……….
เรื่องราวดำเนินมาถึงจุดนี้ ความจริงแล้วก็เกินความคาดหมายของหนานอวี่สิงและคนอื่นไปอย่างมาก
ในขณะนั้นที่หนานอีอีถูกคำพูดของหรงซิวแทงใจดำ นางรู้สึกรับไม่ไหวอย่างรุนแรง จึงร้องไห้แล้ววิ่งหนีไป
หลังจากที่หนานอวี่สิงติดตามไปแล้ว พวกเขาก็เห็นว่าหนานอีอีวิ่งเข้าไปในอาณาเขตของป่าวิญญาณสีชาดโดยไม่รู้ตัวแล้ว
ภายในใจของเขารู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก และต้องการรีบไปนำตัวนางกลับมา
เพราะว่าสำหรับพวกเขาแล้วป่าวิญญาณสีชาดแห่งนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่สถานที่ที่ผ่านไปยาก แต่ด้วยสถานการณ์ของหนานอีอีในตอนนี้ การเข้าไปคนเดียวจะเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก!
เดิมทีหนานอวี่สิงจะโน้มน้าวให้นางออกมา จากนั้นพวกเขาค่อยเข้าไปพร้อมกับผู้อาวุโสทั้งสองคน
แต่หนานอีอีสติแตกเป็นอย่างมาก วิ่งเข้าไปในส่วนลึกของป่าวิญญาณสีชาดอย่างไม่คาดคิด
ความจริงแล้วหลังจากนั้นไม่นานหนานอวี่สิงก็สามารถไล่ตามนางได้ทัน
แต่ประเด็นสำคัญเลยก็คือ ตอนที่หนานอีอีวิ่งเข้าไปในป่าวิญญาณสีชาด พลังปราณดั้งเดิมบนร่างกายเดือดพล่านเป็นอย่างยิ่ง
และนั่นก็นับว่าเป็นการก่อเรื่องใหญ่เลยก็ว่าได้
เมื่อผู้อาวุโสไป๋ถงและผู้อาวุโสอูเผิงติดตามมาถึง บรรยากาศรอบข้างก็ผิดปกติไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ใบไม้เหล่านั้นก็เริ่มร่วงหล่น และเข้าโจมตีหนานอีอี!
บาดแผลบริเวณไหล่ของนาง ก็ได้มาจากช่วงเวลานั้นนั่นเอง
หลังจากนั้นพวกเขาทั้งหลายก็ต้องรับมือกับอันตรายนี้ไปด้วย และวิ่งพุ่งทะยานออกไปด้านนอกพร้อมกัน
โชคดีที่ผู้อาวุโสทั้งสอง รวมถึงหนานอวี่สิงมีฝีมือไม่อ่อนด้อยจึงสามารถเดินทางมาถึงที่นี่ได้
ดังนั้นกว่าจะเห็นผู้คนได้ก็ยากลำบากยิ่ง พวกเขาจึงต้องการจะขอความช่วยเหลือ
คิดไม่ถึงว่าเมื่ออีกฝ่ายได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือของเขา พวกเขาจะรีบวิ่งออกไปเช่นนี้!
หนานอวี่สิงรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก หลังจากมองเห็นใบหน้าของพวกเขาอย่างชัดเจนแล้ว อารมณ์ของหนานอวี่สิงก็พุ่งสู่จุดสูงสุด
“เหตุใดถึงเป็นพวกเจ้าได้?”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที แม้กระทั่งฝีเท้าก็ช้าลงไปหนึ่งส่วน
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกขำขึ้นมาในใจ
เห็นได้ว่าพวกเขาเป็นคนวิ่งมาที่นี่เอง แล้วยังพาอันตรายที่ร้ายแรงติดตัวมาอีกด้วย คาดไม่ถึงว่าเขายังจะกล้าถามคำถามแบบนี้ออกมาอย่างไม่ละอาย?
“ไม่ต้องสนใจพวกเขา!”
องค์ปฐมกษัตริย์หันกลับไปมอง เมื่อเห็นว่าใบไม้สีชาดเหล่านั้นไล่ติดตามมาอย่างบ้าคลั่ง คิ้วก็ขมวดแน่นขึ้นเป็นปม ก่อนจะเริ่มวิ่งให้เร็วขึ้น
เมื่อเห็นว่าพวกเขาวิ่งหนีออกไปโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง หนานอวี่สิงก็ยิ่งรู้สึกโมโหมากกว่าเก่า
ถ้าไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายรังแกอีอี พวกเขาจะตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ได้อย่างใด!
เดิมทีทุกอย่างก็เตรียมเอาไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว แต่ตอนนี้กลับมีเรื่องยุ่งยากเข้ามาไม่หยุดหย่อน!
ป่าวิญญาณสีชาดยากจะต่อกรมากเพียงใด ใช่ว่าพวกเขาไม่รู้!
หนานอวี่สิงกัดฟันกรอด
ไม่ว่าอย่างใดก็ตามเรื่องนี้ก็เป็นเช่นนี้แล้ว ถ้าเช่นนั้นก็ลากพวกเขาลงน้ำไปด้วยกันเลยดีกว่า!
หากเขาออกไปไม่ได้ อย่างนั้น… อีกฝ่ายก็จะต้องอยู่ที่นี่ด้วย!
เมื่อคิดได้ดังนั้น หนานอวี่สิงก็รีบเพิ่มความเร็ว!
ครั้งนี้ลมปราณดั้งเดิมในร่างกายของเขาเข้มข้นมากกว่าเดิม!
แม้กระทั่งใบไม้ที่อยู่โดยรอบก็เริ่มร่วงหล่นลงมา จากนั้นก็พุ่งมาโจมตีเขา!
เมื่อสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่ทางด้านหลัง หรงซิวก็หันกลับไปมอง ในแววตามีจิตสังหารพาดผ่าน
เขาขยับฝ่ามือเล็กน้อย แต่ก็ถูกองค์ปฐมกษัตริย์ห้ามเอาไว้
“หรงซิว! ห้ามโคจรพลังปราณดั้งเดิมเด็ดขาด!”
พวกเขากำลังจะออกจากที่นี่ได้แล้ว หากลงมือในตอนนี้ ทุกอย่างจบสิ้นแน่นอน!
ขณะนั้นเองหนานอวี่สิงวิ่งพุ่งตรงมาทางด้านหน้าของพวกเขาแล้ว
พรึ่บๆ!
ร่างกายของเขาถูกใบไม้เหล่านั้นกรีดเป็นแผลหลายจุด เลือดไหลออกมา
แต่เขาไม่ได้ใส่ใจเลย
ลำแสงเย็นยะเยือกสว่างวาบ กระบี่เล่มยาวปรากฏขึ้นที่กลางฝ่ามือของเขา จากนั้นก็พุ่งตรงไปที่หรงซิว!
อย่างใดก็ตามเมื่อกระบี่เล่มนั้นกำลังจะแทงเข้าที่ร่างของหรงซิว ทันใดนั้นหนานอวี่สิงก็เปลี่ยนทิศทาง หันไปโจมตีทางฉู่หลิวเยว่อย่างกะทันหัน!
เดิมทีเขาหมายจะโจมตีฉู่หลิวเยว่อยู่แล้ว!
ทันใดนั้นเองแววตาของหรงซิวก็เต็มไปด้วยระลอกคลื่นที่ปั่นป่วน!
ในตอนที่เขากำลังจะลงมือ ทันใดนั้นด้านหน้าของฉู่หลิวเยว่ก็มีแสงสีทองคำชาดสว่างวาบขึ้นมาอย่างกะทันหัน!
ในตอนนั้นหนานอวี่สิงรู้สึกว่าตนเองตาพร่าไป เมื่อหันกลับไปมองเขาก็เห็นว่าเด็กหญิงอายุสามสี่ขวบปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขา
เด็กหญิงคนนั้นตัวเล็กมาก นางสวมกระโปรงใบบัวเปล่งประกายสีทองคำชาด เท้าเล็กๆ ทั้งสองข้างเปลือยเปล่า บนศีรษะมีมวยผมอยู่สองข้างพร้อมผูกด้วยเชือกแดงกระดิ่งสีทอง
นางงดงามมาก และน่ารักยิ่ง
ดวงตาสีดำขลับกลมโต ดูๆ ไปแล้วไร้เดียงสาเป็นอย่างมาก
หนานอวี่สิงขมวดคิ้วขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...