ความเงียบเข้าปกคลุม
เสียงของเถาวัลย์ที่ถูกเผาไหม้อย่างต่อเนื่องชัดเจนมากเป็นพิเศษ
ชายสวมชุดสีดำผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าว กระชับกระบองจรัสฟ้าในมือแน่น กระบองปักลงที่พื้น มือข้างหนึ่งกุมหัวใจของตนเองเอาไว้ แล้วทรุดตัวลงเล็กน้อย เหมือนกับเขากำลังได้รับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส
เพื่อการโจมตีครั้งนี้ เขาแทบจะโคจรพลังทั้งหมดในร่างกาย!
แต่ตอนนี้กลับถูกถวนจื่อเผาไปจนหมดสิ้น เขาจึงได้รับแรงสะท้อนกลับอย่างรุนแรงเป็นพิเศษ!
เขาจะสามารถทนรับมันได้อย่างไร?
หากเรื่องราวในครั้งนี้จบลง แล้วเขาไม่ได้รับการพักรักษาเป็นเวลาครึ่งปี เขาไม่สามารถฟื้นตัวกลับคืนมาได้อย่างแน่นอน!
“ดี…ดีมาก!”
เขากัดฟันกรอด น้ำเสียงเล็ดรอดออกมาจากซอกฟัน แฝงด้วยความโกรธและเคียดแค้นที่ปิดบังไม่มิด!
“ซั่งกวนเยว่เจ้ายอดเยี่ยมมาก! ข้าดูเบาเจ้าเกินไปจริงๆ”
เขาคิดว่า หากเขาพาตัวนางมาที่นี่ เขาจะสามารถสำแดงพลังทั้งหมดที่และจัดการนางได้อย่างง่ายดาย
แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่า ซั่งกวนเยว่จะเป็นเหล็กแกร่งเช่นนี้!
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนางแข็งแกร่งขึ้นกว่าครั้งที่แล้วที่เคยเจอกัน แต่ไพ่ไม้ตายของนางก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย!
โชคชะตาเช่นนี้ มันฝ่าฝืนลิขิตสวรรค์เกินไปจริงๆ
หากยังคงยืดเยื้อต่อไป…
ใครแพ้ใครชนะก็ยากจะคาดเดา!
ฉู่หลิวเยว่ไม่สนใจเขาอีกต่อไป เพียงแค่จ้องไปที่ค่ายกลที่อยู่ตรงหน้าตาเขม็ง
ถวนจื่อยืนอยู่ตรงหน้าของนาง สองมือเท้าสะเอว
“เจ้าคิดร้ายกับอาเยว่ของพวกเรามาหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรือ? ครั้งนี้ยังจับคุณปู่ฉู่มาเป็นตัวประกันอีกด้วย จากนั้นเจ้าก็บีบบังคับให้อาเยว่มาที่นี่ ถุ้ย! ผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์อันใดกัน ข้าว่าเจ้ามันก็แค่อันธพาลขี้ขลาด ไร้ยางอายคนหนึ่งเท่านั้น!”
“เรื่องเลวร้ายมากมายเจ้าก็ทำมาแล้ว แต่กลับไม่กล้าเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริง อ่า จริงสิ ข้าเกือบลืมไปเลย เดิมทีเจ้าน่าจะไม่มีใบหน้าสินะ!”
“คิดจะรังแกอาเยว่ของพวกเรา…เจ้าเคยถามข้าหรือยังว่าข้ายินยอมหรือไม่!”
ปากเล็กๆ ของพ่นคำพูดออกมาต่อเนื่องราวกับประทัด นางด่าอีกฝ่ายอยู่สักพักโดยคำไม่ซ้ำกันเลย
ชายสวมชุดดำได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกเลือดลมพลุ่งพล่าน แทบอยากจะสังหารนางในทันที เพื่อให้นางได้หุบปากตลอดกาล!
“เจ้า!”
“เจ้า! แม้กระทั่งจะสู้กับข้ายังทำไม่ได้ แต่ยังคิดจะไปสู้กับอาเยว่ ถุ้ย! ดูตัวเองก่อนสิว่าเจ้าเหมาะสมหรือไม่!”
“เจ้า!”
อีกทั้งดูเหมือนว่าถวนจื่อจะอายุยังน้อย แต่ฝีปากกลับเผ็ดร้อนเป็นอย่างมาก
“ถวนจื่อ…ถวนจื่อผู้นี้เฉลียวฉลาดและแข็งแกร่งมาก…”
ฉู่หนิงครุ่นคิดอยู่นาน แต่ก็มีเพียงคำนี้ที่สามารถแสดงออกอย่างสละสลวยเท่านั้น
มุมปากของหรงซิวมีรอยยิ้มกดลึกขึ้น
“นางคือคนที่เยว่เอ๋อร์พามา ดังนั้นจะต้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว”
ในตอนนี้ชายสวมชุดสีดำอยู่ในภาวะโกรธจนเป็นบ้าไปแล้ว
เขาโจมตีสองครั้งติดต่อกัน แต่ไม่สามารถสัมผัสได้ถึงร่างกายของซั่งกวนเยว่เลย!
หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป ไม่รู้ว่าจะต้องมีอีกสักกี่คนที่หัวเราะจนฟันหลุดร่วง!
“ดี! ในเมื่อเจ้ากำเริบเสิบสานเช่นนี้ อย่างนั้นเจ้าก็รับกระบวนท่าที่สามของข้าไปชิม!”
ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยมือจากกระบองจรัสฟ้า สองมือประสานกันไว้ที่ด้านหน้า
“กระบองจรัสฟ้าระดับที่สาม…กลับสวรรค์!”
บนกระบองไม้สีดำมีอักขระยันต์ตัวที่สามปรากฏขึ้นมาอย่างเชื่องช้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...