เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1702

อี้เจาขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

หลังจากผ่านไปสักพักเขาก็สาวเท้าเดินต่อไปด้านหน้า โดยไม่ได้พูดอันใด

ผู้อาวุโสอี้อวี่สามารถคาดเดาความคิดของเขาได้ จึงเข้าใจว่านี่คือการตอบรับโดยปริยาย

แม้ว่าพวกเขาจะไม่ค่อยติดต่อกับเหล่ามนุษย์ แต่ครั้งนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ

สิ่งที่หนานอีฝานพูดนั้นก็ใช่ว่าจะไร้เหตุผล สุสานสังหารเทพกว้างใหญ่ขนาดนี้ หากต้องการจะค้นหา

ถวนจื่อให้ได้โดยเร็ว มันไม่น่าจะง่ายดายขนาดนั้น

หากทั้งสองฝ่ายจะเข้าไปหาคนในสุสานสังหารเทพพร้อมกันแล้วละก็ ไม่น่าว่ามันอาจจะเร็วขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย

ผู้อาวุโสอี้อวี่ยิ้มออกมา

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เชิญ…ประมุขหนาน”

ดวงตาของหนานอีฝานเปล่งประกายขึ้นในทันที

ตอบรับแล้วอย่างนั้นหรือ?

เดิมทีเขาแค่จะลองหยั่งเชิงดู คิดไม่ถึงเลยว่าอีกฝ่ายจะตอบตกลงเช่นนี้!

ความหวาดวิตกก่อนหน้านี้ของหนานอีฝานก็พลันมลายหายไปทันที

ตระกูลหนานเป็นตระกูลขนาดใหญ่ ฝีมือก็ทรงพลัง

แต่เมื่อเทียบกับเผ่าหงส์ทองคำแล้ว เขาก็ยังต้องก้มหัวให้อีกฝ่าย

ตอนนี้เขาสามารถร่วมเดินทางกับอี้เจาได้ นับว่ามีมิตรภาพต่อกันแล้ว

ภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่จะมีใครบ้างที่สามารถทำเช่นนี้ได้?

“ดี! ดียิ่ง!”

หนานอีฝานรีบตอบตกลงและติดตามไปในทันที

เดิมทีเขายังอยากจะไปชวนอี้เจาคุยสักสองสามประโยค แต่อย่างใดก็ตามกลับมีผู้อาวุโสอี้อวี่คั่นอยู่ตรงกลาง ดังนั้นจึงยากที่จะพูดคุย

อีกทั้งแรงกดดันบนร่างของอี้เจาก็เหนือกว่าคนทั่วไป โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าใกล้เขาได้

สีหน้าของหนานอีฝานตึงเครียด ท่าทางของเขาใช่ว่าจะอารมณ์ไม่ดีมาก เมื่อครุ่นคิดพิจารณาไปแล้ว ท้ายที่สุดเขาก็มีความคิดพอที่จะไม่เข้าไปรบกวนอีกฝ่าย และเดินติดตามไปเงียบๆ

ภายในป่าวิญญาณสีชาดไม่สามารถโคจรพลังปราณดั้งเดิมได้ พวกเขาจึงต้องเดินไปทีละย่างก้าวอย่างอดทน

ขณะที่เดินหนานอีฝานก็มีความคิดปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ที่อี้เจาเดินทางมาที่นี่ พวกเขากำลังตามหาใครอยู่กันแน่?

แม้ว่าพวกเขาจะปิดบังหลบซ่อนไว้เป็นอย่างดี แต่ความกังวลและเป็นห่วงที่อยู่ระหว่างคิ้วของพวกเขานั้น ก็ถูกหนานอีฝานมองออก

นี่ไม่ใช่การตามหาศัตรูคู่แค้น

ดูไปแล้วเหมือนเขากำลังตามหาบุคคลสำคัญสักคน…

หนานอีฝานยิ่งรู้สึกสงสัยมากขึ้น

คนที่สามารถทำให้อี้เจาตื่นตกใจเป็นห่วงได้ บนโลกนี้คงมีอยู่ไม่กี่คนละมั้ง?

น่าจะต้องเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่ในเผ่าหงส์ทองคำ

ภายในใจของหนานอีฝานยิ่งรู้สึกตื่นตระหนกตกใจ นอกจากความรู้สึกเหล่านี้แล้วยังแฝงไปด้วยการรอคอยอีกสายหนึ่งด้วย

ไม่แน่ว่าหนานอีอีจะได้พบกับเผ่าหงส์ทองคำเข้าแล้ว?

หากเผชิญอันตรายพร้อมกัน ผ่านความลำบากด้วยกัน บางทีความสัมพันธ์อาจจะก้าวหน้าขึ้นอีกหนึ่งขั้นก็ได้

เมื่อหนานอีฝานคิดได้ดังนั้น หัวใจก็ผ่อนคลายลงไม่น้อย

แต่เขาไม่เคยคิดถึงเลยว่าหนานอีอีจะไปล่วงเกินอีกฝ่ายหรือไม่

…คิดมากน่ะ ต่อให้นางจะมองฐานะของอีกฝ่ายไม่ออก แต่ก็ยังมีผู้อาวุโสอูเผิงและคนอื่นๆ อยู่ เขาจะต้องสามารถมองฐานะของอีกฝ่ายออกได้ในทันทีแน่นอน

พวกเขายังไม่ทันทำให้เผ่าหงส์ทองคำพอใจ แล้วจะไปเป็นปรปักษ์กับอีกฝ่ายได้อย่างใด?

แต่สิ่งต่างๆ บนโลกยากคาดเดา

ในตอนนี้หนานอีฝานไม่สามารถคิดได้ แต่หลังจากนี้จะมีความจริงอันโหดร้ายแบบใดที่เข้ามาทักทายเขาเอง

ทันใดนั้นอี้เจาก็ชะงักฝีเท้าแล้วมองตรงไปด้านหน้า

หนานอีฝานก็หยุดฝีเท้าด้วยเช่นกัน ก่อนจะเงยหน้ามองตามสายตาของเขา

เมื่อหันไปมอง ภาพนั้นก็ทำให้เขาขมวดคิ้วขึ้นเป็นปม

บริเวณกลางป่าตรงหน้าที่อยู่ไม่ไกล ร่องรอยชัดเจน เหมือนว่าที่แห่งนี้เคยมีการต่อสู้ที่ดุเดือดมาก่อน

แต่การมาต่อสู้ภายในป่าวิญญาณสีชาดแห่งนี้ ไม่เท่ากับมาหาเรื่องตายกันหรือ?

ทันใดนั้นเองผู้อาวุโสที่อยู่ด้านข้างก็ร้องขึ้นอย่างตกใจว่า

“ท่านประมุข! นั่น…เหมือนว่าจะเป็นเสื้อของคุณชายใหญ่!”

หนานอีฝานรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปมองให้ชัดๆ

ตอนที่เขาเห็นว่าบนพื้นเต็มไปด้วยเศษเสื้อที่กระจัดกระจาย อีกทั้งยังมีคราบเลือดที่เปรอะเปื้อน ภายในสมองของหนานอีฝานก็มีเสียงดัง “ตู้ม” ขึ้น!

จริงด้วย เป็นเสื้อของหนานอวี่สิงจริงๆ!

เขาลงมือต่อสู้ที่นี่หรือ?

เขาก็รู้ดีว่าที่ป่าวิญญาณสีชาดไม่สามารถโคจรพลังปราณดั้งเดิมได้ แล้วเหตุใดเขายังจะต้องหาเรื่องใส่ตัวอีกเล่า?

นอกจากนี้ยังมีกลิ่นคาวเลือดที่เหม็นเน่าโชยมาอีกด้วย

หนานอีฝานรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

ผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหลังถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ว่า

“ท่านประมุข ท่านรู้สึกหรือไม่ว่าสุสานสังหารเทพแห่งนี้มีอันใดแตกต่างไปจากเดิม?”

หนานอีฝานพยักหน้า

ใช่แล้ว มันไม่เหมือนเดิม

ตอนที่เขามาก่อนหน้านี้ เขาไม่เคยสัมผัสได้ถึงรัศมีอันเย็นยะเยือกเข้มข้นที่แผ่ออกมาจากฟ้าดินเลย

รัศมีเช่นนี้ทำให้ผู้คนรู้สึกสั่นสะท้าน

สิ่งที่แตกต่างกันมากกว่านี้ เขากลับพูดไม่ออกว่าแตกต่างอย่างใด แต่มันไม่เหมือนเดิม

ผู้อาวุโสอี้อวี่ขยับไปที่ข้างกายของอี้เจา ใบหน้าที่ประดับรอยยิ้มจางหายไปแล้ว ความเย็นชาและตึงเครียดปรากฏขึ้นที่ระหว่างคิ้วหลายส่วน

“ไอมารของที่นี่เข้มข้นมากกว่าเดิมแล้ว”

เขาพูด

อี้เจาพยักหน้า

นี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดี

ตอนนี้พวกเราเพิ่งจะก้าวเข้ามาในสุสานสังหารเทพ แต่กลับสามารถสัมผัสได้ถึงไอมารที่เข้มข้นขนาดนี้แล้ว

หากยังเดินต่อไป…

มิน่าล่ะถวนจื่อจึงเลือกขอความช่วยเหลือ

อี้เจามองซ้ายแลขวา และเลือกทิศทางหนึ่ง

เมื่อหนานอีฝานเห็นภาพเหตุการณ์นี้ เขาก็กัดฟันกรอดและยังเลือกที่จะติดตามไปด้านหลัง

เมื่อมาถึงตรงนี้เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงลมปราณของคนเหล่านั้นได้แล้ว

แต่เผ่าหงส์ทองคำไม่เหมือนกัน

ในด้านนี้เขามีพรสวรรค์และแรงสัมผัสที่น่าตกใจ

สุสานสังหารเทพกว้างใหญ่ขนาดนี้ หนานอวี่สิงและคนอื่นๆ ก็ขาดการติดต่ออย่างสิ้นเชิง

วิธีที่ดีที่สุด คือติดตามอี้เจาไป

ในตอนนี้อี้เจาคิดถึงแต่เพียงถวนจื่อ จึงไม่ได้ให้ความสนใจหนานอีฝาน

คนกลุ่มนี้จึงเดินทางเข้าไปในส่วนลึกของสุสานสังหารเทพไปเช่นนี้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์