ำเงินที่ถูกแกะสลักมิปาน!

ครืน…ครืน

พลังแห่งสวรรค์และโลกปริมาณมหาศาลโคจรรอบตัวหนานซู่ไหว กลายเป็นวังน้ำวนขนาดมหึมา

ดูแล้วสง่าผ่าเผยยิ่ง!

ในตอนนั้นเอง ฝ่ามือสีดำก็เข้ามาใกล้เบื้องหน้าหนานซู่ไหว!

ฟึ่บ!

สีหน้าหนานซู่ไหวดุดันยิ่ง สองมือเงื้อกระบี่ขึ้นแล้วตวัดฟันลงไปอย่างไร้ปรานี!

ประกายกระบี่สีน้ำเงินเข้มถูกปล่อยออกไปโดยพลัน!

ชึ่บ!

ความว่างเปล่าเบื้องหน้าของเขาถูกผ่าออกกลายเป็นรอยแตกอันมีช่องว่างขนาดใหญ่ด้วยสุ้มเสียงแผ่วเบา!

กระแสความโกลาหลสีดำสนิทจำนวนนับไม่ถ้วนไหลทะลักอย่างบ้าคลั่ง!

ขณะเดียวกัน ซั่งกวนจิ้งและเมิ้งเหล่าเองก็เคลื่อนไหวพร้อมกัน!

ซั่งกวนจิ้งกระชับกระบี่ยาวในมือ ก่อนจะฟันออกไปในแนวนอน!

สองมือของเมิ้งเหล่าผสานไว้เบื้องหน้าแล้วปล่อยพลังปราณดั้งเดิมออกไปสายหนึ่ง ชั่วพริบตามันก็ก่อร่างกลายเป็นเข็มไตรกระจับที่แหลมคมเหนือสิ่งใด!

ทั้งสามแยกกันไปคนละทาง ก่อนจะจัดการกักขังฝ่ามือสีดำนั่นเอาไว้ตรงกลาง!

ระหว่างสวรรค์และโลกอลหม่านวุ่นวายด้วยกระแสพลัง ไอปราณแต่ละสายเผชิญหน้ากัน!

หรงซิวอุ้มพาฉู่หลิวเยว่ถอยหลังไปอย่างว่องไว

ตอนนี้พวกเขายังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ามือสีดำ ดังนั้นทั่วทั้งร่างจึงเปี่ยมด้วยกระแสความโกลาหลที่ปั่นป่วนอย่างบ้าคลั่ง

ลมปราณชวนเสียดผิวหลายสายพัดผ่านร่างของพวกเขาประหนึ่งดาบคมมิปาน!

ชึ่บ!

เสียงบางอย่างแหวกอากาศอย่างแผ่วเบาดังแว่วมา นัยน์ตาของหรงซิวดุดันขึ้นทันใด เขากระชับกอดคนในอ้อมแขนแน่นกว่าเก่า ก่อนจะเคลื่อนกายหลบเลี่ยง!

ขณะเดียวกัน เปลวเพลิงสีทองกลุ่มหนึ่งพลันลุกโชนขึ้นมายังเบื้องหน้าคนทั้งสอง กลายเป็นกำแพงเพลิงคอยกั้นกระแสพลังที่ปั่นป่วนวุ่นวายเหล่านั้นไว้ด้านนอก!

เรือนผมดำเงาของฉู่หลิวเยว่ที่ถูกตัดออกอย่างไร้สุ้มเสียงค่อยๆ ลอยขึ้นไปในอากาศ

จิตสังหารอันรุนแรงพลันไหลทะลักออกมาจากดวงตาของหรงซิว!

นัยน์ตาของเขาปรากฏแววดำทะมึนเคลื่อนผ่านวับไป!

“แค่ก…แค่ก…”

ในตอนนั้นเอง ฉู่หลิวเยว่ก็ส่งเสียงไอขึ้นมา

หรงซิวก้มศีรษะมองทันที พบว่าดวงหน้าขาวซีดของนางยับยู่ยี่ คิ้วเรียวขมวดเป็นปมแน่น แพขนตาหนายาวของนางค่อยๆ ขยับไหว

“เยว่เออร์!”

หรงซิวโพล่งขึ้นมา กระชับฝ่ามือที่โอบเอวนางไว้ให้แน่นกว่าเดิม

ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ ฟื้นคืนสติได้ในท้ายที่สุด นางค่อยๆ ลืมตาขึ้น

ยามมองหรงซิว แววตาของนางแฝงท่าทีเหม่อลอยไว้ครู่หนึ่ง ราวกับยังไม่เข้าใจว่าที่ผ่านมาเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่

หรงซิวกลับผ่อนลมหายใจออกมา ก่อนจะค้อมกายลงจูบหว่างคิ้วนางเบาๆ

ด้วยท่าทีระงับอารมณ์ถึงขีดสุด ทว่าก็ทะนุถนอมรักใคร่เกินผู้ใด

เขาไม่อยากเห็นภาพฉากแบบนั้นเป็นครั้งที่สองอีก

บัดนี้ได้เห็นนางฟื้นขึ้นมาได้ นับว่าดีมากแล้วจริงๆ

ริมฝีปากนุ่มชื้นประทับจูบแผ่วเบาบนหว่างคิ้ว นางเอนพิงอกกว้างที่แข็งแรงแลอบอุ่นพลางฟังเสียงหัวใจของเขาเต้นระรัวซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในใจหนานซู่ไหวเห็นท่าไม่ดี จึงรีบก้าวถอยหลังในทันที!

ทว่าสายไปเสียแล้ว!

ฝ่ามือสีดำจัดการหักกระบี่ออกอย่างโหดเหี้ยม!

แกร๊ก!

กระบี่ของหนานซู่ไหวถูกบดขยี้บี้อย่างรุนแรงจนแตกสลายไปทั้งแบบนั้น!

อีกทั้งในขณะเดียวกัน หนานซู่ไหวเองก็ถูกโจมตีเข้าอย่างรุนแรงจนร่างปลิวไปไกล!

“ท่านอาจารย์!”

ฉู่หลิวเยว่ตื่นตกใจอย่างมาก!

ในเวลาเดียวกันนั้น พลังของซั่งกวนจิ้งและเมิ้งเหล่าเองก็ถูกมือข้างนั้นทำลายลงอย่างง่ายดาย!

เห็นชัดแล้วว่าการโจมตีของพวกเขาเองก็ไร้หนทางจะยับยั้งมันไว้ได้!

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนผืนฟ้าทำให้บรรดาฝูงชนที่เฝ้าดูกันอยู่ในสำนักทั้งหมดต่างก็ตื่นตะลึงจนตัวแข็ง

มิเพียงแต่บรรดาศิษย์ทั้งหลาย กระทั่งผู้อาวุโสที่มากด้วยประสบการณ์และความรู้เองต่างก็มีอาการตกตะลึงพรึงเพริดฉายชัดไปทั่วใบหน้า

มิน่าเล่า…มิน่าหลายปีมานี้สำนักหลิงเซียวถึงได้คอยจับตาดูแลเขาหมื่นเมรัยอย่างระมัดระวังมาโดยตลอด มิกล้าปล่อยให้เกิดความผิดพลาดใดขึ้นมาได้

ที่แท้ข้างใต้นี้ก็แอบซ่อนพลังอันน่าหวาดผวาเช่นนี้ไว้อยู่จริงๆ!

มือข้างนั้นพลิกไปพลิกมา จากนั้นก็หันมาทางหรงซิวกับฉู่หลิวเยว่ ก่อนจะชูมือขึ้นในอากาศจากที่ไกลๆ

ดูจากมุมมองของทั้งสองแล้วสามารถมองเห็นลายสลักสีเลือดที่ไหลพล่านเป็นระลอกอยู่กลางฝ่ามือได้พอดิบพอดี!

ใจของหรงซิวบังเกิดความรู้สึกตื่นตัว จึงรีบตั้งท่าถอยหลังอีกคราหนึ่ง!

ทว่าในตอนนั้นเอง พลังอันมหาศาลพลันแผ่ออกมาจากมือข้างนั้น!

ในชั่วพริบตา ราวกับมีพายุมรสุมเข้าถาโถมก็มิปาน!

แรงกดดันอันมหาศาลน่าหวาดผวาที่ไหลพล่านจัดการกวาดม้วนกลืนเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปอย่างบ้าคลั่ง!

ไข่มุกธาราในร่างของฉู่หลิวเยว่พลันโคจรขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว คลับคล้ายคลับคลาประหนึ่งว่ากำลังถูกมือข้างนั้นใช้กำลังช่วงชิงมันไป!

หรงซิวกระชับกอดคนในอ้อมแขนให้แน่นกว่าเดิม ชายเสื้อคลุมสะบัดพลิ้วไหว!

หากแต่ขั้นพลังปราณของเขาในตอนนี้อยู่ที่ระดับเทพขั้นสูง จะไปต้านทานพลังมหาศาลของมือข้างนั้นได้อย่างไรกัน?

บาดแผลนับไม่ถ้วนปรากฏให้เห็นบนร่างของเขาอย่างรวดเร็ว

คราบเลือดสีแดงเข้มซึมลงบนเสื้อคลุมสีขาวของเขาอย่างไร้สุ้มเสียง!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์