อี้เจาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็สาวเท้าเดินต่อไปด้านหน้า โดยไม่ได้พูดอันใด
ผู้อาวุโสอี้อวี่สามารถคาดเดาความคิดของเขาได้ จึงเข้าใจว่านี่คือการตอบรับโดยปริยาย
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยติดต่อกับเหล่ามนุษย์ แต่ครั้งนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ
สิ่งที่หนานอีฝานพูดนั้นก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผล สุสานสังหารเทพกว้างใหญ่ขนาดนี้ หากต้องการจะค้นหา
ถวนจื่อให้ได้โดยเร็ว มันไม่น่าจะง่ายดายขนาดนั้น
หากทั้งสองฝ่ายจะเข้าไปหาคนในสุสานสังหารเทพพร้อมกันแล้วละก็ ไม่น่าว่ามันอาจจะเร็วขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
ผู้อาวุโสอี้อวี่ยิ้มออกมา
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เชิญ…ประมุขหนาน”
ดวงตาของหนานอีฝานเปล่งประกายขึ้นในทันที
ตอบรับแล้วอย่างนั้นหรือ?
เดิมทีเขาแค่จะลองหยั่งเชิงดู คิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะตอบตกลงเช่นนี้!
ความหวาดวิตกก่อนหน้านี้ของหนานอีฝานก็พลันมลายหายไปทันที
ตระกูลหนานเป็นตระกูลขนาดใหญ่ ฝีมือก็ทรงพลัง
แต่เมื่อเทียบกับเผ่าหงส์ทองคำแล้ว เขาก็ยังต้องก้มหัวให้อีกฝ่าย
ตอนนี้เขาสามารถร่วมเดินทางกับอี้เจาได้ นับว่ามีมิตรภาพต่อกันแล้ว
ภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่จะมีใครบ้างที่สามารถทำเช่นนี้ได้?
“ดี! ดียิ่ง!”
หนานอีฝานรีบตอบตกลงและติดตามไปในทันที
เดิมทีเขายังอยากจะไปชวนอี้เจาคุยสักสองสามประโยค แต่อย่างใดก็ตามกลับมีผู้อาวุโสอี้อวี่คั่นอยู่ตรงกลาง ดังนั้นจึงยากที่จะพูดคุย
อีกทั้งแรงกดดันบนร่างของอี้เจาก็เหนือกว่าคนทั่วไป โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้
สีหน้าของหนานอีฝานตึงเครียด ท่าทางของเขาใช่ว่าจะอารมณ์ไม่ดีมาก เมื่อครุ่นคิดพิจารณาไปแล้ว ท้ายที่สุดเขาก็มีความคิดพอที่จะไม่เข้าไปรบกวนอีกฝ่าย และเดินติดตามไปเงียบๆ
ภายในป่าวิญญาณสีชาดไม่สามารถโคจรพลังปราณดั้งเดิมได้ พวกเขาจึงต้องเดินไปทีละย่างก้าวอย่างอดทน
ขณะที่เดินหนานอีฝานก็มีความคิดปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่อี้เจาเดินทางมาที่นี่ พวกเขากำลังตามหาใครอยู่กันแน่?
แม้ว่าพวกเขาจะปิดบังหลบซ่อนไว้เป็นอย่างดี แต่ความกังวลและเป็นห่วงที่อยู่ระหว่างคิ้วของพวกเขานั้น ก็ถูกหนานอีฝานมองออก
นี่ไม่ใช่การตามหาศัตรูคู่แค้น
ดูไปแล้วเหมือนเขากำลังตามหาบุคคลสำคัญสักคน…
หนานอีฝานยิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้น
คนที่สามารถทำให้อี้เจาตื่นตกใจเป็นห่วงได้ บนโลกนี้คงมีอยู่ไม่กี่คนละมั้ง?
น่าจะต้องเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่ในเผ่าหงส์ทองคำ
ภายในใจของหนานอีฝานยิ่งรู้สึกตื่นตระหนกตกใจ นอกจากความรู้สึกเหล่านี้แล้วยังแฝงไปด้วยการรอคอยอีกสายหนึ่งด้วย
ไม่แน่ว่าหนานอีอีจะได้พบกับเผ่าหงส์ทองคำเข้าแล้ว?
หากเผชิญอันตรายพร้อมกัน ผ่านความลำบากด้วยกัน บางทีความสัมพันธ์อาจจะก้าวหน้าขึ้นอีกหนึ่งขั้นก็ได้
เมื่อหนานอีฝานคิดได้ดังนั้น หัวใจก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย
แต่เขาไม่เคยคิดถึงเลยว่าหนานอีอีจะไปล่วงเกินอีกฝ่ายหรือไม่
…คิดมากน่ะ ต่อให้นางจะมองฐานะของอีกฝ่ายไม่ออก แต่ก็ยังมีผู้อาวุโสอูเผิงและคนอื่นๆ อยู่ เขาจะต้องสามารถมองฐานะของอีกฝ่ายออกได้ในทันทีแน่นอน
พวกเขายังไม่ทันทำให้เผ่าหงส์ทองคำพอใจ แล้วจะไปเป็นปรปักษ์กับอีกฝ่ายได้อย่างใด?
แต่สิ่งต่างๆ บนโลกยากคาดเดา
ในตอนนี้หนานอีฝานไม่สามารถคิดได้ แต่หลังจากนี้จะมีความจริงอันโหดร้ายแบบใดที่เข้ามาทักทายเขาเอง
…
ทันใดนั้นอี้เจาก็ชะงักฝีเท้าแล้วมองตรงไปด้านหน้า
หนานอีฝานก็หยุดฝีเท้าด้วยเช่นกัน ก่อนจะเงยหน้ามองตามสายตาของเขา
เมื่อหันไปมอง ภาพนั้นก็ทำให้เขาขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม
บริเวณกลางป่าตรงหน้าที่อยู่ไม่ไกล ร่องรอยชัดเจน เหมือนว่าที่แห่งนี้เคยมีการต่อสู้ที่ดุเดือดมาก่อน
แต่การมาต่อสู้ภายในป่าวิญญาณสีชาดแห่งนี้ ไม่เท่ากับมาหาเรื่องตายกันหรือ?
ทันใดนั้นเองผู้อาวุโสที่อยู่ด้านข้างก็ร้องขึ้นอย่างตกใจว่า
“ท่านประมุข! นั่น…เหมือนว่าจะเป็นเสื้อของคุณชายใหญ่!”
หนานอีฝานรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปมองให้ชัดๆ
ตอนที่เขาเห็นว่าบนพื้นเต็มไปด้วยเศษเสื้อที่กระจัดกระจาย อีกทั้งยังมีคราบเลือดที่เปรอะเปื้อน ภายในสมองของหนานอีฝานก็มีเสียงดัง “ตู้ม” ขึ้น!
จริงด้วย เป็นเสื้อของหนานอวี่สิงจริงๆ!
เขาลงมือต่อสู้ที่นี่หรือ?
เขาก็รู้ดีว่าที่ป่าวิญญาณสีชาดไม่สามารถโคจรพลังปราณดั้งเดิมได้ แล้วเหตุใดเขายังจะต้องหาเรื่องใส่ตัวอีกเล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...