ภายในตำหนักศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงมีบรรยากาศเย็นยะเยือกมากขึ้นกว่าเดิม
สายตาของอี้เจามองฉู่หลิวเยว่ด้วยความเย็นชา เขาโมโหจนหัวเราะออกมา
“พวกมนุษย์มีไหวพริบและเจ้าเล่ห์จริงๆ”
หมื่นปีผ่านมา แต่สันดานล้วนเปลี่ยนยาก!
คำพูดเช่นนี้ฉู่หลิวเยว่ไม่ใส่ใจอยู่แล้ว
หากนางไม่ใช้กลอุบาย นางคงต้องถูกผู้อื่นบดขยี้ไปนานแล้ว และนางจะมายืนพูดอยู่ตรงนี้ได้อย่างใด?
ดังนั้นเมื่ออีกฝ่ายชมนางว่านางฉลาด นางจึงน้อมรับคำชมไว้
ก่อนจะพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มว่า
“ท่านชมเกินไปแล้ว ความจริงแล้วที่ข้าทำเช่นนี้ก็เผื่อจะทำให้ถวนจื่ออยู่กับข้าต่อไปได้ ข้ารู้ว่าเรื่องนี้สำหรับเผ่าหงส์ทองคำของพวกท่านนั้นเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก ดังนั้นขอเพียงท่านรับปากไม่ยกเลิกพันธสัญญาของพวกเราอีก อีกทั้งให้ถวนจื่อกลับเข้าตระกูล เช่นนั้นไม่ว่าเงื่อนไขใดที่ท่านกำหนดขึ้น เขาก็จะบุกป่าฝ่าดงทำให้อย่างไม่ลังเล”
ฉู่หลิวเยว่พูดประโยคนี้ด้วยความจริงใจ
เดิมทีนี่ก็เป็นจุดประสงค์อันยิ่งใหญ่ที่นางต้องการเดินทางมาที่นี่
อี้เจาจ้องหน้านางอยู่สักพักก่อนจะหัวเราะเสียงเย็น
“หากเจ้าคิดจะทำเพื่อมันจริงๆ เช่นนั้นเจ้าควรจะยกเลิกพันธสัญญาด้วยตนเอง”
“มันคือหงส์ทองคำ อสูรศักดิ์สิทธิ์บรรพกาลที่สูงศักดิ์และทรงพลัง! เจ้าก็รู้ดีว่าเจ้าเป็นตัวถ่วงที่ใหญ่ที่สุดของมัน!”
การแสดงฝีมือของสัตว์อสูรในพันธสัญญานั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้านายของตนเอง
หากเจ้านายเป็นเพียงแค่ขยะไร้ค่า เช่นนั้นต่อให้มันเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาลความสามารถในการต่อสู้ของมันก็จะถูกจำกัดเอาไว้
“เผ่าหงส์ทองคำถามว่าสามารถมีชีวิตยืนยาวได้ถึงพันปี หากสายเลือดนั้นบริสุทธิ์มากเพียงพอ มันก็ยิ่งประเมินค่าไม่ได้ แต่มนุษย์นั้น… ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง ก็มีชีวิตยืนยาวได้แค่ร้อยกว่าปีเท่านั้น เมื่อถึงตอนที่เจ้าตาย หรือว่าเจ้าต้องการจะให้มันร่วมตายตกไปพร้อมกับเจ้าด้วยหรือ?”
อี้เจามองไปทางฉู่หลิวเยว่สายตาประชดประชันอย่างไม่ปิดบัง
“ข้าเพิ่งทะลวงด่านผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงมาได้ไม่นาน ในขณะเดียวกันข้าก็เป็นปรมาจารย์ค่ายกลระดับราชา ปรมาจารย์โอสถ จริงสิ นอกจากนี้แล้วข้ายังเป็นช่างหลอมอาวุธ จิตวิญญาณกระบี่ของกระบี่ชื่อเซียว ข้าก็เป็นคนขัดเกลามันด้วยตนเอง”
น้ำเสียงของนางราบเรียบ กระจ่างใสราวกับก้อนหยกกระทบกัน
เมื่อพูดถึงตรงนี้นางก็หัวเราะออกมาอย่างกะทันหัน
“และที่สำคัญที่สุด ตอนนี้ข้าเพิ่งอายุสิบเจ็ดปี”
“ท่านคิดว่าข้าจะอยู่ในระดับนี้ตลอดชีวิตอย่างนั้นหรือ?”
อี้เจาสะอึกไปในทันที เขาไม่รู้ว่าจะต้องโต้เถียงอย่างใด
ต่อให้เขาจะดูถูกเผ่ามนุษย์ แต่เขาก็รู้ว่าที่ซั่งกวนเยว่พูดออกมาเช่นนี้ นางจะต้องเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในหมู่มวลมนุษย์แน่นอน!
หลังจากเงียบไปสักพักในที่สุดเขาก็พูดขึ้นมาว่า
“ดี! ในเมื่อเจ้ามั่นใจในตัวเองเช่นนี้ เช่นนั้น…ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกสักครั้ง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...