……….
หัวใจของฉู่หลิวเยว่ตึงเครียดขึ้นมาในทันที จากนั้นก็หันไปมองในป่า ก่อนจะพบว่าเสียงนั้นมันดังมาจากทั้งสี่ทิศแปดทาง จนไม่สามารถแยกแยะทิศทางได้
ซั่งกวนจิ้งขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วพูดว่า
“ไม่ต้องกังวล นั่นเป็นเพียงแค่วิญญาณอาฆาตที่อยู่ในป่าวิญญาณสีชาดเท่านั้น”
“วิญญาณอาฆาต?”
“ถูกต้อง สิ่งที่เรียกว่าวิญญาณอาฆาตนั้น คือดวงวิญญาณของผู้บำเพ็ญเพียรที่เคยเดินทางผ่านป่าวิญญาณสีชาดเพื่อเข้าไปในสุสานสังหารเทพ เพราะว่าเขาถูกขังอยู่ที่นี่จนตาย ดังนั้นจิตวิญญาณของเขาจึงเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและไม่ยินยอม เพราะว่าวิญญาณเหล่านี้ไม่มีจิตใต้สำนึกเป็นของตนเองแล้ว ตราบใดที่ไม่โคจรพลังปราณดั้งเดิม ก็จะไม่ถูกพวกมันค้นพบ และสามารถผ่านไปได้อย่างปลอดภัย”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าอย่างครุ่นคิด
“อย่างนี้นี่เอง…”
เสียงสะอึกสะอื้นที่น่าสงสาร เหมือนว่าจะดังอยู่ที่ข้างกาย
หลังจากเสียงนั้นดังกระทบเข้ากับโสตประสาทก็ทำให้คนรู้สึกเย็นยะเยือกขึ้นมาในทันที
จินตนาการได้ไม่ยากเลยว่าตอนที่คนเหล่านี้เสียชีวิตในป่าวิญญาณสีชาด พวกเขาจะต้องทนทุกข์ทรมานเพียงใด
ยังดีที่ทั้งสามคนมีจิตใจแข็งแกร่ง ไม่ได้ถูกเสียงโหยหวนเหล่านั้นรบกวน และมุ่งหน้าเดินทาง
แต่ว่าหลังจากถูกเสียงเหล่านั้นรบกวน ซั่งกวนจิ้งก็ไม่ได้เล่าเรื่องเหล่านี้ต่อ
ฉู่หลิวเยว่ก็ไม่ได้ถามอันใดอีก
องค์ปฐมกษัตริย์มีนิสัยเรียบง่ายและเป็นอิสระอยู่เสมอ ฉู่หลิวเยว่สามารถมองออกว่า เรื่องราวในปีนั้น ส่งผลกระทบต่อเขาเป็นอย่างมาก
มากเสียจนเวลาผ่านมาพันปี เขาก็ยังไม่อยากจะพูดถึง
เป็นไปได้อย่างมากว่าเขายังไม่ปล่อยวาง…
ในความเป็นจริงเมื่อคิดไปแล้วก็สามารถเข้าใจได้
ตอนนั้นองค์ปฐมกษัตริย์บุกมาที่อาณาจักรเสิ่นซวี่ด้วยตัวคนเดียว และได้ยอมรับคนผู้หนึ่งเป็นสหาย เขาแทบจะฝากชีวิตความเป็นความตายไว้กับอีกฝ่าย
แต่อย่างใดก็ตามอีกฝ่ายทรยศเขาเพื่อชิงของวิเศษ…
เรื่องเหล่านี้ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับใคร ก็เกรงว่าจะต้องเสียใจกันทั้งนั้น
แต่ว่าภายในใจของฉู่หลิวเยว่ นางกลับมีคำถามหนึ่งปรากฏขึ้น
ในตอนนั้นองค์ปฐมกษัตริย์เป็นช่างหลอมอาวุธระดับปรมาจารย์แล้ว ฐานะเช่นนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์และเซียนหมอระดับปรมาจารย์เลย
ดังนั้นคนผู้นั้น เหตุใดถึงเลือกของวิเศษที่ทำให้ทะลวงด่านจากผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูงสู่ระดับเทพศักดิ์สิทธิ์แล้วทรยศองค์ปฐมกษัตริย์ อีกทั้งยังจะสังหารองค์ปฐมกษัตริย์ด้วย?
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะองค์ปฐมกษัตริย์ไม่ได้สนใจของสิ่งนี้เลย
ส่วนอีกด้านหนึ่ง แม้ว่าเขาจะได้ของวิเศษชิ้นนี้ไปและทะลวงด่านสู่ระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ได้สำเร็จ แต่เมื่อเทียบกับองค์ปฐมกษัตริย์ก็ถือว่ายังด้อยกว่าหนึ่งชั้น
แล้วเหตุใดเขาถึงต้องกระทำการเช่นนี้?
แต่องค์ปฐมกษัตริย์ไม่ได้พูดต่อ ฉู่หลิวเยว่ก็ไม่ได้ถาม
สำหรับองค์ปฐมกษัตริย์แล้ว การพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเหมือนเป็นการสะกิดแผลเก่าของเขาขึ้นมาอีกครั้ง
นางเม้มริมฝีปากแน่นและหลุบสายตาลง ระงับอารมณ์และความอยากรู้อยากเห็นลง ก่อนจะติดตามองค์ปฐมกษัตริย์ต่อไป
มีหลายครั้งที่ฉู่หลิวเยว่รู้สึกเจ็บหูเพราะเสียงครวญครางเหล่านั้น นางสามารถสัมผัสได้หลายครั้งว่า ด้านข้างของนางนั้นมีคนยืนอยู่ และคนผู้นั้นพร้อมจะลงมือสังหารนางได้ทุกเมื่อ
แต่สุดท้ายนางก็สามารถควบคุมอารมณ์ได้ ไม่ไปสนใจสิ่งเหล่านั้น แล้วมุ่งหน้าต่อไป
ไม่รู้ว่าพวกเขาเดินทางมานานขนาดไหนแล้ว ในที่สุดเสียงหวีดแหลมที่อยู่ด้านข้างก็ลดเสียงลงไปแล้ว
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เสียงนั้นดังขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นระยะเวลานาน ไม่รู้ว่าที่นี่เคยมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกี่คน และยิ่งไม่รู้ว่าพื้นที่ที่ดูสะอาดสะอ้านเช่นนี้ได้ซ่อนโครงกระดูกเอาไว้ภายในอยู่จำนวนเท่าใด
เมื่อลมพัดมา ใบไม้ก็สั่นไหว
ฉู่หลิวเยว่เหลือบสายตาไปมอง
บนต้นไม้สีดำ มีใบไม้สีแดงจำนวนนับไม่ถ้วนที่กำลังสั่นไหวตามแรงลม
ยิ่งนางเข้าใกล้มากเท่าไร นางก็สามารถมองเห็นเส้นเลือดที่อยู่บนใบไม้นั้นได้อย่างชัดเจนมากขึ้น
นั่นไม่ใช่เส้นใยของใบไม้ปกติแน่นอน แต่มันค่อนข้าง… มีลักษณะคล้ายกับมือของมนุษย์!
อากาศเย็นยะเยือกตีขึ้นมาจากปลายเท้าของนาง!
ฉู่หลิวเยว่ถอนสายตาออกไปอย่างไร้เสียง ภายในสมองปรากฏภาพเหตุการณ์ของเมื่อคืน ใบไม้เหล่านั้นวูบไหวตามแรงลม เหมือนกับฝ่ามือที่เปื้อนเลือดโบกมือไปมา
ที่แท้…
ป่าวิญญาณสีชาดไม่ได้อยู่ในอาณาเขตของสุสานสังหารเทพด้วยซ้ำ แต่ยังอันตรายถึงขนาดนี้แล้ว
ไม่รู้ว่าหากเข้าไปในสุสานสังหารเทพ จะมีอันตรายชนิดใดรอพวกเขาอยู่…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...