เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1671

……….

ในที่สุดคำพูดประโยคนี้ก็ทำให้ชายคนนี้มีปฏิกิริยาตอบสนองขึ้นมาแล้ว!

เขาหันมองทางหรงซิวด้วยสายตาประหลาดใจและไม่มั่นใจ

“เจ้ารู้อันใดมา?”

ในน้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความตื่นตระหนกและหวาดกลัวหลายส่วน

เห็นได้ชัดว่าเขาหวาดกลัวคนที่ชื่อ “มั่วสือเชียน” ที่หลุดออกมาจากปากของหรงซิวเป็นอย่างมาก

เมื่อเห็นปฏิกิริยาตอบรับของเขาเช่นนั้น ฉู่หลิวเยว่จึงถามอย่างสงสัยว่า

“มั่วสือเชียน…เหตุใดชื่อนี้ถึงฟังแล้วดูคุ้นหูล่ะ?”

หรงซิวเลิกคิ้วขึ้น

“หัวหน้าของถ้ำปีศาจทมิฬ ในขณะเดียวกันก็เป็นอดีตนายท่านของเขา”

ฉู่หลิวเยว่เข้าใจขึ้นมาในทันที!

มิน่าล่ะ!

นางเคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนหน้านี้จริงๆ!

เพียงแต่เมื่อเวลาหลายปีผ่านไป นางสูญเสียความทรงจำไปเป็นเวลานาน ดังนั้นจึงคิดไม่ออกในทันที

เมื่อหรงซิวพูดขึ้นเช่นนั้น นางถึงนึกขึ้นมาได้

สีหน้าของชายสวมชุดคลุมสีดำย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม

เขาจ้องไปที่หรงซิวตาเขม็ง เพราะกลัวว่าเขาจะพูดเรื่องราวที่น่าตกใจขึ้นมาอีกครั้ง

แต่หลังจากที่หรงซิวถามคำถามนี้จบ เขาก็ไม่ได้สนใจอีกฝ่ายอีก แต่เขากลับเดินเข้าไปหาฉู่หลิวเยว่แล้วกุมมือของนางไว้

พลังอันอบอุ่นสายหนึ่งถ่ายเทเข้าสู่ร่างกายของนางอย่างรวดเร็ว เขาค่อยๆ จัดการพลังปราณดั้งเดิมที่บ้าคลั่งรอบกายของนาง ในขณะเดียวกันก็รักษาบาดแผลให้อย่างอ่อนโยน

“มีข้าอยู่ เจ้าไม่จำเป็นต้องฝืนเช่นนี้”

น้ำเสียงของหรงซิวทุ้มต่ำและอ่อนโยน

ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ก่อนหน้านี้นางฝืนกำลังไปมากจริงๆ

หลังจากการต่อสู้ที่ดุเดือดจบลง พละกำลังของนางก็หมดลง ต่อให้มีพลังภายนอกเป็นตัวช่วย แต่ร่างกายของนางก็ยังได้รับความเจ็บปวดทรมานไม่น้อยเช่นกัน

เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้จิตวิญญาณของนางตึงเครียด และไม่กล้าเปิดเผยออกมาแม้แต่ครึ่งส่วน

จนกระทั่งในตอนนี้ เมื่อได้ยินเสียงของหรงซิวที่ดังอยู่ข้างหู นางก็สัมผัสได้ถึงพลังและความร้อนที่อยู่กลางฝ่ามือของเขา ในที่สุดตอนนี้นางก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว

“สู้สนุกหรือไม่?”

หรงซิวหลุบสายตามองหน้านาง แล้วถามขึ้น

ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สายตาทั้งสี่ประสาน

คำบางคำไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด ใช้แค่สายตาก็เพียงพอแล้ว

มุมปากของนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม จากนั้นนางก็พยักหน้า

“อื้อ!”

ความทุกข์ทรมานที่นางได้รับก่อนหน้านี้ ตอนนี้ถือว่าได้ส่งคืนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้ว

นางอดทนมาเป็นเวลาหลายปี ในที่สุดก็ได้ระบายออกแล้ว

รู้สึกดีมาก!

เมื่อเห็นท่าทางมีความสุขของนาง ริมฝีปากของหรงซิวก็ยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย

“เช่นนั้นก็ดีแล้ว ต่อไปยกให้เป็นหน้าที่ของข้าเองนะ?”

ฉู่หลิวเยว่ใบหน้าแดงซ่านขึ้นเล็กน้อย ความอ่อนโยนพุ่งขึ้นจากก้นบึ้งของหัวใจ แผ่กระจายเข้าไปสู่แขนขาทั้งสี่ ทำให้ร่างกายทั้งร่างของนางรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา

บางทีคนอื่นอาจจะรู้สึกแปลกใจ ตั้งแต่ต้นจนจบหรงซิวไม่ได้ลงมือเลยแม้แต่น้อย

แต่นางรู้ดีว่า นั่นคือความตั้งใจของเขา

ผู้ชายคนนี้พัวพันกับนางมาหลายปี และในตอนนี้นางก็สามารถชำระบุญคุณความแค้นทั้งหมดได้แล้ว

ท้ายที่สุดแล้วแค้นนี้นางจะต้องส่งคืนกลับไปด้วยตนเองถึงจะเป็นการดีที่สุด!

หรงซิวกำลังยืนอยู่สถานการณ์ทั้งหมดอยู่ด้านข้าง และ…น่าจะรอจนเหนื่อแล้ว?

ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าเบาๆ แล้วพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า

แทนที่ด้วยจิตวิญญาณแห่งผู้กล้าที่ทำให้ผู้คนยอมรับ

อีกทั้งบนร่างกายของนางยังมีรัศมีแห่งความสง่างามสูงส่งที่ไม่อาจอธิบายได้ด้วย

รัศมีของนางส่องประกายออกมาจากในกระดูก ขอเพียงแค่นางยืนอยู่ตรงนั้น ก็ทำให้ผู้คนยอมจำนนอย่างไม่รู้ตัว

ฉู่หนิงมองนางตาไม่กะพริบ

เห็นได้ชัดว่าเขารู้สึกคุ้นเคยอย่างมาก แต่…มันไม่เหมือนกับคนที่อยู่ในความทรงจำ

เมื่อเห็นสีหน้าตื่นเต้นดีใจ แต่กลับไม่กล้าก้าวเดินขึ้นมาด้านหน้า ดวงตาของฉู่หลิวเยว่ก็แดงก่ำขึ้นมาในทันที

“ท่านพ่อ เยว่เอ๋อร์ทำให้ท่านลำบากแล้ว”

เมื่อเห็นว่าในดวงตาของนางมีหยาดน้ำตา ความคิดวุ่นวายสับสนที่อยู่ภายในใจของฉู่หนิงก็ลอยหายไปในกลีบเมฆทันที เหลือเพียงความเจ็บปวดใจเท่านั้น

เขายื่นมือออกไปช่วยนางเช็ดน้ำตา

“ไม่เลย เยว่เอ๋อร์ของพวกเราดีที่สุด! อย่าร้องนะ เยว่เอ๋อร์ ไม่ต้องร้องไห้ พ่อปวดใจไปหมดแล้ว”

ความจริงแล้ว น้อยครั้งมากที่ฉู่หลิวเยว่จะร้องไห้ แม้ว่าดวงตาจะแดงก่ำ แต่นางก็อดทนเอาไว้

แต่เมื่อได้ยินเสียงนี้ นางก็กลั้นมันเอาไว้ไม่อยู่ น้ำตาจึงไหลรินลงมา

แต่หลังจากนั้นไม่นานนางก็รีบกลั้นน้ำตาของตนเองเอาไว้

หากยังมีชีวิตอยู่ก็ยังสามารถได้พบกันอีก นี่ถือว่าเป็นพรของมนุษย์แล้ว

ยังไม่ทันได้มีความสุข อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องอื่นเลย?

และในที่สุดครั้งนี้พวกเขาก็ทำลายอุปสรรคภายในใจที่มองไม่เห็นระหว่างพวกเขาทั้งสองคนลงแล้ว

ถวนจื่อดึงชายเสื้อของฉู่หลิวเยว่ พร้อมเงยหน้าขึ้นมองนาง จากนั้นก็หันไปมองทางฉู่หนิง ปากเล็กๆ ก็แย้มเป็นรอยยิ้มขึ้นมา

ส่วนทางด้านข้างนั้น หรงซิวกำลังยืนอยู่ตรงหน้าของชายสวมชุดคลุมสีดำนั้น

ชายคนนั้นมีความตื่นตระหนกมากขึ้นเรื่อยๆ

หรงซิวเลิกคิ้วกระบี่ขึ้น พร้อมพูดด้วยรอยยิ้มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

“หากเขารู้ว่า เจ้ากำลังแย่งของสิ่งนั้นกับเขาอยู่ เจ้าคิดว่าเขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไรหรือ?”

……….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์