เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1589

บรรยากาศรอบด้านเงียบเสียงลงไปในทันที

ผู้อาวุโสอี้กงอ้าปากค้าง แต่กลับไม่ได้เปล่งเสียง

เปิดเส้นชีพจรต่อเนื่อง

สำหรับคนส่วนใหญ่ในเผ่าหงส์ทองคำนี้ มันเป็นเพียงแค่ตำนานบทหนึ่งเท่านั้น

หลังจากกำเนิดโลกแล้ว ท่ามกลางความวุ่นวายสับสน ได้ก่อกำเนิดอสูรศักดิ์สิทธิ์ระดับบรรพกาลที่ยิ่งใหญ่สองชนิด

มีประวัติศาสตร์ยาวนานหลายหมื่นปี

อีกทั้งเวลาที่กำลังหมุนผ่าน เผ่าหงส์ทองคำก็มีการกำเนิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าจำนวนก็ไม่ได้น้อย

แต่ในที่แห่งนี้คนที่สามารถจะเปิดเส้นชีพจรต่อเนื่องได้นั้นมีเพียงหยิบมือเท่านั้น

ต้องบอกก่อนว่า การกำเนิดหงส์ทองคำเท่ากับเปิดเส้นชีพจรเส้นที่หนึ่ง

หลังจากนั้นภายในเวลาร้อยปี ก็เปิดเส้นชีพจรที่สอง

อีกร้อยปีต่อมา ถึงจะสามารถเปิดเส้นชีพจรที่สามได้ และถึงจะมีรูปร่างเป็นมนุษย์

แต่ไม่แน่ว่าจะสามารถทะลวงได้สำเร็จ

คนที่มีพรสวรรค์ค่อนข้างดี ภายในร้อยปีกว่าๆ ก็สามารถผ่านขั้นตอนเหล่านี้อย่างราบรื่น

แต่คนที่มีคุณสมบัติทั่วไป ต่อให้ผ่านไปสองสามร้อยปี ก็ยังคงอ้อยอิ่งอยู่ที่หน้าประตูเส้นชีพจรที่สาม

หลังจากเปิดเส้นชีพจรที่สามได้แล้ว หากต้องการจะปีนขึ้นไปอีก เกรงว่าจะเป็นเรื่องยากมาก

โดยพื้นฐานนั้นพวกเขาจะใช้พรสวรรค์ไปกับเรื่องนี้จนหมดแล้ว

แต่ผู้ที่มีพรสวรรค์จะสามารถผ่านด่านเหล่านี้ไปได้อย่างราบรื่น

ผู้ที่สามารถเปิดเส้นชีพจรที่หกได้จะกลายไปเป็นผู้อาวุโสในทันที

หากสามารถเปิดเส้นชีพจรเส้นที่เจ็ดได้ ก็จะสามารถนั่งที่ตำแหน่งประมุขเผ่าได้อย่างมั่นคง

นี่เป็นเหตุผลว่าเหตุใดพวกเขาถึงต้องคัดเลือกตำแหน่งนายน้อย และต้องการคัดเลือกผู้ที่มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมมากที่สุด

… ผู้ที่มีฝีมือถึงจะมีอำนาจในการออกเสียง

ถ้าสามารถควบคุมคนที่อยู่ด้านล่างได้ แล้วจะพูดอันใดได้อีกเล่า?

“เปิดเส้นชีพจร… ต่อเนื่อง”

ท่ามกลางความเงียบงัน คาดไม่ถึงว่าอี้หรานจะเป็นคนแรกที่ได้สติกลับคืนมา

เขาเงยหน้าขึ้นไปมองหุบเขาเฟิ่งหวงอีกครั้งด้วยความตื่นตระหนก

กลุ่มเพลิงเหล่านั้นยังโหมกระหน่ำเช่นเดิม ส่วนเงาร่างที่อยู่ภายในก็ยังคงมองเห็นได้ไม่ชัดเจน

แต่ว่า… ขนนกทองคำบรรพบุรุษยังคงไม่จางหายไป!

มันยังลอยอยู่กลางอากาศเงียบๆ เหมือนกับต้องการรอคอยที่จะวาดเส้นลำแสงที่สอง!

“นี่มัน…จะ…เป็นไปได้อย่างใด…”

อี้หรานพูดพึมพำขึ้นมา แววตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ แต่ภายในใจกับดำดิ่งลงไปแล้ว

เมื่อครู่นี้เขากำลังโมโหอย่างมาก จึงไม่มีเวลาคิดทบทวนมากนัก

แต่หลังจากที่เขาใจเย็นลง เขาถึงตระหนักขึ้นได้ว่า เรื่องนี้อาจจะเป็นอย่างที่อี้เจาและคนอื่นๆ พูดก็เป็นได้!

… หงส์ทองคำตัวนั้นสามารถเปิดเส้นชีพจรต่อเนื่องได้จริงๆ!

ไม่อย่างนั้นแล้วละก็มันจะสามารถแย่งขนนกทองคำบรรพบุรุษไปจากเขาอย่างง่ายดายได้อย่างใด?

หลังจากเปิดเส้นชีพจรแล้ว ขนนกทองคำบรรพบุรุษก็จะจางหายไปเองโดยทันที และรอการอัญเชิญรอบต่อไป

แต่ในตอนนี้มันกลับยังรอคอยอยู่ที่นั่นอย่างเงียบสงบ

ถ้าไม่ใช่การเปิดชีพจรต่อเนื่อง แล้วจะเป็นอันใดได้?

อี้หรานรับเรื่องนี้ไม่ได้ หัวใจของเขาเหมือนถูกอันใดบางอย่างกดทับอย่างรุนแรง ร่างทั้งร่างรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก

เหลวไหล!

น่าขันสิ้นดี!

หงส์ทองคำตัวนั้นเพิ่งจะทะลวงด่านมาได้ไม่กี่เดือน และเพิ่งจะกลับเข้าเผ่ามาในตอนนี้ มันจะสามารถเปิดเส้นชีพจรต่อเนื่องได้อย่างใด?

ทันใดนั้นอี้หรานก็นึกถึงคำพูดของอาจารย์ที่พูดกับเขามาก่อนหน้านี้

ในตอนนั้นอาจารย์พูดว่าหงส์ทองคำตัวนั้นจะกลายมาเป็นภัยคุกคามของเขา

ช่วงเวลานั้นเขาไม่ได้คิดแบบนั้น

แต่ในตอนนี้เขารู้แล้วว่าท่าทางเคร่งขรึมของอาจารย์นั้นมีสาเหตุมาจากเรื่องใด

ในตอนนั้นเองผู้อาวุโสอี้ซังก็เชิดคางขึ้นแล้วพูดเสียงเบาว่า

ตราบใดที่นางพ่ายแพ้แล้ว นางก็จะต้องยกเลิกพันธสัญญา

ด้วยวิธีการนี้ทั้งสองฝ่ายก็จะได้ไม่ต้องพัวพันยืดเยื้อกันอีกต่อไป

แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเพราะถวนจื่อมีสายเลือดบริสุทธิ์ ดังนั้นภายในใจลึกๆ ของเขาจึงมีความหวังขึ้นมา

แต่เขาก็คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้จะสามารถเกิดขึ้นจริงได้

จนกระทั่งตอนนี้เมื่อเขาเห็นว่าขนนกทองคำบรรพบุรุษกำลังวาดลวดลายขึ้นอีกครั้ง เขาถึงได้เชื่อว่าเรื่องทั้งหมดนั้นมันเกิดขึ้นจริงๆ!

“ถวนจื่อยังอายุน้อยนัก สามารถเปิดเส้นชีพจรได้ถึงเส้นที่สามได้โดยตรง ถือว่าเป็นเรื่องไม่ง่ายดาย ในช่วงเวลาก่อนหน้านี้ซั่งกวนเยว่ได้อัญเชิญทัณฑ์สวรรค์ ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ ก็น่าจะเพื่อเรื่องนี้สินะ?”

ผู้อาวุโสอี้ซังพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้ม

“ก่อนหน้านี้พวกเราเข้าใจนางผิดไปแล้ว แต่ว่ายังดีที่ช่วงนี้มีอี้อวี่คอยเฝ้าระวังให้ไม่ให้มีใครรบกวน หากถวนจื่อไม่สามารถเปิดเส้นชีพจรได้เพราะเรื่องนี้ ก็ถือว่าพวกเราได้สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่แล้ว”

ไม่ว่าอย่างใดก็ตาม ถวนจื่อก็เป็นสายเลือดเผ่าหงส์ทองคำของพวกเรา

เมื่อมันสามารถเปิดเส้นชีพจรต่อเนื่อง สามารถทะลวงด่านได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีของพวกเราทั้งเผ่าพันธุ์

ผู้อาวุโสอี้กงมีใบหน้าซีดขาวมากยิ่งขึ้น

เขาสามารถเข้าใจได้ในทันทีว่าคำพูดนี้กำลังประชดประชันเขาอยู่

หลังจากที่เขาอดกลั้นอยู่สักพัก เขาก็ไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ตรงหน้าของอี้เจา

อี้เจาเห็นว่าเขามีสีหน้ากรุ่นโกรธ จึงหรี่สายตามองเล็กน้อย

“อี้กง นี่เจ้าต้องการจะทำอันใด?”

ผู้อาวุโสอี้กงกัดฟันแล้วพูดขึ้นว่า

“ท่านประมุข ข้าไม่ต้องการจะทำอันใด ข้าเพียงต้องการเรียกร้องความยุติธรรมแทนอี้หรานเท่านั้น!”

ทันใดนั้นเขาก็ยกมือขึ้นแล้วชี้ไปทางหุบเขาเฟิ่งหวง

“ข้ารู้! มันสามารถเปิดเส้นชีพจรต่อเนื่องได้ ซึ่งนั่นก็เป็นความสามารถของมัน! แต่ว่าท่านไม่สามารถลำเอียงกับมันเช่นนี้ได้!”

“ในตอนนี้มันสามารถเปิดเส้นชีพจรที่สามได้ แต่อี้หรานล่ะ? เดิมทีเขาสามารถเปิดเส้นชีพจรที่มันได้! ท่านไม่มีทางไม่รู้ว่า เพื่อวันนี้เขาต้องใช้ความพยายามไปมากเพียงใด! หรือว่าตอนนี้เพียงเพราะหงส์ทองคำตัวนั้นสามารถเปิดเส้นชีพจรต่อเนื่องได้ ท่านก็สามารถละเลยทุกอย่าง แม้กระทั่งมันจะทำร้ายคนอื่นก็ตาม?”

“แล้วอีกอย่างแม้ว่าวันนี้มันจะสามารถเปิดเส้นชีพจรที่สามได้ แต่การช่วยต้นกล้าให้เติบโตเช่นนี้ เป็นเรื่องดีหรือไม่ดี ยังไม่มีใครทราบ! ใครจะสามารถรับประกันได้ว่า หลังจากนี้มันจะสามารถเปิดเส้นชีพจรได้อีกหรือไม่! แต่อี้หราน… สูญเสียโอกาสในการเปิดเส้นชีพจรที่สี่ไปแล้ว! ท่านประมุข ท่านรู้จักหนักเบา ท่าน… ก็รู้แก่ใจดีไม่ใช่หรือ?”

……….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์