หลังจากที่จั่วหรงและอาจารย์ท่านอื่นๆ ออกไปแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็สามารถเร่งมือได้รวเร็วยิ่งขึ้น
นางยื่นมือออกไปตั้งอธิษฐานจิต ทันใดนั้นก็มีเปลวเพลิงสีแดงปรากฏขึ้นบนฝ่ามือขาวผ่องของนาง!
เปลวเพลิงเล็กๆ นั้นกระโดดอย่างคล่องแคล่วราวกับว่ามันมีภูตผีก็มิปาน แม้ว่ามันจะดูอ่อนแอ แต่กลับเต็มไปด้วยพลัง!
ฉู่หลิวเยว่เบิกตาโตเล็กน้อย
หลังจากที่นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่หนึ่งอย่างเต็มตัว ครั้งนี้นางจึงสามารถเรียกพลังของตนเองออกมาได้
ถ้าหากว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งธรรมดาผู้หนึ่ง ในขั้นตอนนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะดึงพลังออกจากร่างกาย และสามารถทำได้หลังจากบรรลุเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่สี่ขึ้นไปเท่านั้น
ทว่าหมอเทวดากลับมีข้อแตกต่างกัน
หมอเทวดาใช้พลังในการหลอมยาหรือปรุงยา!
ขอบเขตของฉู่หลิวเยว่ในตอนนี้เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง ดังนั้นพลังที่เรียกออกมาได้จึงเป็นเพียงกลุ่มก้อนเล็กๆ เท่านั้น
แม้ว่าจะดูเหมือนไม่เพียงพอสำหรับการกลั่นยา แต่ก็ดีกว่าการใช้หม้อต้มเพื่อกลั่นยาเฉกเช่นก่อนหน้านี้
ฉู่หลิวเยว่หาเตาสัมฤทธิ์สี่เหลี่ยมมาหนึ่งใบ จากนั้นวางมือข้างหนึ่งบนหูของ เตาสัมฤทธิ์สี่เหลี่ยมแล้วเทเปลวไฟนั้นถ่ายลงไป!
คุณชายรองเหยียนเป็นผู้ส่งเตาสัมฤทธิ์สี่เหลี่ยมที่ใช้สำหรับหลอมยาใบนี้มาให้นาง ตอนที่ฉู่หลิวเยว่ตรวจดูของขวัญที่ส่งมา นางเหลือบไปเห็นโดยบังเอิญและคิดว่าตนเองกำลังขาดเหลือของสิ่งนี้อยู่พอดี ดังนั้นนางจึงนำมันมาใช้ที่สำนักเทียนลู่ด้วย
พรึ่บ!
เปลวเพลิงเล็กๆ ตกใส่เตาสัมฤทธิ์และมันก็เกิดการเผาไหม้ลุกโชนในทันที!
ดวงตาของฉู่หลิวเยว่ประกายสว่าง
เตาสัมฤทธิ์ทรงสี่เหลี่ยมใบนี้เป็นของดีจริง!
ก่อนหน้านี้ นางเพิ่งสังเกตเห็นว่าวัสดุที่ใช้ทำเตาสัมฤทธิ์นั้นคุณภาพดีมาก แต่นางกลับไม่ได้คิดว่าจะได้ผลเกินคาดเช่นนี้
การใช้เตาสัมฤทธิ์ใบนี้หลอมยา ทำให้นางสามารถประหยัดแรงไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว!
มีสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นนี้ ฉู่หลิวเยว่ก็พลอยโล่งใจลงไปบ้าง จากนั้นเตรียมจัดใส่ยาลงไปในขั้นตอนต่อไป
เมื่อใส่หอยงวงช้างเข้าไปก็ถูกเปลวเพลิงสีแดงม้วนกลืนลงไปทันที!
ในชั่วพริบตา มันก็กลายเป็นผงปริมาณหนึ่งกำมือ!
ฉู่หลิวเยว่ตกตะลึงครู่หนึ่ง
เมื่อหมอเทวดาใช้พลังในการหลอมยา ฉะนั้นความเร็วจึงแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างแน่นอน แต่คราวนี้มันไม่เร็วไปหน่อยหรือ
พลังของนางมีผลอย่างมากต่อตัวยาขนาดนี้เชียวหรือ
ฉู่หลิวเยว่นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ นางเม้มปากและจากนั้นก็ใส่ยาตัวที่สองลงไป
มันเป็นโสมพิทักษ์สวรรค์อายุร้อยปี ซึ่งขนาดที่ได้มานั้นมีความยาวเท่ากับแขนของมนุษย์ มีเถาวัลย์หลายอันพันกันแน่นขนัดและมีเนื้อสัมผัสที่แข็งกระด้าง
ส่วนที่ใช้ได้ผลมากที่สุดของโสมพิทักษ์สวรรค์คือรากเถาวัลย์ที่อยู่ตรงกลาง แต่ถ้าหากว่าต้องการดึงสรรพคุณยาให้ออกมาอย่างเต็มที่ จะต้องคั้นออกมาเป็นน้ำ ซึ่งเป็นการเสียเวลาและเปลืองแรงอย่างยิ่ง
ฉู่หลิวเยว่ควบคุมเพลิงอย่างระมัดระวัง และไฟค่อยๆ ลามเลียโสมพิทักษ์สวรรค์แผ่วเบา เถาวัลย์ด้านนอกแห้งผากอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีน้ำยาสีน้ำตาลเหลืองปรากฏขึ้นในเตาสัมฤทธิ์สี่เหลี่ยม
นางมองด้วยสายตาว่างเปล่าเหม่อลอย และทันใดนั้นนางก็มีความรู้สึกไม่อยากเชื่อเท่าไหร่
นี่มัน…นี่ความเร็วในการหลอมยาเกือบจะเทียบเท่ากับหมอเทวดาขั้นที่สามได้แล้ว!
โดยปกติทั่วไป ยิ่งพลังความสามารถของหมอเทวดาแข็งแกร่งเท่าไหร่ ประสิทธิภาพในการหลอมยาก็จะยิ่งรวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น
ตอนแรกนางเตรียมใจที่จะต่อสู้กับเวลาที่ยืดเยื้อ แต่นางคาดไม่ถึงว่าตัวเองจะหลอมยาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้!
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือส่วนผสมที่กลั่นออกมานั้นใสสะอาดบริสุทธิ์มาก!
เช่นนี้ก็จะยิ่งเป็นการช่วยนางประหยัดแรงไปไม่น้อย ทั้งยังได้ตัวยาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย!
ฉู่หลิวเยว่เฝ้าดูไปอีกสักพัก ทั้งที่นางยังคงรู้สึกเหลือเชื่ออยู่
ในอดีตชาติ นางมีชีพจรเทียนจริงที่หายาก ไม่ว่านางจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ปรมาจารย์หรือหมอเทวดา ล้วนมีข้อได้เปรียบทั้งหมด
พลังปราณที่ชีพจรเทียนจิงหล่อเลี้ยงออกมา มาตรฐานการหลอมยาของคนทั่วไปไม่สามารถเทียบได้
ทว่าตอนนี้เห็นได้ชัดว่าชีพจรของนางเป็นเพียงชีพจรตี้จิง แต่ถ้าหากเทียบกับชีพจรเทียนจิงที่นางเคยมีมาก่อนก็มิได้แตกต่างเท่าไรนัก
นี่มันต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน!
ฉู่หลิวเยว่เคยพบเห็นหมอเทวดาที่มีชีพจรตี้จิงมาก่อน ต่อให้พวกเขาฝึกฝนเป็นเวลานานหลายปี แต่พลังโดยกำเนิดของพวกเขาก็มีขีดจำกัด แล้วก็ไม่สามารถตามทันผู้ที่มีชีพจรเทียนจิงได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์