ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 171

หลังจากที่จั่วหรงและอาจารย์ท่านอื่นๆ ออกไปแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็สามารถเร่งมือได้รวเร็วยิ่งขึ้น

นางยื่นมือออกไปตั้งอธิษฐานจิต ทันใดนั้นก็มีเปลวเพลิงสีแดงปรากฏขึ้นบนฝ่ามือขาวผ่องของนาง!

เปลวเพลิงเล็กๆ นั้นกระโดดอย่างคล่องแคล่วราวกับว่ามันมีภูตผีก็มิปาน แม้ว่ามันจะดูอ่อนแอ แต่กลับเต็มไปด้วยพลัง!

ฉู่หลิวเยว่เบิกตาโตเล็กน้อย

หลังจากที่นางเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่หนึ่งอย่างเต็มตัว ครั้งนี้นางจึงสามารถเรียกพลังของตนเองออกมาได้

ถ้าหากว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งธรรมดาผู้หนึ่ง ในขั้นตอนนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะดึงพลังออกจากร่างกาย และสามารถทำได้หลังจากบรรลุเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่สี่ขึ้นไปเท่านั้น

ทว่าหมอเทวดากลับมีข้อแตกต่างกัน

หมอเทวดาใช้พลังในการหลอมยาหรือปรุงยา!

ขอบเขตของฉู่หลิวเยว่ในตอนนี้เป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่หนึ่ง ดังนั้นพลังที่เรียกออกมาได้จึงเป็นเพียงกลุ่มก้อนเล็กๆ เท่านั้น

แม้ว่าจะดูเหมือนไม่เพียงพอสำหรับการกลั่นยา แต่ก็ดีกว่าการใช้หม้อต้มเพื่อกลั่นยาเฉกเช่นก่อนหน้านี้

ฉู่หลิวเยว่หาเตาสัมฤทธิ์สี่เหลี่ยมมาหนึ่งใบ จากนั้นวางมือข้างหนึ่งบนหูของ เตาสัมฤทธิ์สี่เหลี่ยมแล้วเทเปลวไฟนั้นถ่ายลงไป!

คุณชายรองเหยียนเป็นผู้ส่งเตาสัมฤทธิ์สี่เหลี่ยมที่ใช้สำหรับหลอมยาใบนี้มาให้นาง ตอนที่ฉู่หลิวเยว่ตรวจดูของขวัญที่ส่งมา นางเหลือบไปเห็นโดยบังเอิญและคิดว่าตนเองกำลังขาดเหลือของสิ่งนี้อยู่พอดี ดังนั้นนางจึงนำมันมาใช้ที่สำนักเทียนลู่ด้วย

พรึ่บ!

เปลวเพลิงเล็กๆ ตกใส่เตาสัมฤทธิ์และมันก็เกิดการเผาไหม้ลุกโชนในทันที!

ดวงตาของฉู่หลิวเยว่ประกายสว่าง

เตาสัมฤทธิ์ทรงสี่เหลี่ยมใบนี้เป็นของดีจริง!

ก่อนหน้านี้ นางเพิ่งสังเกตเห็นว่าวัสดุที่ใช้ทำเตาสัมฤทธิ์นั้นคุณภาพดีมาก แต่นางกลับไม่ได้คิดว่าจะได้ผลเกินคาดเช่นนี้

การใช้เตาสัมฤทธิ์ใบนี้หลอมยา ทำให้นางสามารถประหยัดแรงไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว!

มีสิ่งอำนวยความสะดวกเช่นนี้ ฉู่หลิวเยว่ก็พลอยโล่งใจลงไปบ้าง จากนั้นเตรียมจัดใส่ยาลงไปในขั้นตอนต่อไป

เมื่อใส่หอยงวงช้างเข้าไปก็ถูกเปลวเพลิงสีแดงม้วนกลืนลงไปทันที!

ในชั่วพริบตา มันก็กลายเป็นผงปริมาณหนึ่งกำมือ!

ฉู่หลิวเยว่ตกตะลึงครู่หนึ่ง

เมื่อหมอเทวดาใช้พลังในการหลอมยา ฉะนั้นความเร็วจึงแตกต่างจากคนทั่วไปอย่างแน่นอน แต่คราวนี้มันไม่เร็วไปหน่อยหรือ

พลังของนางมีผลอย่างมากต่อตัวยาขนาดนี้เชียวหรือ

ฉู่หลิวเยว่นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ นางเม้มปากและจากนั้นก็ใส่ยาตัวที่สองลงไป

มันเป็นโสมพิทักษ์สวรรค์อายุร้อยปี ซึ่งขนาดที่ได้มานั้นมีความยาวเท่ากับแขนของมนุษย์ มีเถาวัลย์หลายอันพันกันแน่นขนัดและมีเนื้อสัมผัสที่แข็งกระด้าง

ส่วนที่ใช้ได้ผลมากที่สุดของโสมพิทักษ์สวรรค์คือรากเถาวัลย์ที่อยู่ตรงกลาง แต่ถ้าหากว่าต้องการดึงสรรพคุณยาให้ออกมาอย่างเต็มที่ จะต้องคั้นออกมาเป็นน้ำ ซึ่งเป็นการเสียเวลาและเปลืองแรงอย่างยิ่ง

ฉู่หลิวเยว่ควบคุมเพลิงอย่างระมัดระวัง และไฟค่อยๆ ลามเลียโสมพิทักษ์สวรรค์แผ่วเบา เถาวัลย์ด้านนอกแห้งผากอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีน้ำยาสีน้ำตาลเหลืองปรากฏขึ้นในเตาสัมฤทธิ์สี่เหลี่ยม

นางมองด้วยสายตาว่างเปล่าเหม่อลอย และทันใดนั้นนางก็มีความรู้สึกไม่อยากเชื่อเท่าไหร่

นี่มัน…นี่ความเร็วในการหลอมยาเกือบจะเทียบเท่ากับหมอเทวดาขั้นที่สามได้แล้ว!

โดยปกติทั่วไป ยิ่งพลังความสามารถของหมอเทวดาแข็งแกร่งเท่าไหร่ ประสิทธิภาพในการหลอมยาก็จะยิ่งรวดเร็วมากขึ้นเท่านั้น

ตอนแรกนางเตรียมใจที่จะต่อสู้กับเวลาที่ยืดเยื้อ แต่นางคาดไม่ถึงว่าตัวเองจะหลอมยาได้รวดเร็วถึงเพียงนี้!

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือส่วนผสมที่กลั่นออกมานั้นใสสะอาดบริสุทธิ์มาก!

เช่นนี้ก็จะยิ่งเป็นการช่วยนางประหยัดแรงไปไม่น้อย ทั้งยังได้ตัวยาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย!

ฉู่หลิวเยว่เฝ้าดูไปอีกสักพัก ทั้งที่นางยังคงรู้สึกเหลือเชื่ออยู่

ในอดีตชาติ นางมีชีพจรเทียนจริงที่หายาก ไม่ว่านางจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ปรมาจารย์หรือหมอเทวดา ล้วนมีข้อได้เปรียบทั้งหมด

พลังปราณที่ชีพจรเทียนจิงหล่อเลี้ยงออกมา มาตรฐานการหลอมยาของคนทั่วไปไม่สามารถเทียบได้

ทว่าตอนนี้เห็นได้ชัดว่าชีพจรของนางเป็นเพียงชีพจรตี้จิง แต่ถ้าหากเทียบกับชีพจรเทียนจิงที่นางเคยมีมาก่อนก็มิได้แตกต่างเท่าไรนัก

นี่มันต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน!

ฉู่หลิวเยว่เคยพบเห็นหมอเทวดาที่มีชีพจรตี้จิงมาก่อน ต่อให้พวกเขาฝึกฝนเป็นเวลานานหลายปี แต่พลังโดยกำเนิดของพวกเขาก็มีขีดจำกัด แล้วก็ไม่สามารถตามทันผู้ที่มีชีพจรเทียนจิงได้!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์