………………..
ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา สีหน้าของผู้อาวุโสอี้อวี่ก็เย็นชามากขึ้น
แม่นางคนนี้ที่ดูอ่อนแอและอ่อนโยนอย่างมาก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคำหยาบคายหลุดออกมาจากปากได้
คาดไม่ถึงว่านางจะเรียกซั่งกวนเยว่ว่า “นังสารเลว”?
เขากำลังจะเอ่ยปากตำหนิ แต่คาดไม่ถึงว่าอี้เจาจะส่งสายตาเตือนให้เงียบเอาไว้
ผู้อาวุโสอี้อวี่สำลักขึ้น ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง แต่สุดท้ายก็ต้องกลืนคำพูดเหล่านั้นลงไป
คลื่นใต้น้ำของทั้งสองคนนั้นเกิดขึ้นอย่างเงียบงันจนทำให้หนานอีอีไม่สามารถสัมผัสได้
แต่เมื่อหนานอีฝานเห็นภาพเหตุการณ์เหล่านี้เข้า
เขาไม่ค่อยเข้าใจสีหน้าของอี้เจาและผู้อาวุโสอี้อวี่ เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาของทั้งสองคน เขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย
พวกเขาออกมาตามหาคนเผ่ามนุษย์อย่างนั้นหรือ?
แล้วเหตุใดตอนนี้เขาถึงถามที่อยู่ของซั่งกวนเยว่ผู้นั้น?
ไม่รู้ว่าซั่งกวนเยว่มีความสัมพันธ์ใดเกี่ยวข้องกับพวกเขา แต่ที่หนานอีอีพูดจาเช่นนี้ก็ช่างเป็นความหุนหันพลันแล่นไปจริงๆ
“อีอี”
เขากดน้ำเสียงลงต่ำเล็กน้อย แฝงด้วยการกล่าวเตือน
หนานอีอีเหลือบสายตามอง แต่ไม่ได้ใส่ใจกับการกล่าวเตือนนั้นเลย
ดูเหมือนว่าท่านพ่อจะยังไม่รู้ว่าซั่งกวนเยว่ผู้นั้นได้ทำพันธสัญญากับหงส์ทองคำตัวหนึ่ง?
“ท่านพ่อ ท่านวางใจเถอะ ข้ารู้จักหนักเบาดี”
นางไม่ใส่ใจที่จะโน้มน้าวเขาสักประโยค จากนั้นก็หมุนตัวกลับไป
เดิมทีหนานอีฝานอยากจะพูดอันใดบางอย่าง แต่เมื่อสังเกตบรรยากาศโดยรอบแล้ว สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะปิดปากเงียบ
อี้เจากวาดสายตามองหนานอีอีขึ้นลง สายตานั้นแฝงแรงกดดันที่หนักอึ้ง
“ถูกต้อง”
ใบหน้าของอี้เจายังคงราบเรียบไร้อารมณ์เช่นเดิม จนทำให้ผู้คนยากจะคาดเดา
“ข้ากำลังตามหานางอยู่”
ตอนที่ได้ยินคำตอบของเขา หนานอีอีก็มั่นใจกับการคาดเดาของตนเองขึ้นมาในทันที
…เขาจะต้องรู้เรื่องการทำพันธสัญญานั่นแน่นอน ดังนั้นเขาจึงเดินทางเป็นหมื่นลี้เพื่อมาตามหาอีกฝ่ายถึงที่นี่!
ในตอนนั้นหนานอีอีทั้งรู้สึกเสียใจและภาคภูมิใจในเวลาเดียวกัน
ที่ภาคภูมิใจก็เพราะว่า ซั่งกวนเยว่ล่วงเกินเผ่าหงส์ทองคำ นางจะต้องตายอย่างแน่นอน!
แต่ที่น่าเสียดายก็คือ จนถึงตอนนี้เหมือนว่านางยังถูกขังอยู่ภายในกำแพงสีดำแห่งนั้น เป็นตายไม่ทราบ
ถ้าซั่งกวนเยว่ตายอยู่ด้านในนั้นแล้ว นางก็จะไม่สามารถเห็นฉากที่อีกฝ่ายได้รับทุกข์ทรมานแล้วสิ?
ยิ่งคิดนางก็ยิ่งรู้สึกเสียดายอย่างมาก
นางถอนหายใจออกมา แล้วกล่าวว่า
“เกรงว่าเรื่องนี้จะต้องทำให้ท่านผิดหวังแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ผู้เยาว์มั่นใจก็มีเพียงอย่างเดียว นั่นคือนางยังอยู่ด้านใน แต่เป็นตายอย่างใดไม่ทราบ สุดท้ายก็สามารถออกมาได้หรือไม่นั้น ผู้เยาว์ก็ไม่อาจคาดเดา”
หัวคิ้วของอี้เจาขมวดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ความจริงแล้วคำตอบนี้ ก็เป็นสิ่งที่เขาคาดเดาเอาไว้อยู่แล้ว
“แล้วก่อนหน้านี้ที่เจ้าพูดว่า เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะซั่งกวนเยว่ล่ะ? มันเป็นเรื่องอย่างใดกันแน่ เจ้าเล่าให้ละเอียดสิ”
น้ำเสียงของอี้เจาราบเรียบและไม่แยแส แต่กลับแฝงด้วยความดูหมิ่น ทำให้ผู้คนหวาดกลัวและยอมจำนนโดยไม่รู้ตัว
หนานอีอีคลายมือออกและกระชับมือแน่นอีกครั้ง
“เรื่องนี้คงต้องเล่าย้อนไปตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน…”
…
หลังจากนั้นหนานอีอีก็เล่าเรื่องที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ
และประเด็นสำคัญก็คือ ซั่งกวนเยว่ต้องการจะวางแผนสังหารนาง เป็นผลทำให้ทุกคนต้องถูกดูดกลืนลงไปภายในกำแพงสีดำแห่งนี้
จากคำกล่าวอธิบายของนาง เรื่องทุกเรื่องเหมือนว่าจะมีซั่งกวนเยว่เป็นผู้กระทำคนเดียว
นางไม่ได้เอ่ยชื่อหรงซิวออกมาเลยแม้แต่น้อย
หากคนภายนอกได้ยินดังนี้ จะต้องคิดไปเองว่าซั่งกวนเยว่ผู้นี้เป็นคนกำเริบเสิบสาน ไม่มีเหตุผล เห็นแก่ตัว และโหดร้าย
นางทำให้ทุกคนต้องถูกขังอยู่ภายในนั้น
ผู้อาวุโสอี้อวี่ฟังได้สองประโยค ก็ฟังต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว
ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคุยกับนังหนูคนนั้นมาก่อน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...