ม่อเหลียงคิดว่าเขามีอาการประสาทหลอน แต่เมื่อดูจากท่าทางของชุยเหยา ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ล้อเล่น
เขาเหม่อลอยไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพึมพำถามอย่างอดมิได้ “เป็นไปได้อย่างไร…มันเป็นไปได้อย่างไร”
ชุยเหยาไม่ต้องการพูดอีกแม้แต่คำเดียว
เหตุใดเขาจะไม่ตกใจเล่า
เขาเองก็ยังอยากจะถามว่าได้อย่างไรกัน!
เมื่อตอนที่เขายื่นรายการให้อาจารย์จั่วหรง อาจารย์ขมวดคิ้วมุ่นและอ่านดูอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่ออ่านเสร็จแล้ว คิ้วของเขาก็คลายปมออก จากนั้นดวงตาของเขาก็ฉายแววตื่นเต้น!
หลังจากนั้นเขาวางธุระที่กำลังยุ่งๆ ในมือลงทันที แล้วไปเตรียมยาด้วยตนเอง
ชุยเหยารู้สึกอึดอัดใจเมื่อนึกถึงรอยยิ้มที่ปิดไม่มิดของอาจารย์จั่วหรงตอนที่ท่านออกไปหยิบยา
อาจารย์จั่วหรงเป็นคนที่เข้มงวดมาโดยตลอด แม้กระทั่งรายการยาของนักเรียนหมอเทวดาด้วยกัน บางครั้งเขาก็ไม่อนุญาตให้ผ่าน
แต่นี่ฉู่หลิวเยว่…นั่นนางเขียนรายการยาไปตั้งสามแผ่นไม้เถาวัลย์ดำศักดิ์สิทธิ์เต็มๆ ถึงสามแผ่นเชียวนะ!
นางมีสิทธิ์อะไรกันแน่!
“ขอบใจศิษย์พี่มาก เช่นนั้นข้ารออยู่ตรงนี้ก่อนนะ”
ฉู่หลิวเยว่กล่าวพร้อมกับยิ้มตาหยี
ชุยเหยาละสายตาไปจากนาง ตาไม่เห็นนับว่าสะอาด
ม่อเหลียงอยากจะถามอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นว่าท่าทางของชุยเหยาดูผิดปกติ เขาจึงทำได้เพียงกลืนคำพูดที่เหลือไปเท่านั้น
บรรยากาศเข้าสู่ความเงียบแสนอึดอัด
…
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดประตูหอโอสถสวรรค์ก็เปิดอีกครั้ง
ชายวัยกลางคนร่างท้วมผู้หนึ่งเดินออกมาอย่างรวดเร็ว
ทันทีที่เขาเห็นฉู่หลิวเยว่ยืนอยู่หน้าประตู ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย
“เจ้าคือฉู่หลิวเยว่ใช่หรือไม่”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“ศิษย์คารวะอาจารย์จั่วหรงเจ้าค่ะ”
จั่วหรงหัวเราะร่วน ก่อนจะเขย่าถุงสีทองในมือ
“ไม่ต้องมากพิธีหรอก! สิ่งของที่เจ้าต้องการอยู่ในนี้หมดแล้ว!”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“ถุงเฉียนคุน?”
“เจ้ารู้จักสิ่งนี้ด้วยหรือ”
จั่วหรงคิดไม่ถึงเลยว่าเพียงแค่มองปราดเดียวฉู่หลิวเยว่ก็รู้จักถุงเฉียนคุนนี่แล้ว แต่เมื่อคิดๆ ดูแล้ว นางเคยเป็นถึงคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลฉู่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นางจะรู้เรื่องนี้
“ถูกต้อง นี่คือถุงเฉียนคุน! สิ่งของที่เจ้าต้องการมีมากเกินไป เพื่อความสะดวก ข้าจึงบรรจุทุกอย่างเอาไว้ในถุงนี้แล้ว! หลังจากที่เจ้ากลับไปแล้วก็หยิบของข้างในออกมาแล้วค่อยนำถุงเฉียนคุนมาคืนก็แล้วกัน!”
จั่วหรงกล่าวด้วยสีหน้าภูมิใจ ในขณะที่พวกม่อเหลียงสองคนที่อยู่ข้างๆ กำลังตกตะลึงจนตาแทบถลนออกจากเบ้า
…เหตุใดอาจารย์จั่วหรงถึงได้ใจดีกับฉู่หลิวเยว่ขนาดนี้!
ถุงเฉียนคุนนั้นมีราคาแพงมาก และไม่มีราคาตลาด แม้กระทั่งอาจารย์ในสำนักก็ไม่แน่ว่าจะมีในครอบครอง
เพราะว่าอาจารย์จั่วหรงเคยช่วยชีวิตบุคคลชั้นสูงมาก่อน ดังนั้นได้ถุงเฉียนคุนใบนี้มาเป็นสิ่งตอบแทน และตอนนั้นยังทำให้ใครหลายคนต้องนึกอิจฉาเขา!
ปกติพวกเขาอยากจะเชยชมยังยากเลย แต่ตอนนี้คิดไม่ถึงเลยว่าอาจารย์จั่วหรงจะให้ฉู่หลิวเยว่ยืมไปใช้อย่างง่ายดายเช่นนี้!
ฉู่หลิวเยว่เองก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกัน
หากย้อนกลับไปในอดีตชาติ ถุงเฉียนคุนไม่ได้มีค่าอะไรสำหรับนาง ทว่าในแคว้นเย่าเฉินน่าจะมีของสิ่งนี้ไม่มากนัก
แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่อาจารย์จั่วหรงได้เจอนาง การปฏิบัติเช่นนี้ก็ถือว่าเอาใจใส่มากเกินไปแล้ว
รอยยิ้มบนใบหน้าของนางกว้างขึ้น นางเดินไปข้างหน้าแล้วยื่นมือทั้งสองข้างรับถุงเฉียนคุนมาไว้ ก่อนจะเอ่ยว่า
“ขอบคุณท่านอาจารย์จั่วหรง ศิษย์จะนำมาคืนโดยเร็วที่สุดเจ้าค่ะ”
อ้อยเข้าปากช้างแล้ว เหตุใดจะไม่รับไว้เล่า
“ไม่ต้องรีบก็ได้ แต่ว่าข้ามีคำถามที่อยากถามเจ้าสักหน่อย เจ้าต้องตอบข้ามาตามตรงนะ!”
เมื่อฉู่หลิวเยว่เห็นสีหน้าของเขา นางก็พอจะเดาได้ว่าเขาต้องการถามเรื่องอะไร นางจึงพยักหน้าเบาๆ
“อาจารย์ถามได้เลยเจ้าค่ะ ถ้าศิษย์รู้ศิษย์จะตอบเจ้าค่ะ”
“ใบสั่งยานี้ศิษย์รู้โดยบังเอิญเจ้าค่ะ แต่ก็จำได้เลือนราง ตอนนี้ไม่มีหนทางอื่นแล้ว ศิษย์จึงอยากลองพยายามดูสักครั้งเจ้าค่ะ”
เมื่อฉู่หลิวเยว่พูดเช่นนี้ จั่วหรงก็เผยสีหน้าผิดหวัง
“ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ข้ายังแอบคิดว่า…”
เขายังคิดว่าฉู่หลิวเยว่เป็นผู้คิดใบสั่งยานี้ขึ้นมาเองเสียอีก
แต่เมื่อพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว เขาก็รู้สึกว่าความคิดนี้ช่างไร้สาระมาก
อาจารย์ในสำนักมีมากมายขนาดนี้ยังหาวิธีไม่ได้ แต่ฉู่หลิวเยว่เป็นเพียงแค่ศิษย์คนหนึ่งเท่านั้น แต่กลับออกใบสั่งยานี้ได้หรือ
แม้แต่กระทั่งหัวหน้าสำนักยังทำไม่ได้เลย!
ความตื่นเต้นในหัวใจของเขาค่อยๆ ลดลง แต่เขาก็ยังรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ฉู่หลิวเยว่มีวิธีช่วยเลี่ยวจงซู
“เจ้ากลับไปก่อนเถิด ประเดี๋ยวค่ำๆ ข้าและอาจารย์ท่านอื่นจะไปดูด้วยตัวเองอีกที”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“เช่นนั้นศิษย์ขอตัวลาก่อนเจ้าค่ะ”
หลังจากที่นางพูดจบก็หยิบถุงเฉียนคุนแล้วหันหลังเดินจากไป
จั่วหรงหันมามองสองคนนั้นที่อยู่ข้างหลัง
“ต่อไปถ้าหากแม่นางน้อยผู้นี้มาขอเบิกยาอีก ก็ปล่อยให้นางมาเอาก็พอ เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ อย่าให้เกิดขึ้นอีกเป็นครั้งที่สอง รู้หรือไม่”
เมื่อชุยเหยาและม่อเหลียงได้ยินก็เกิดความรู้สึกมึนงง พวกเขาก็รู้สึกเหมือนกัน ดูเหมือนว่าฉู่หลิวเยว่จะมีพรสวรรค์ด้านหมอเทวดาจริง ที่สำคัญอาจารย์จั่วหรงก็เอ็นดูนางเป็นพิเศษ ตอนนี้พวกเขายังจะกล้าพูดอะไรได้อีกเล่า ดังนั้นจึงทำได้เพียงรับปากอาจารย์พัลวัน
“ขอรับๆๆ ศิษย์จะจำให้ขึ้นใจขอรับ!”
จั่วหรงเห็นว่าทั้งสองมีสีหน้ามิใครเต็มใจนัก เขาก็ได้แต่ลอบส่ายหน้าในใจ แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจังเคร่งขรึม
“อย่าคิดว่าถ้าพวกเจ้ามีพรสวรรค์ด้านหมอเทวดาแล้วก็จะเหนือกว่าคนอื่น เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้า!”
ในที่สุดม่อเหลียงก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า “อาจารย์จั่วหรง ท่านหมายความว่า…พรสวรรค์ของฉู่หลิวเยว่ดีกว่าพวกเราอย่างั้นหรือ”
จั่วหรงมองทั้งสองด้วยความสงสาร
“นางอ่อนน้อมถ่อมตน พวกเจ้ายังคิดว่านางไม่มีความสามารถ ต่อไปไม่ต้องพูดถึงเรื่องโง่เขลาเช่นนี้อีก มันน่าขัน รู้หรือไม่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...