เข้าสู่ระบบผ่าน

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 1709

………………..

ทันทีที่คำพูดนี้หลุดออกมา สีหน้าของผู้อาวุโสอี้อวี่ก็เย็นชามากขึ้น

แม่นางคนนี้ที่ดูอ่อนแอและอ่อนโยนอย่างมาก แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีคำหยาบคายหลุดออกมาจากปากได้

คาดไม่ถึงว่านางจะเรียกซั่งกวนเยว่ว่า “นังสารเลว”?

เขากำลังจะเอ่ยปากตำหนิ แต่คาดไม่ถึงว่าอี้เจาจะส่งสายตาเตือนให้เงียบเอาไว้

ผู้อาวุโสอี้อวี่สำลักขึ้น ลูกกระเดือกขยับขึ้นลง แต่สุดท้ายก็ต้องกลืนคำพูดเหล่านั้นลงไป

คลื่นใต้น้ำของทั้งสองคนนั้นเกิดขึ้นอย่างเงียบงันจนทำให้หนานอีอีไม่สามารถสัมผัสได้

แต่เมื่อหนานอีฝานเห็นภาพเหตุการณ์เหล่านี้เข้า

เขาไม่ค่อยเข้าใจสีหน้าของอี้เจาและผู้อาวุโสอี้อวี่ เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาของทั้งสองคน เขาก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย

พวกเขาออกมาตามหาคนเผ่ามนุษย์อย่างนั้นหรือ?

แล้วเหตุใดตอนนี้เขาถึงถามที่อยู่ของซั่งกวนเยว่ผู้นั้น?

ไม่รู้ว่าซั่งกวนเยว่มีความสัมพันธ์ใดเกี่ยวข้องกับพวกเขา แต่ที่หนานอีอีพูดจาเช่นนี้ก็ช่างเป็นความหุนหันพลันแล่นไปจริงๆ

“อีอี”

เขากดน้ำเสียงลงต่ำเล็กน้อย แฝงด้วยการกล่าวเตือน

หนานอีอีเหลือบสายตามอง แต่ไม่ได้ใส่ใจกับการกล่าวเตือนนั้นเลย

ดูเหมือนว่าท่านพ่อจะยังไม่รู้ว่าซั่งกวนเยว่ผู้นั้นได้ทำพันธสัญญากับหงส์ทองคำตัวหนึ่ง?

“ท่านพ่อ ท่านวางใจเถอะ ข้ารู้จักหนักเบาดี”

นางไม่ใส่ใจที่จะโน้มน้าวเขาสักประโยค จากนั้นก็หมุนตัวกลับไป

เดิมทีหนานอีฝานอยากจะพูดอันใดบางอย่าง แต่เมื่อสังเกตบรรยากาศโดยรอบแล้ว สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะปิดปากเงียบ

อี้เจากวาดสายตามองหนานอีอีขึ้นลง สายตานั้นแฝงแรงกดดันที่หนักอึ้ง

“ถูกต้อง”

ใบหน้าของอี้เจายังคงราบเรียบไร้อารมณ์เช่นเดิม จนทำให้ผู้คนยากจะคาดเดา

“ข้ากำลังตามหานางอยู่”

ตอนที่ได้ยินคำตอบของเขา หนานอีอีก็มั่นใจกับการคาดเดาของตนเองขึ้นมาในทันที

…เขาจะต้องรู้เรื่องการทำพันธสัญญานั่นแน่นอน ดังนั้นเขาจึงเดินทางเป็นหมื่นลี้เพื่อมาตามหาอีกฝ่ายถึงที่นี่!

ในตอนนั้นหนานอีอีทั้งรู้สึกเสียใจและภาคภูมิใจในเวลาเดียวกัน

ที่ภาคภูมิใจก็เพราะว่า ซั่งกวนเยว่ล่วงเกินเผ่าหงส์ทองคำ นางจะต้องตายอย่างแน่นอน!

แต่ที่น่าเสียดายก็คือ จนถึงตอนนี้เหมือนว่านางยังถูกขังอยู่ภายในกำแพงสีดำแห่งนั้น เป็นตายไม่ทราบ

ถ้าซั่งกวนเยว่ตายอยู่ด้านในนั้นแล้ว นางก็จะไม่สามารถเห็นฉากที่อีกฝ่ายได้รับทุกข์ทรมานแล้วสิ?

ยิ่งคิดนางก็ยิ่งรู้สึกเสียดายอย่างมาก

นางถอนหายใจออกมา แล้วกล่าวว่า

“เกรงว่าเรื่องนี้จะต้องทำให้ท่านผิดหวังแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ผู้เยาว์มั่นใจก็มีเพียงอย่างเดียว นั่นคือนางยังอยู่ด้านใน แต่เป็นตายอย่างใดไม่ทราบ สุดท้ายก็สามารถออกมาได้หรือไม่นั้น ผู้เยาว์ก็ไม่อาจคาดเดา”

หัวคิ้วของอี้เจาขมวดขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความจริงแล้วคำตอบนี้ ก็เป็นสิ่งที่เขาคาดเดาเอาไว้อยู่แล้ว

“แล้วก่อนหน้านี้ที่เจ้าพูดว่า เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะซั่งกวนเยว่ล่ะ? มันเป็นเรื่องอย่างใดกันแน่ เจ้าเล่าให้ละเอียดสิ”

น้ำเสียงของอี้เจาราบเรียบและไม่แยแส แต่กลับแฝงด้วยความดูหมิ่น ทำให้ผู้คนหวาดกลัวและยอมจำนนโดยไม่รู้ตัว

หนานอีอีคลายมือออกและกระชับมือแน่นอีกครั้ง

“เรื่องนี้คงต้องเล่าย้อนไปตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน…”

หลังจากนั้นหนานอีอีก็เล่าเรื่องที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ

และประเด็นสำคัญก็คือ ซั่งกวนเยว่ต้องการจะวางแผนสังหารนาง เป็นผลทำให้ทุกคนต้องถูกดูดกลืนลงไปภายในกำแพงสีดำแห่งนี้

จากคำกล่าวอธิบายของนาง เรื่องทุกเรื่องเหมือนว่าจะมีซั่งกวนเยว่เป็นผู้กระทำคนเดียว

นางไม่ได้เอ่ยชื่อหรงซิวออกมาเลยแม้แต่น้อย

หากคนภายนอกได้ยินดังนี้ จะต้องคิดไปเองว่าซั่งกวนเยว่ผู้นี้เป็นคนกำเริบเสิบสาน ไม่มีเหตุผล เห็นแก่ตัว และโหดร้าย

นางทำให้ทุกคนต้องถูกขังอยู่ภายในนั้น

ผู้อาวุโสอี้อวี่ฟังได้สองประโยค ก็ฟังต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยคุยกับนังหนูคนนั้นมาก่อน

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์