……….
ถวนจื่อเป็นหงส์ทองคำ อีกทั้งตอนนี้ยังเปิดเส้นชีพจรที่สี่ได้
แม้ว่าตอนนี้นางจะดูเหมือนก้อนแป้งขาวนุ่มนิ่มก็ตาม แต่ความจริงแล้วพลังกายของนางแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก
ไม่ต้องพูดถึงกระบี่เพียงเล่มเดียวเลย ต่อให้เป็นการโจมตีพร้อมกันร้อยคน นางก็ไม่ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
นางไม่จำเป็นจะต้องโคจรพลังปราณดั้งเดิม เพียงแค่หมัดที่อ่อนนุ่มก็สามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว!
เดิมทีหนานอวี่สิงได้รับบาดเจ็บอยู่เล็กน้อย อีกทั้งถวนจื่อยังดูแคลนเขาเป็นอย่างมาก
ถ้าเขาไม่ถูกจัดการ แล้วใครจะถูกจัดการ?
เมื่อเห็นว่าเงาร่างของหนานอวี่สิงถูกใบไม้สีชาดกลืนกิน หนานอีอีและคนอื่นๆ ก็ตื่นตระหนก ก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปในทันทีโดยไม่สนอันตราย
เวลานี้พวกเขาไม่มีเวลาและแรงที่จะมาโกรธแค้นด้วยซ้ำ สิ่งเดียวที่พวกเขาคิดได้คือจะต้องรีบช่วยหนานอวี่สิงออกมาให้เร็วที่สุด!
หากช้าไปกว่านี้ เกรงว่า…
“ถวนจื่อ ไปกันเถอะ”
ฉู่หลิวเยว่กวักมือเรียกถวนจื่อ
“โอ้! ข้ามาแล้ว!”
ถวนจื่อตอบรับหนึ่งเสียงด้วยความยินดี จากนั้นนางก็หมุนตัวออกไป แล้ววิ่งไปหาฉู่หลิวเยว่ด้วยท่าทางมีความสุข
เดิมทีนางอยากจะโถมตัวเข้าไปในอ้อมกอดของฉู่หลิวเยว่ แต่เมื่อหางตาเห็นเงาร่างชายที่สวมชุดสีขาว ถวนจื่อก็รีบยับยั้งชั่งใจตนเองทันที
“ทำได้ไม่เลวเลย”
น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นจากเหนือศีรษะ
ถวนจื่อเบิกตากว้างด้วยความตกใจแล้วหันมองทางหรงซิวอย่างไม่อยากจะเชื่อ
สีหน้าของเขาราบเรียบเป็นอย่างมาก แต่ในแววตากลับมีประกายชื่นชมอยู่หลายส่วนอย่างหาได้ยาก
นี่ นี่มัน…
เขากำลังชมนางอยู่หรือ?
ถวนจื่อกะพริบตาปริบๆ และเห็นว่าหรงซิวเบือนสายตาออกไป
นางกลอกตาขึ้นลองพยายามยืดมือเล็กๆ ไปคว้าแขนเสื้อของฉู่หลิวเยว่
แต่ฉู่หลิวเยว่กลับจับมือของนางขึ้นมาโดยตรง
ถวนจื่อรีบหันกลับไปมองหรงซิว เมื่อเห็นว่าเขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้พูดอันใด
นี่หมายความว่า…เขาเห็นด้วยแล้วหรือ?
อ๊าก!
ถวนจื่อรู้สึกดีใจอย่างบ้าคลั่ง!
ในที่สุดก็สามารถอยู่กับอาเยว่ได้อย่างเปิดเผยแล้ว!
นางรีบคว้ามือของฉู่หลิวเยว่มาจับเอาไว้ พร้อมเดินตามนางไป และไม่ลืมที่จะถามว่า
“อาเยว่ๆ! เมื่อครู่นี้ข้าทำได้ดีหรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้
เวลาผ่านมาหลายปีขนาดนี้แล้ว ตั้งแต่ตอนที่ถวนจื่อเป็นไก่ฟ้าเก้าสีระหว่างนั้นนางก็มีความก้าวหน้าจนได้มาอยู่ในระดับนี้แล้ว ฝีมือและพลังแห่งสายเลือดก็แข็งแกร่งขึ้นไม่น้อย แต่นิสัยของนางนั้นยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน
ไม่ว่านางจะทำอันใด ก็จะพุ่งมาหาด้วยความยินดีเพื่อรับความดีความชอบ
ฉู่หลิวเยว่บีบจมูกของนาง
“จัดการได้งดงามมาก!”
รอยยิ้มกว้างปรากฏขึ้นบนใบหน้าของถวนจื่อ
ฮิๆ!
ถ้ารู้ว่ารางวัลของครั้งนี้จะยอดเยี่ยมมากขนาดนี้ เมื่อครู่นี้นางน่าจะต่อยออกไปหลายหมัด!
หากหนานอวี่สิงรู้ความคิดนี้ของถวนจื่อเกรงว่าเขาจะต้องกระอักเลือดออกมาแล้ว
เพื่อให้ได้กุมมือกับเจ้านายของตนเอง พูดอันใดนิดหน่อยก็จะทุบตีกันให้ตายเชียวหรือ?
ประเด็นก็คือนางสามารถทำเช่นนั้นได้จริงๆ
ในป่าวิญญาณสีชาดแห่งนี้ ผู้บำเพ็ญเพียรทุกคนล้วนไม่กล้าโคจรพลังปราณดั้งเดิมของตนเอง หากเมื่อโคจรไปแล้วชีวิตก็จะต้องแขวนอยู่บนความเป็นความตาย!
แต่ทว่ามีคนคนหนึ่ง อาศัยเพียงพลังกายก็สามารถเอาชนะบุคคลอีกกลุ่มหนึ่งได้แล้ว!
แบบนี้สวรรค์ยังมีความยุติธรรมอีกหรือไม่?
แน่นอนว่าสถานการณ์ทางด้านหนานอวี่สิงเป็นอย่างใดนั้น ฉู่หลิวเยว่และคนอื่นๆ ก็ไม่ได้อยากจะทราบเลยแม้แต่น้อย
หลังจากเดินทางห่างออกมาสักระยะหนึ่ง ในที่สุดทางด้านหน้าก็เป็นท้องฟ้าสว่างสดใสแล้ว!
ในที่สุดซั่งกวนจิ้งก็พูดขึ้นว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...