……….
ขณะที่พูดเขาก็โบกมืออีกข้างหนึ่งขึ้น
ทันใดนั้นเองกรงขังสีดำก็สลายกลายเป็นประกายแสงสีดำจำนวนนับไม่ถ้วน ก่อนจะกระจายไปบริเวณโดยรอบ!
พันธนาการที่คุมขังร่างกายของฉู่หนิงนั้นจางหายไปในทันที ร่างกายของเขาล้มลงไปด้านข้างอย่างไม่สามารถควบคุมได้
ในขณะเดียวกันนั้นเอง พลังที่อบอุ่นสายหนึ่งลอยเข้ามาแล้วพยุงร่างของเขาอย่างแผ่วเบา
จากนั้นฉู่หนิงก็สามารถสัมผัสได้ว่าโดยรอบร่างกายของเขาถูกพลังเหล่านี้โอบอุ้ม พร้อมส่งตัวเขาออกไปด้านข้าง
เขาต้องแยกตัวออกไป แต่หางตาก็เหลือบไปเห็นหรงซิวที่ยืนอยู่ด้านข้าง
ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจได้ในทันที ‘นี่น่าจะเป็นฝีมือของหรงซิว!’
และเป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังจากนั้นไม่นานร่างกายของเขาถูกพลังนั้นพยุงไปหยุดที่ข้างกายของหรงซิว
“ใต้เท้าฉู่หนิง”
หรงซิวยื่นมือออกมาแล้วพยุงตัวของเขาเอาไว้
ฉู่หนิงมองใบหน้าที่คุ้นเคยนี้
“หลีอ๋อง…ไม่ใช่สิ ฐานะของฝ่าบาทในตอนนี้ น่าจะเป็น…โอรสสวรรค์?”
เรื่องราวเกี่ยวกับหรงซิวเขาก็รู้ไม่ค่อยมากนัก แต่เคยได้ยินเรื่องเหล่านี้มาหมดแล้ว
มุมปากของหรงซิวโค้งขึ้นเล็กน้อย
“ข้ากับเยว่เออร์หมั้นหมายกันตั้งนานแล้ว ท่านเรียกข้าว่าหรงซิวก็เพียงพอแล้ว”
ได้ยินคำว่า “เยว่เออร์” สองคำ ฉู่หนิงก็มีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมาในทันที และรีบคว้าข้อมือของหรงซิวเอาไว้แน่น
“ใช่แล้ว! เยว่เออร์! ต้องรีบไปช่วยเยว่เออร์!”
หากของสิ่งนั้นถูกผู้ชายคนนั้นแย่งชิงไป เช่นนั้น…
หวีด!
ทันใดนั้นเองเสียงหวีดแหลมก็ดังขึ้นแหวกอากาศมา!
ฉู่หนิงตกใจสะดุ้งเฮือก และรีบหันกลับไปมอง
ตอนที่ได้เห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้า ในแววตาของเขาก็มีความตกใจและลังเลพาดผ่านอย่างรวดเร็ว!
เพราะว่าภาพมายาที่กลายเป็นประกายแสงสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนเมื่อครู่นี้ ในตอนนี้ได้กลายเป็นเสาสีแดงดำที่ส่องประกายแล้วพุ่งตัวไปที่รอบกายของฉู่หลิวเยว่!
ภายในชั่วพริบตาเดียวกรงขังที่แข็งแรงก็ก่อร่างขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมคุมขังร่างของฉู่หลิวเยว่เอาไว้อย่างสมบูรณ์!
“เยว่เออร์!”
ฉู่หนิงตกใจระคนโมโห เขาหันมองทางชายชุดดำคนนั้นด้วยความโกรธ
“เจ้า…มันต่ำช้า!”
ชายสวมชุดคลุมสีดำคนนั้นกลับหัวเราะขึ้นมาเสียงต่ำ
“เจ้าคือเจ้าของของสิ่งนี้ หากข้าจะไม่พาตัวเจ้าไปด้วยจะได้อย่างใด?”
เขาต้องการทำให้ของสิ่งนี้กลายเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์
ถ้าเช่นนั้นแม้กระทั่งซั่งกวนเยว่ก็ต้องจัดการให้หมดจด!
ฉู่หลิวเยว่จ้องเขาตาเขม็ง ทันใดนั้นริมฝีปากแดงก็ยกยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา
“เมื่อพูดเช่นนี้แล้ว เจ้าตั้งใจจะไม่ปล่อยข้าไปอย่างนั้นหรือ?”
“ของสิ่งนี้ยอมรับเจ้าเป็นนายแล้ว ต่อให้ข้าเอามันไปทั้งอย่างนี้ แต่มันไม่เชื่อฟังข้า แบบนี้มันจะมีประโยชน์อันใดเล่า?”
ชายสวมชุดดำคนนั้นยกมือขึ้นแล้วคว้าความว่างเปล่า
ในตอนนั้นเองเสาสีดำแดงที่อยู่รอบกายฉู่หลิวเยว่แผ่กระจายแรงกดดันที่น่าตกใจออกมา!
พื้นที่รอบกายของนางเริ่มหดเล็กลงอย่างบ้าคลั่งและบีบเข้าหานางเรื่อยๆ!
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกแน่นหน้าอกเป็นอย่างมาก มุมปากมีคราบเลือดไหลออกมา
“น่าเสียดายมาก ที่ข้ารู้จักแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะแก้ไขปัญหาได้ นั่นก็คือ…การสังหารเจ้า! แน่นอนว่า หากเจ้ารู้จักวิธีอื่นๆ ก็พูดออกมาได้เลย บางที…ข้าอาจจะรับเอาไว้พิจารณา?”
น้ำเสียงของชายสวมชุดสีดำนั้นดูถูกดูแคลนอย่างมาก ราวกับความคิดเห็นหนึ่งสามารถตัดสินความเป็นความตายของฉู่หลิวเยว่ได้
เลือดลมภายในร่างกายของฉู่หนิงพลุ่งพล่าน และก้าวเดินไปด้านหน้าอย่างไม่สนใจสิ่งใด!
หรงซิวคว้าแขนของเขาเอาไว้
“ใต้เท้าฉู่หนิง อันตราย”
ฉู่หนิงหันกลับไปมองด้วยความรีบร้อน เหมือนกับต้องการจะพูดอันใดบางอย่าง แต่ในตอนนั้นเขาก็สบสายตาที่ล้ำลึกและราบเรียบของหรงซิว
เขาชะงักไปเล็กน้อย
หรงซิวปฏิบัติต่อเยว่เออร์อย่างใด เรื่องนี้เขาทราบเป็นอย่างดี
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ เหมือนกับเขา…ไม่ได้กังวลเลยแม้แต่น้อย?
หรือว่า…เขาจะมีไพ่ไม้ตายอื่นอีก หรือว่าบางทีเยว่เออร์อาจจะมีแผนอื่นซ่อนอยู่
ริมฝีปากบางของหรงซิวยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“เยว่เออร์จะกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน ท่านไม่ต้องเป็นกังวล”
ทันทีที่สิ้นเสียง จากนั้นเขาก็ได้ยินชายสวมชุดดำผู้นั้นหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างประชดประชัน
“ฮ่าๆ! น่าขำ! ซั่งกวนเยว่ของสิ่งนี้เหมือนกับเป็นหยวนตันของเจ้า ในเมื่อตอนนี้แยกออกมาจากร่างของเจ้าแล้ว เจ้ามันก็เป็นแค่ขยะชิ้นหนึ่ง ไม่มีความสามารถในการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย! แล้วเจ้าจะเอาอันใดมาสู้กับข้า!”
คนเหล่านี้ยังคงไร้เดียงสาเกินไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...