เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1674

……….

ประโยคนี้ของนางยืนยันซ้ำถึงข้อคาดเดาในใจของพวกผู้อาวุโสอูเผิงอย่างไม่ต้องสงสัย

พวกเขามองหน้ากันไปมาด้วยไม่รู้ว่าควรทำอย่างใดดี สีหน้าเองก็นับว่าย่ำแย่นัก

แม้นการกลับมาคราวนี้ของพวกเขาจะเป็นเพราะเรื่องอื่น หากแต่ยามมองเห็นพวกหรงซิวยืนอยู่ได้อย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน ในใจเองพลันรู้สึกไม่สบอารมณ์เช่นกัน

นอกเหนือจากความตกใจแล้ว ในใจของพวกเขาเปี่ยมด้วยความฉงนยิ่งกว่า

บุรุษชุดดำผู้นั้นเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์เทียวหนา!

การจัดการกับพวกเขาก็เหมือนกับปอกกล้วยเข้าปากมิใช่หรือ?

ระหว่างนั้นมันเกิดเรื่องอันใดขึ้น สถานการณ์ถึงได้เปลี่ยนมาเป็นเช่นนี้ได้?

ไม่เข้าใจ

พวกเขาไม่เข้าใจกันจริงๆ!

“เจ้า…”

ยามหนานอีอีเห็นหน้าฉู่หลิวเยว่ก็ไม่สบอารมณ์อยู่แล้ว บัดนี้ได้ยินคำพูดเช่นนี้ใจจึงทวีความกราดเกรี้ยวขึ้นไปอีก

หากแต่ยังมิทันได้พูดอันใด ก็ถูกผู้อาวุโสอูเผิงขัดไว้เสียก่อน

“พวกเจ้าเข้าใจผิดแล้ว พวกข้ามิได้ยุ่งเกี่ยวใส่ใจเรื่องของพวกเจ้าเลยแม้แต่น้อย ที่กลับมาที่นี่อีกคราก็เป็นเพราะมีเรื่องอื่นต้องจัดการเท่านั้น”

ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ กวาดตามองโดยรอบคราหนึ่ง

“อ้อ? หรือว่าของที่พวกท่านต้องการจะอยู่ที่นี่กัน?”

สิ้นเสียงคำพูด สีหน้าของผู้คนฝั่งตรงข้ามพลันเปลี่ยนพร้อมกัน

นี่ทำให้ฉู่หลิวเยว่รู้สึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย

เดิมทีนางเพียงอยากหยอกเย้า จึงเอ่ยส่งเดชไปประโยคหนึ่งเท่านั้น ใครจะรู้เล่า… ว่าที่พูดไปเหมือนจะเป็นเรื่องจริง?

ครานี้ นางจึงหัวเราะออกมาด้วยกลั้นไม่อยู่โดยแท้จริง

“เหมือนว่าข้าจะพูดจี้จุดเข้าจริงๆ แล้วกระมัง?”

“เรื่องของพวกเรา หาได้มีความเกี่ยวข้องกับพวกเจ้า”

บุรุษชุดดำสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย เรื่องนี้ทำให้ผู้อาวุโสอูเผิงลอบบังเกิดความหวาดหวั่นต่อหรงซิวและฉู่หลิวเยว่

ใครไม่รู้บ้างว่าพวกเขายังมีไพ่ตายลับซ่อนอยู่ในมือ

เวลาเช่นนี้ ไม่ไปยั่วยุพวกเขาถือเป็นการดีที่สุด

และด้วยเหตุนี้เอง คำพูดของเขาจึงสุภาพมากขึ้นกว่าแต่ก่อนอยู่หลายส่วน

ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้ว

เดิมทีนางไม่สนใจเรื่องของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

ทว่าเห็นพวกเขากระวนกระวายใจกันเช่นนี้ ในใจนางกลับบังเกิดความสงสัยใคร่รู้ขึ้นมาเสียได้

คนพวกนี้มีภูมิหลังไม่ธรรมดา วิสัยทัศน์ยังกว้างไกล

ของที่ทำให้พวกเขาสนใจกันมากถึงเพียงนี้… คงจะเป็นสมบัติอันเลอค่าหาเปรียบมิได้จริงๆ แล้วกระมัง?

หากแต่สงสัยก็ส่วนสงสัย

ตอนนี้นางมิมีความคิดจะไปใส่ใจเรื่องของพวกเขา

หาองค์ไท่จู่ให้พบต่างหากที่เป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุดในตอนนี้

ดังนั้น ฉู่หลิวเยว่จึงมิได้ก่อกวนพวกเขาอีก

มุมปากของนางบิดคลี่น้อยๆ

“จะเป็นการดีที่สุดหากน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง พวกข้ามิได้มีจิตคิดใส่ใจเรื่องของพวกท่าน หวังว่าพวกท่านจะถนอมรักษาตัวให้ดี”

พูดจบ พวกเขาพลันหันกายขวับ เตรียมตัวจากไปในทันที

ฝั่งผู้อาวุโสอูเผิงเดิมยังคงไม่ปักใจเชื่อ หากแต่เห็นพวกเขาจะจากไปทั้งแบบนี้จริงๆ ก็บังเกิดความสนเท่ห์อยู่หลายส่วน

หนานอวี่สิงลอบกำหมัดแน่นพลางมองไล่หลังคนเหล่านั้นไป แววตาทอจิตสังหารอันเข้มข้นออกมา

น่าเสียดายก็แต่ว่าตอนนี้พวกเขาล้วนบาดเจ็บ ส่วนพละกำลังของพวกหรงซิวก็มิอาจประเมินได้

มิเช่นนั้นแล้ว… จะจัดการฝังพวกมันเอาไว้ที่นี่ไปตลอดกาลเสีย!

เรื่องราวครั้งนี้ เขาจะไม่ปล่อยให้มันแล้วไปแบบนี้แน่!

รอให้ออกไปจากสุสานสังหารเทพแล้วกลับไปเสียก่อน เขาย่อมต้อง…

“จริงสิ”

ฝีเท้าของหรงซิวหยุดชะงัก พลันเบี่ยงกายหันมามองแวบหนึ่ง

สายตาลึกล้ำใสกระจ่างของเขาหยุดอยู่ที่หนานอวี่สิง

ความคิดของหนานอวี่สิงพลันหยุดชะงัก รู้สึกราวกับทั่วทั้งร่างถูกปกคลุมด้วยไอเย็นเยียบจนรู้สึกเสียวสันหลังวาบ

“เจ้า เจ้าคิดจะทำอันใด!?”

เขาทำใจดีสู้เสือแล้วเอ่ยปากไป

ฝ่ามือของเขากว้างแลหนานัก กลางฝ่ามือประดับด้วยหนังด้านจึงให้ความรู้สึกสากไม่น้อย หากแต่กลับชวนอบอุ่นเป็นพิเศษ

ทันใดนั้น ฉู่หลิวเยว่พลันตื่นตระหนก ก่อนจะก้มศีรษะมองแวบหนึ่ง

“ท่านพ่อ?”

ฉู่หนิงขานรับอย่างงุนงง “หืม?”

ฉู่หลิวเยว่คว้ามือของเขาขึ้นมาดูพลางพลิกไปพลิกมาอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ถามอย่างประหลาดใจว่า

“ก่อนหน้านี้มิใช่ว่ามือของท่านมีบาดแผลอยู่หรอกหรือ? เหตุใดตอนนี้ถึงได้… หายหมดแล้วเล่า?”

นางจำได้อย่างแม่นยำว่าบาดแผลพวกนั้นมีทั้งเก่าและใหม่ ทั้งยังมีบาดแผลสองรอยที่สาหัสเป็นพิเศษด้วย

ต่อให้รับยาแลรักษาอย่างดี แต่ด้วยร่างกายของท่านพ่อแล้วยังต้องใช้เวลาร่วมเดือนจึงจะฟื้นฟูเต็มที่

ทว่านี่เพิ่งผ่านไปได้ไม่เท่าไร เหตุใด… บาดแผลพวกนั้นถึงได้จางหายไปหมดแล้ว?

ฉู่หนิงได้ยินนางถามเช่นนี้ สีหน้าพลันลังเลขึ้นมา

แท้จริงแล้วเขาเองก็รู้ว่าเยว่เออร์เป็นคนละเอียดถี่ถ้วนมาโดยตลอด เรื่องนี้เองย่อมปิดนางไว้ไม่ได้นาน

เพียงแต่… เขาไม่รู้ว่าควรจะพูดอันใดออกไปจริงๆ

“ท่านพ่อ?”

ฉู่หลิวเยว่เห็นปฏิกิริยาของเขาก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันในใจพลันบังเกิดความกังวล

เรื่องนี้จะผิดปกติเกินไปแล้วจริงๆ

หรือว่าบนร่างของท่านพ่อ…

ฉู่หนิงเห็นว่านางกังวลใจ จึงรีบเอ่ยว่า

“เยว่เออร์อย่ากังวลใจไป ความจริง… ความจริงสถานการณ์เช่นนี้เคยเกิดมาหลายครั้งแล้ว… ข้าเองก็ชินกับมันไปแล้ว…”

“หลายครั้งแล้วหรือ?”

ได้ยินเช่นนี้ ฉู่หลิวเยว่ก็ยิ่งทวีความตื่นตกใจมากขึ้นไปอีก

“ใช่แล้ว… คือว่า… ทุกครั้งหลังได้รับบาดเจ็บ เมื่อผ่านไประยะหนึ่ง บาดแผลพวกนี้ก็จะฟื้นฟูด้วยตัวเอง ข้าเอง… ข้าเองก็ไม่รู้ว่านี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น…”

ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้ารอบหนึ่ง จากนั้นก็ต้องตกใจหลังพบว่าไม่เพียงแค่ที่มือ หากแต่บาดแผลที่อื่นบนร่างกายของเขาดูเหมือนจะฟื้นฟูเรียบร้อยหมดแล้วเช่นกัน!”

นี่มัน…

หรงซิวพลันกล่าวขึ้นมา

“ใต้เท้าฉู่หนิง มิทราบว่าให้ข้าช่วยจับชีพจรของท่านได้หรือไม่?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์