เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1647

……….

ทิวทัศน์แห่งนี้ ก็ไม่ได้ต่างจากที่พวกเขาเคยเห็นมากนัก

แม้กระทั่งลมปราณที่อยู่โดยรอบก็มีความเย็นชาและโดดเดี่ยวขึ้นมาเช่นกัน

แต่…

ฉู่หลิวเยว่สามารถสัมผัสได้จริงๆ ว่า ที่แห่งนี้แตกต่างจากสุสานกลุ่มของผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง!

หรงซิวหรี่ตาลงเล็กน้อย

“เจ้าแน่ใจหรือ?”

ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าเบาๆ

หรงซิวกวาดสายตามองรอบด้าน สีหน้ายังคงเมินเฉยเช่นเดิม เขาเลิกคิ้วขึ้นแล้วหัวเราะเบาๆ

“ต่อให้ที่แห่งนี้จะเป็นสุสานกลุ่มของผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์จริงๆ แต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้มันไม่น่าจะมีอันใดเกิดขึ้น ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวล”

ขณะที่พูดเช่นนั้น เขาก็ค้นหาสถานที่ที่สะอาดและเรียบร้อยบริเวณด้านข้าง

“อีกไม่กี่ชั่วยามก็จะถึงเวลานัดหมายแล้ว หากพวกเขาต้องการพบพวกเรา พวกเราก็รออยู่ที่นี่ก็พอแล้ว”

ฉู่หลิวเยว่เม้มริมฝีปากขึ้น ในแววตายังมีความกังวลแฝงอยู่หลายส่วน

นางรู้ว่าสิ่งที่หรงซิวพูดนั้นถูกต้อง

อีกฝ่ายต้องการตามหาไข่มุกธาราในร่างกายของนาง และท่านพ่อก็คือตัวประกันของพวกเขา

ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะเผชิญหน้ากัน เขาจะไม่ทำอันใดท่านพ่อแน่นอน

แต่…

ภายในใจของนางก็ยังมีความกังวลอยู่

ในแคว้นเย่าเฉิน ท่านพ่อนับว่าเป็นผู้แข็งแกร่งและอัจฉริยะชั้นยอด

แต่ด้วยระดับและฝีมือเช่นนั้น หลังจากออกมาจากแคว้นเย่าเฉินแล้วก็นับว่าไม่ได้โดดเด่นอันใด

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ที่อาณาจักรเสิ่นซวี่!

ตั้งแต่ท่านพ่อถูกลักพาตัวไป จนถึงตอนนี้ก็เป็นเวลานานมากแล้ว

ฉู่หลิวเยว่รู้ว่าเขายังมีชีวิตอยู่ แต่… ไม่กล้าคิดเลยว่าระหว่างนี้เขาจะเผชิญความทุกข์ทรมานมากมายเพียงใด

จนถึงตอนนี้นางได้พลังของตนเองกลับคืนมาแล้ว และสามารถสู้กับอีกฝ่ายได้อย่างสูสีแน่นอน!

แต่เวลายิ่งใกล้มากเท่าไร นางก็ยิ่งรู้สึกกังวลมากขึ้นเท่านั้น

และยังมีองค์ปฐมกษัตริย์…

ไม่รู้ว่าเขาถูกมิติที่ปั่นป่วนนั้นพัดพาไปอยู่ที่ใด

หรงซิวเดินเข้ามาแล้วลูบศีรษะนางเบาๆ ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากของนาง

“หากนอนไม่หลับละก็ ข้าจะเล่นหมากรุกกับเจ้าเอง”

หัวใจของฉู่หลิวเยว่กระตุกวูบ

เมื่อครั้งอดีต ตอนที่นางรู้สึกอารมณ์ไม่ดีหรือไม่สบายใจ ขอเพียงแค่ได้เล่นหมากรุกกับหรงซิว โดยพื้นฐานแล้วนางก็จะรู้สึกดีขึ้นมา

ตั้งแต่นางได้รับความทรงจำกลับคืนมา ความจริงแล้วพวกเขาทั้งสองคนก็ยังไม่เคยเล่นด้วยกันเลยสักครั้งเลย

นางชะงักไปเล็กน้อยและพยักหน้าเบาๆ

“ได้”

พรึ่บ!

ทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน พวกเขาทั้งคู่ยืนห่างกันสิบก้าว

หรงซิวสะบัดแขนเสื้อขึ้น ทันใดนั้นลำแสงสายหนึ่งก็พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา!

วินาทีนั้นเองลำแสงนั้นก็กระจายออกมาเป็นลำแสงสีเงินหลายเส้น ขณะที่อยู่กลางอากาศมันก็ก่อร่างสร้างตัวกลายเป็นกระดานหมากรุกขนาดใหญ่!

หรงซิวไพล่มือข้างหนึ่งไว้ด้านหลัง มุมปากปรากฏรอยยิ้มหลายส่วน

นี่เป็นกฎเริ่มต้นระหว่างพวกเขาทั้งสอง

ในสถานการณ์ทั่วไปที่ไม่ได้มีเงื่อนไขพิเศษ เมื่อเวลาพวกเขาประมือกัน ฉู่หลิวเยว่ก็ล้วนเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

แต่อย่างใดก็ตามฉู่หลิวเยว่ก็เป็นฝ่ายที่แพ้บ่อยกว่า

แต่ทว่า… หรงซิวอ่อนมือให้อย่างใดอย่างนั้น แม้กระทั่งฉู่หลิวเยว่ก็ยังไม่สามารถคาดเดาได้

แสงสว่างจางๆ บนกระดานหมากรุกสะท้อนเข้าที่ใบหน้าของนาง กลายเป็นความงดงามที่ไม่มีใครสามารถเทียบเทียม

ดวงตาดำขลับและสดใสคู่นั้นกลับดูสว่างเจิดจ้าอย่างมาก

ฉู่หลิวเยว่ยกมือขึ้น ในตอนนั้นเองตัวหมากสีชาดก็ถูกวางลงบนกระดาน

พรึ่บ!

หลังจากเสียงที่แผ่วเบานี้ พลังที่อยู่โดยรอบกระดานหมากรุกก็เกิดความผันผวนขึ้น

เมื่อเห็นกำแพงนั้น หัวใจของซั่งกวนจิ้งก็เต้นระรัวขึ้นอย่างรุนแรง!

เขาเคยเห็นกำแพงนี้มาก่อน!

เมื่อพันปีก่อนตอนที่เขามาถึงอาณาจักรเสิ่นซวี่เป็นครั้งแรก เขาก็ได้เห็นกำแพงนี้ได้อย่างบังเอิญ

ตอนนั้นเขาแค่รู้สึกประหลาดใจ ไม่รู้ว่าเหตุใดสุสานสังหารเทพแห่งนี้ถึงมีกำแพงที่ดูไกลสุดลูกหูลูกตาแบบนี้ได้

แต่ท้ายที่สุดแล้วทุกคนต่างก็รู้ดีว่า สงครามเลือดเมื่อหมื่นปีที่แล้วมีความโหดร้ายเป็นอย่างมาก

ผู้แข็งแกร่งระดับเทพจำนวนนับไม่ถ้วนจะต้องมาตายตกพร้อมกัน ซึ่งมันแทบจะทำให้ฟ้าดินผิดหวัง

แต่ทว่าคาดไม่ถึงว่าที่แห่งนี้จะมีกำแพงแบบนี้ด้วย มันช่างน่าประหลาดใจอย่างยิ่ง

น่าเสียดายที่ตอนนั้นเขาเพิ่งโดนหักหลัง เดิมทีจึงไม่มีแก่ใจไปคิดเรื่องอื่น ดังนั้นหลังจากกวาดสายตามองแล้ว เขาก็รีบจากไปที่อื่นอย่างรวดเร็ว

คิดไม่ถึงเลยว่าพันปีต่อมาเขาจะได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง และ… ได้มาเจอกับภาพเหตุการณ์เดิมๆ

รอบข้างไม่มีใครอยู่

มันเงียบเสียจนเขาสามารถได้ยินเสียงหัวใจของตนเอง

ซั่งกวนจิ้งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็สาวเท้าก้าวเข้าไปด้านหน้า!

สุสานสังหารเทพมีขนาดกว้างใหญ่ หากเขาเดาไม่ผิดแล้วละก็ สถานที่แห่งนี้จะต้องอยู่ห่างไกลจากที่ที่เขาจากมาแน่นอน

หากเขาอยากจะไปรวมตัวกับเยว่เออร์อีกครั้ง เกรงว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายดายแล้ว…

แต่ในถิ่นรกร้างว่างเปล่าเช่นนี้ มีเพียงกำแพงเช่นนี้ที่เป็นจุดสังเกตเดียวที่เห็นได้ชัด

ถ้าพวกนางสามารถมองเห็น บางที… ก็จะสามารถเจอกันที่นั่นได้!

ซั่งกวนจิ้งเดินตรงมาด้านหน้า ในขณะเดียวกันก็พยายามสำรวจลมปราณของฉู่หลิวเยว่และหรงซิวไปพร้อมกันด้วย

โชคดีที่ระหว่างการเดินทางเขาไม่พบอุปสรรคใดๆ อีก

แม้ว่าไม่สามารถสัมผัสลมปราณของทั้งสองคนได้ แต่ซั่งกวนจิ้งก็ไม่ย่อท้อ

ด้านหนึ่งฉู่หลิวเยว่มีไพ่ไม้ตายจำนวนมาก และฝีมือการต่อสู้ก็แข็งแกร่ง

และหรงซิวก็อยู่กับนางด้วย เขาสามารถปกป้องนางได้อย่างแน่นอน

หากเป็นก่อนหน้านี้ซั่งกวนจิ้งอาจจะยังมีความรู้สึกกังวลอยู่บ้าง

แต่หลังจากได้เห็นว่าหรงซิวใช้เวลาไม่ถึงสิบวันก็สามารถหลอมอาวุธศักดิ์สิทธิ์แห่งราชาได้แล้ว เขาก็รู้ว่า ก่อนหน้านี้เขาประเมินอีกฝ่ายต่ำเกินไปแล้ว

……….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์