เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1649

……….

เขารู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมาก เลือดลมภายในพลุ่งพล่าน ทันทีที่สิ้นเสียงคำพูดนั้น เขาก็กระอักเลือดออกมาในทันที!

“พี่ใหญ่!”

หนานอีอีรีบถอนสายตากลับมา เมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่ของตนเองนั้นมีใบหน้าซีดเซียวมากยิ่งขึ้น และมุมปากยังมีคราบเลือดสีแดง หัวใจของนางก็รู้สึกปั่นป่วนมากยิ่งขึ้น

“เป็นความผิดของข้าเอง!”

หนานอีอีพูดขึ้น น้ำตาไหลรินอีกครั้ง นางกัดริมฝีปากกรอด ระหว่างริมฝีปากและฟันมีกลิ่นคาวเลือดปรากฏขึ้น

ถ้านางไม่เอาแต่ใจตัวเองเช่นนั้น พี่ใหญ่ก็คงไม่…

“คุณชายใหญ่ ร่างกายของท่านอ่อนแอเป็นอย่างมาก การแก้แค้นไม่ใช่เรื่องรีบร้อน รอให้ท่านหายดีเสียก่อน พวกเราค่อยกลับมาฆ่าเขาอีกครั้งก็ยังไม่สาย”

สีหน้าของผู้อาวุโสอูเผิงไร้อารมณ์ แต่รอบกายปกคลุมด้วยจิตสังหารเข้มข้น

หนานอวี่สิงค่อยๆ เช็ดคราบเลือดที่มุมปากของตนเอง หลังจากจ้องเงาร่างทั้งสองอยู่นาน ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นมาอย่างเคียดแค้นว่า

“ได้! ข้าจะให้พวกมันได้มีชีวิตต่อไปอีกสักหน่อย!”

ไม่ว่าอย่างใดก็ตามตอนนี้พวกเขาก็อยู่ที่สุสานสังหารเทพแล้ว ไม่ว่าอย่างใดก็ตามทั้งสองคนนั้นไม่มีทางหนีจากการควบคุมของพวกเขาไปได้!

ผู้อาวุโสไป๋ถงและหนานอีอีพยุงเขาให้ไปพักผ่อนที่ด้านข้าง อีกทั้งหยิบโอสถออกมาอีกหนึ่งเม็ด แล้วป้อนให้เขาทาน

“นี่คือโอสถหยกบริสุทธิ์เม็ดสุดท้าย หลังจากทานลงไปแล้ว ข้ากับอูเผิงจะโคจรพลังร่วมกัน เพื่อกำจัดสารพิษที่ตกค้าง และทำให้ร่างกายของท่านฟื้นคืนห้าหกส่วน”

ผู้อาวุโสไป๋ถงพูดขึ้น กลางฝ่ามือของเขามีเปลวเพลิงสีส้มปรากฏขึ้นมา!

ตู้ม!

อุณหภูมิความร้อนระอุแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเขาในทันที!

หนานอวี่สิงส่งเสียงคร่ำครวญออกมาหนึ่งเสียง เดิมทีใบหน้าของเขาไร้สี ทันใดนั้นก็เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที!

ในขณะเดียวกันผู้อาวุโสอูเผิงก็เดินไปที่ด้านข้างของเขา ในมือมีเข็มเงินเพิ่มขึ้นมาอีกสองเล่ม

“คุณชายใหญ่อดทนเอาไว้หน่อยนะขอรับ”

ในขณะที่พูดเขาก็เอาเข็มเงินสองเล่มนั้นแทงเข้าไปในนิ้วชี้ทั้งสองข้างของหนานอวี่สิงด้วยความรวดเร็ว!

หลังจากนั้นไม่นาน เลือดสีดำแดงก็ไหลทะลักออกมาจากนิ้วทั้งสองข้างของเขา ไหลมาตามเข็มเงินเล่มนั้น

หนานอวี่สิงหลับตาแน่น ครู่หนึ่งร่างกายก็เย็นยะเยือก อีกครู่หนึ่งร่างกายก็ร้อนผ่าว ทรมานเสียจนทำให้ร่างทั้งร่างของเขาสั่นสะท้าน

หนานอีอีที่ยืนมองอยู่ด้านข้างก็ส่งเสียงสะอึกสะอื้น

เมื่อเห็นว่าพี่ใหญ่มีท่าทางเจ็บปวด นางก็หันกลับไปมองอย่างอดไม่ได้ แววตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความโกรธแค้น!

แค้นนี้… นางจะต้องสะสางให้ได้!

เดิมทีหรงซิวกำลังมองฉู่หลิวเยว่บำเพ็ญเพียรอยู่ แต่ทันใดนั้นก็มีเสียงดังกระทบเข้าที่โสตประสาทของเขา

เขาเหลือบสายตาหันกลับไปมองด้วยความราบเรียบ

อ่า ที่แท้ก็เป็นพวกเขานั่นเอง…

เหมือนกับวิญญาณร้ายตามติดไม่ห่าง

ในดวงตาของหรงซิวมีจิตสังหารปรากฏขึ้นมา จากนั้นก็หายไปอย่างรวดเร็ว

ในตอนนั้น เขาถอนสายตากลับมาแล้วหันกลับไปมองที่ฉู่หลิวเยว่อีกครั้ง

เมื่อเขาสะบัดแขนเสื้อขึ้น ลำแสงสีทองพุ่งผ่านออกไปอย่างรวดเร็ว!

ลำแสงสีทองนั้นบางเป็นอย่างมาก มันถูกซ่อนเอาไว้อยู่บนพื้น หากไม่สังเกตดีๆ ก็จะมองไม่เห็น

หลังจากผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม ในที่สุดเลือดที่ไหลออกจากมือของหนานอวี่สิงก็เปลี่ยนจากสีดำเป็นสีแดงแล้ว

แต่ในตอนนี้เข็มเงินทั้งสองเล่มนั้นกลายเป็นสีดำทั้งแท่งไปแล้ว

ผู้อาวุโสอูเผิงดึงเข็มเงินออก พลังปราณดั้งเดิมบริเวณฝ่ามือพวยพุ่งออกมา เข็มเงินที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง กลายเป็นผุยผงในทันที

ในที่สุดผู้อาวุโสไป๋ถงก็ละมือออกจากแผ่นหลังของหนานอวี่สิง แล้วถอนหายใจออกมายาวๆ

“เอาล่ะ พิษที่อยู่ในร่างกายของคุณชายใหญ่ นับว่าถูกกำจัดหมดจดแล้ว หลังจากนี้ขอเพียงดูแลตนเองให้ดีๆ ภายในสิบวัน จะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้แน่นอน”

ร่างกายของหนานอวี่สิงเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เพราะว่าความเจ็บปวดที่เขาได้รับ ทำให้เขายิ่งดูจนตรอกมากกว่าเดิม

“…สิบวัน…”

เมื่อได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสไป๋ถง เขาก็หลุบสายตาลงต่ำ แล้วค่อยๆ กำหมัดขึ้น

ตั้งแต่ที่เขาทะลวงด่านผู้แข็งแกร่งระดับเทพขั้นสูง เขายังไม่เคยบาดเจ็บสาหัสขนาดนี้มาก่อนเลย!

ทว่าครั้งนี้คาดไม่ถึงว่าเขาจะเป็นคนที่ไม่ทราบแม้แต่ชื่อและฐานะกลั่นแกล้ง!

ผู้อาวุโสอูเผิงเหลือบสายตามองเขา

“หรือท่านลืมแล้วว่าที่นี่คือที่ใด?”

หนานอวี่สิงหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย

ใช่แล้ว ที่นี่คือสุสานกลุ่มของผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์!

หากคนธรรมดาต้องการเข้ามาที่นี่จะเป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างมาก

ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์ หากต้องการมาถึงที่นี่ในระยะเวลาสั้นๆ ก็ไม่มีทางทำได้เลย

แล้วทั้งสองคนนี้ล่ะ?

ประเด็นสำคัญเลยก็คือ เหมือนว่าทั้งสองคนนี้จะไม่ได้รับบาดเจ็บอันใดเลย

“หรือว่า… พวกเขาก็มีวิธีที่สามารถเดินทางมาที่นี่ได้โดยตรง? หรือว่าพวกเขาก็เดินทางมาที่นี่เพื่อตามหาของสิ่งนั้นด้วยเหมือนกัน!”

หนานอวี่สิงหน้าเปลี่ยนสีไปอีกครั้ง

ผู้อาวุโสอูเผิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“เรื่องนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ แต่ว่า… สิ่งที่สามารถมั่นใจได้เลยคือ พวกเขาก็มีความสามารถไม่น้อยเช่นกัน หรือเขาอาจจะพกของวิเศษมา”

ไม่อย่างนั้นแล้วละก็ เดิมทีพวกเขาไม่สามารถเดินทางมาที่นี่ได้อย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนแน่นอน

“แล้วอีกอย่าง ตัวตนของเด็กผู้หญิงคนนั้น ผู้เฒ่าอย่างข้าก็ยังหาต้นสายปลายเหตุไม่ได้”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ คิ้วของผู้อาวุโสอูเผิงก็ขมวดคิ้วแน่นเป็นปม

คำถามนี้กวนใจเขามาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้

เด็กผู้หญิงคนนั้นอายุประมาณสามสี่ขวบ แต่มีพลังในการต่อสู้ที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง

ไม่ต้องโคจรพลังปราณดั้งเดิม ยิ่งไปกว่านั้นโจมตีเพียงหมัดเดียวก็สามารถกระแทกจนหนานอวี่สิงปลิวกระเด็นออกไปได้

อีกทั้งประเด็นสำคัญที่สุด ก่อนหน้านี้เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่เคยได้แสดงตัวมาก่อน แต่ตอนที่คุณชายใหญ่กำลังจะสังหารแม่นางคนนั้น นางก็ปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหัน

นี่จึงเป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาดอย่างมาก

หนานอวี่สิงกัดฟันกรอด

“เด็กผู้หญิงคนนั้น… จะต้องปลอมตัวมาอย่างแน่นอน!”

ในตอนนี้เขายังสามารถจดจำรสชาติของหมัดนั้นได้อย่างชัดเจน!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์