……….
แปะๆ
ชายสวมชุดดำตบมือขึ้น พร้อมพูดด้วยใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
“เป็นฉากที่น่าประทับใจเสียจริง ซั่งกวนเยว่ ตราบใดที่เจ้ามอบของสิ่งนั้นให้แก่ข้า เจ้าก็สามารถพาเขาออกไปได้เลย พ่อลูกสุขสันต์ได้พบกันใหม่ ช่างเป็นเรื่องที่น่ายินดี เจ้าว่าใช่หรือไม่?”
เมื่อได้ยินดังนั้นฉู่หนิงก็ได้สติกลับคืนมา
เขาหันหน้ากลับไปมองทางชายสวมชุดดำผู้นั้นและขมวดคิ้วแน่นขึ้น
คนผู้นี้… การที่อีกฝ่ายพาเขาออกจากดินแดนรกร้าง และนำเขามาขังไว้ที่นี่ ที่แท้ก็เพื่อ… ข่มขู่เยว่เออร์อย่างนั้นหรือ?
“เยว่เออร์ เขาต้องการให้เจ้ามอบสิ่งใด?”
ฉู่หนิงเกาะลูกกรงด้วยมือทั้งสองข้าง พร้อมถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
แม้ว่าร่างกายและจิตวิญญาณของเขาใกล้จะแตกสลายเต็มที แต่หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเยว่เออร์แล้ว เขายังคงรู้สึกตื่นตัวเป็นอย่างมาก
ผู้ชายคนนี้มีฝีมือแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มาก
คนแบบนี้จะต้องการของสิ่งใดกัน?
สิ่งที่สามารถทำให้เขาทุ่มเทมากขนาดนี้… แค่คิดก็รู้แล้วว่า ของที่เขาต้องการนั้น ต้องไม่ใช่ของธรรมดาอย่างแน่นอน!
ถ้าเช่นนั้นก็เป็นไปได้อย่างมากว่า มันจะต้องเป็นของสำคัญอย่างยิ่งของเยว่เออร์!
“เยว่เออร์ เขาต้องการอันใดกันแน่?”
ฉู่หนิงจ้องฉู่หลิวเยว่ตาเขม็ง
“พ่อไม่ต้องการให้เจ้าเสียสละเพื่อพ่อขนาดนั้น เจ้า…”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ
“ท่านพ่อวางใจเถอะ ในเมื่อข้ามาที่นี่แล้ว นั่นหมายความว่าข้าตัดสินใจดีแล้ว สำหรับข้าแล้วไม่มีของสิ่งใดที่สำคัญไปมากกว่าท่าน”
ภายในใจของฉู่หนิงรู้สึกเศร้าใจและเห็นใจ
เขาเป็นคนฉลาด แค่คำตอบของฉู่หลิวเยว่ เขาก็สามารถมั่นใจได้แล้วว่า สิ่งของที่ทำการแลกเปลี่ยนกันนั้นต้องเป็นของวิเศษที่หาได้ยากยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้นยังสำคัญสำหรับนางมากด้วย!
ฉู่หนิงส่ายหน้าแล้วพูดอย่างหนักแน่นว่า
“ไม่… เยว่เออร์ พ่อเป็นลูกธนูที่สุดแรงบินแล้ว เหตุผลที่สามารถอดทนได้ถึงวันนี้ เพียงแค่คิดว่าอยากจะเจอหน้าเจ้าอีกสักครั้ง ในเมื่อตอนนี้ได้เจอแล้ว ในใจของพ่อก็ไม่ได้มีอันใดให้เป็นกังวลอีก…”
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่า เยว่เออร์กับชายคนนั้นได้ทำข้อตกลงอันใดกันไว้
แต่เขาก็สามารถมั่นใจได้เลยว่า เยว่เออร์จะต้องหลีกทางให้แน่นอน
“…ก่อนหน้านี้…พ่อไม่เคยปล่อยให้ลูกได้รับความอยุติธรรมเลย…ตอนนี้…ก็เหมือนกัน…”
ฉู่หนิงมองฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาลึกล้ำ น้ำเสียงอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
มันก็เป็นเพียงเรื่องของความตายเท่านั้น
เขาไม่อยากทำให้เยว่เออร์ต้องรู้สึกกดดันและเจ็บปวดโดยมีเขาเป็นสาเหตุ
“พ่อ…ทำอันใดเพื่อเจ้าได้ไม่มาก…แค่กๆ …มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถทำได้ นั่นคือไม่เป็นภาระของเจ้า…แค่กๆ …”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
“ท่านพ่อ พวกเราเป็นพ่อลูกกัน เดิมทีแล้วก็สามารถเชื่อมโยงด้วยสายเลือด เรื่องนี้จะนับว่าเป็นภาระได้อย่างใด? การที่ช่วยท่านกลับไปนั้นถือเป็นสิ่งที่ข้าควรจะทำ…”
นางยังพูดไม่ทันจบ
ฉู่หนิงก็จ้องมองอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็ยิ้มออกมา
แววตานี้ รอยยิ้มนี้ ได้แทนคำพูดเป็นพันเป็นหมื่นคำ
เขาพูดว่า
เหมือนกับมีอันใดบางอย่างมากระแทกหัวใจของฉู่หลิวเยว่อย่างรุนแรง!
นางเม้มริมฝีปากแน่น
ความจริง…
เขาควรจะคิดได้ตั้งนานแล้ว
ตั้งแต่นางจากแคว้นเย่าเฉินมา กลับไปยังเทียนลิ่ง แล้วยังมาถึงอาณาจักรเสิ่นซวี่…
ภายในเวลาที่ยาวนานขนาดนี้ อีกทั้งยังมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย
เขาจะไม่รู้อันใดเลยได้อย่างใด?
นางสามารถยอมรับต่อหน้าทุกคนว่านางคือซั่งกวนเยว่
แต่เมื่ออยู่กับฉู่หนิงเท่านั้นที่นางยังทำตัวเป็นฉู่หลิวเยว่โดยไม่รู้ตัว
“… เยว่เออร์เกิดมาก็เป็นคนขี้ขลาดขี้อาย แล้วเหตุใดถึงเปลี่ยนแปลงไปได้มากขนาดนั้น ราวกับกลายเป็นคนละคน?”
“ต่อให้ใบหน้าและร่างกายยังเหมือนเดิมทุกประการ ความทรงจำก็ไม่ผิดเพี้ยน แต่…”
ไม่มีใครรู้จักลูกสาวดีไปมากกว่าพ่ออีกแล้ว
ฉู่หนิงหลับตาลงเบาๆ
แน่นอนว่าเขารู้เรื่องนี้มาตั้งนานแล้ว
ต่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกต้อง แต่ก็มีเรื่องบางอย่างที่เขาสามารถสัมผัสได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...