………………..
ผู้อาวุโสอี้อวี่สะกิดปลายเท้าถอยร่นลงไปทันทีโดยไม่ต้องคิด!
จากนั้นก็มีระลอกคลื่นสายหนึ่งแผ่กระจายออกมาจากกำแพงสีดำอย่างกะทันหัน!
ฟิ้ว…
เหมือนกับแม่น้ำไหลเชี่ยวกราก คลื่นทะเลสาดซัด!
พลังแห่งสวรรค์และโลกที่อยู่โดยรอบเหมือนได้รับแรงกระตุ้นจากพลังนี้จนทำให้พลังแห่งสวรรค์และโลกพวยพุ่งขึ้น!
ทันใดนั้นสัญลักษณ์ขนาดใหญ่ที่อยู่บนกำแพงก็เริ่มโคจรเคลื่อนที่ด้วยความรวดเร็ว!
ลมปราณอันทรงพลังและบ้าคลั่งพวยพุ่งออกมาจากภายใน!
หนานอีฝานและคนอื่นๆ เป็นกลุ่มแรกที่ประสบกับภัยพิบัติเหล่านี้!
พวกเขาทั้งหลายยังไม่ทันได้วางม่านพลัง แต่ก็ถูกพลังที่น่าหวาดกลัวนี้เข้าปกคลุมเสียแล้ว!
ภายใต้การโจมตีของพลังนี้ เงาร่างของพวกเขาทั้งหลายลอยกระเด็นออกไปภายในเสี้ยววินาที!
ท่ามกลางความสิ้นหวังหนานอีฝานก็รีบลากหนานอวี่สิงออกมา
แต่เขายังไม่ทันได้ลากใครมา พวกเขาก็ต้องประสบภัยแล้ว!
ตู้ม!
พวกเขาทั้งหลายทยอยล้มลงทีละคน!
หน้าอกของหนานอวี่สิงกระเพื่อม ก่อนจะกระอักเลือดออกมาหนึ่งคำ!
“อวี่สิง!”
“พี่ใหญ่!”
หนานอีฝานและคนอื่นๆ พยายามดิ้นรนจะลุกขึ้น แต่เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ตับของเขาก็แทบจะแตกสลาย!
อย่างใดก็ตามในขณะนี้เงาร่างหลายสายพุ่งตัวออกมาจากกำแพงสีดำแห่งนี้ทีละร่าง!
ตอนที่เขากำลังจะช่วยพยุงร่างของหนานอวี่สิงและพาตัวออกไป ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
แกร๊ก!
เหมือนว่าเป็นของบางอย่างกำลังแตกสลาย
หนานอีฝานนึกอันใดขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ!
เขารีบหยิบจี้หยกออกมาอย่างรวดเร็ว!
ประกายแสงสี่ดวงที่อยู่ภายใน ตอนนี้เหลือเพียงสามดวงเท่านั้น!
ประกายแสงของผู้อาวุโสไป๋ถงได้แตกสลายไปแล้ว!
ผู้อาวุโสไป๋ถง…สิ้นแล้ว!
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
ผู้อาวุโสที่เหลืออีกสองท่านรีบเดินเข้ามาทันที
“ผู้อาวุโสอูเผิง ท่านเป็นอย่างใดบ้าง?”
แม้ว่าผู้อาวุโสอูเผิงยังมีสติอยู่ แต่ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยคราบเลือด ลมปราณอ่อนแรง เห็นได้ชัดว่าบาดเจ็บสาหัส
ผู้อาวุโสจิ่นเฮ่อรีบช่วยรักษาบาดแผลในทันที
ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งเดินไปที่ข้างกายของผู้อาวุโสไป๋ถง จากนั้นก็พบว่าเขาไม่มีลมหายใจอยู่แล้ว
เขาหันไปมองใบหน้าของหนานอีฝานด้วยความตื่นตระหนก
“ท่านประมุข ผู้อาวุโสไป๋ถงเขา…”
หนานอีฝานหลับตาลงแล้วโบกมือขึ้น
ผู้อาวุโสท่านนั้นเข้าใจในความหมายของเขาทันที จึงรีบย้ายศพของผู้อาวุโสไป๋ถงไปด้านข้างด้วยหัวใจที่จมดิ่ง หลังจากเตรียมการเสร็จแล้วค่อยนำกลับไปฝัง
หนานอีฝานเหลือบสายตามองจากหางตา เขาถึงได้เห็นว่าขาของผู้อาวุโสไป๋ถงถูกคนตัดจนขาด
เขาขมวดคิ้วขึ้นมา
หนานอีอีลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
เมื่อครู่นี้นางพูดเพียงว่าผู้อาวุโสไป๋ถงได้รับบาดเจ็บระหว่างต่อสู้กับซั่งกวนเยว่ แต่กลับไม่ได้บอกอย่างละเอียดว่าหรงซิวเป็นคนตัดขาของผู้อาวุโสไป๋ถง
“คือว่า…”
นางยังไม่ทันได้อธิบาย ภายในกำแพงสีดำก็มีร่างเงาอีกหนึ่งร่างเดินออกมา!
หนานอีอีหันไปมองทันทีโดยไม่รู้ตัว จากนั้นดวงตาของนางก็เปล่งประกายขึ้น
“อาลั่วเหยี่ยน!”
คนผู้นั้นล้มลงกับพื้น ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งพยุงร่างให้ลุกขึ้นยืน ถ้าไม่ใช่ลั่วเหยี่ยน แล้วจะเป็นใครได้?
เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วเหยี่ยนก็เงยหน้าขึ้นมามอง
เขามองเห็นหนานอีอีเป็นคนแรก ภายในใจจึงรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา
จากนั้นเขาก็กวาดสายตาเพียงเล็กน้อย พร้อมเห็นว่ามีหนานอีฝานและคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ด้านข้าง
ที่แท้พวกเขาก็ออกมาแล้ว…
ลั่วเหยี่ยนเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก ในตอนที่เขากำลังจะเดินเข้าไปหา ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกหนาวสะท้านทั้งร่างกาย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...