………………..
ทันใดนั้นหนานอีอีก็หัวเราะขึ้นเสียงเย็น
คาดไม่ถึงว่าเขายังจะกล้าถามคำถามนี้ออกมาอีก?
“เจ้าสำนักหนาน ลูกศิษย์ที่รักของท่านทำเรื่องงามหน้าอันใดไว้ หรือว่าท่านยังไม่รู้อีกหรือ?”
ทำพันธสัญญากับหงส์ทองคำตัวหนึ่ง…นางอยากตายมากใช่หรือไม่?
หนานซู่ไหวได้ยินดังนั้นก็ชะงักไปเล็กน้อย
เขาสามารถเดาออกว่าหนานอีอีกำลังหมายถึงอันใด แต่ว่า…
เรื่องนี้มันแก้ไขเสร็จสิ้นไปกันแล้วไม่ใช่หรือ?
หรงซิวส่งจดหมายมาบอกพวกเขาว่า นังหนูเยว่เออร์พาถวนจื่อออกจากภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน!
เขาจึงคิดมาตลอดว่าเรื่องนี้จัดการได้เรียบร้อยแล้ว
หรือว่า…จะเป็นเขาที่คาดเดาผิดพลาด?
อี้เจาพูดขึ้นเสียงเรียบ
“ข้ามาหาซั่งกวนเยว่กับถวนจื่อจริงๆ”
หัวใจของหนานซู่ไหวจมดิ่งไปเล็กน้อย
นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่?
ถ้าผลลัพธ์ไม่เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย อี้เจาไม่มีทางยอมปล่อยคนออกมาแน่นอน อีกครั้งเขายังอนุญาตให้ถวนจื่อเดินทางออกมาพร้อมกันด้วย
แล้วตอนนี้เหตุใดถึง…
หนานซู่ไหวมองอีกฝ่ายด้วยความระมัดระวัง
สีหน้าของอี้เจา…ราบเรียบ ไม่สามารถคาดเดาอันใดได้
ในตอนนั้นเขาจึงรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย
สายตาของผู้อาวุโสอี้อวี่หันไปมองทางฉู่หนิง และมีท่าทีประหลาดใจเล็กน้อย
หนานซู่ไหวขมวดคิ้วขึ้น
มุมปากของผู้อาวุโสอี้อวี่ยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม จากนั้นก็เบนสายตาออกมา
ผู้ชายคนนี้จะต้องเป็นคนที่ซั่งกวนเยว่มาตามหาที่สุสานสังหารเทพแน่นอน
เมื่อฟังจากคำพูดของหนานอีอีเมื่อครู่นี้ ซั่งกวนเยว่เรียกขานอีกฝ่ายว่า “ท่านพ่อ” พวกเขาก็น่าจะมีความสัมพันธ์พ่อลูกกันละมั้ง
เขาเป็นเพียงจอมยุทธ์ระดับหนึ่ง แต่กลับมีอาณาเขตเทพเซียน…
หากเดาไม่ผิดแล้วละก็ เขาจะต้องมีร่างศักดิ์สิทธิ์อมตะแน่นอน
เดิมทีซั่งกวนเยว่ก็ทำให้ผู้คนประหลาดใจได้มากอยู่แล้ว คาดไม่ถึงว่าบิดาของนางผู้นี้ ก็จะไม่ธรรมดาเหมือนกัน
ครอบครัวนี้ช่าง…
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสอี้อวี่ถอนสายตาออกไปแล้ว ทำให้มั่นใจได้ว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาจะมาหาเรื่อง หนานซู่ไหวจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก
เขาเหลือบสายตาไปมองฉู่หนิงที่อยู่ด้านข้าง ก็พบว่าอีกฝ่ายมีสีหน้าราบเรียบ เหมือนว่าจะไม่ได้เก็บเรื่องราวเหล่านี้มาใส่ใจเลย
หนานซู่ไหวขยับเข้าไปใกล้อย่างอดไม่ได้ ก่อนจะถามขึ้นเสียงต่ำว่า
“ฉู่หนิง หรือว่าเจ้าจะไม่เป็นห่วงพวกนางเลยสักนิด?”
ฉู่หนิงชะงักไปเล็กน้อย
“เป็นห่วง? เป็นห่วงอันใด?”
หนานซู่ไหวสะอึกไป ก่อนจะเบี่ยงสายตาออกมา
“…สองคนนั้น คือประมุขและผู้อาวุโสลำดับที่ห้าแห่งเผ่าหงส์ทองคำนะ”
ฉู่หนิงพยักหน้า
“ข้ารู้แล้ว! แล้วอย่างใดเล่า?”
แล้วอย่างใดเล่า?
ไม่ใช่ว่าฉู่หนิงจะไม่รู้ว่านังหนูเยว่เออร์ทำพันธสัญญากับหงส์ทองคำตัวหนึ่งจะต้องมีปัญหาตามมามากมายเพียงใด?
“ถวนจื่อ ถวนจื่อน่ะ!”
ฉู่หนิงกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะมองท่าทางตื่นตระหนกของหนานซู่ไหว ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจอันใดบางอย่างขึ้นมา
“เจ้าสำนักหนาน หรือว่าท่านยังไม่รู้ว่า…”
ตู้ม!
เขายังพูดไม่ทันจบ เสียงปะทะกันของพลังที่รุนแรงก็ดังขึ้น!
ทุกคนหันกลับไปมองโดยพร้อมเพรียง จากนั้นก็มีเงาร่างสองร่างพุ่งตัวออกมาจากกำแพงสีดำ
เงาร่างที่อยู่ด้านหน้าเป็นภาพมายาของมนุษย์ รูปร่างโปร่งแสง คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเพียงวิญญาณหนึ่งตน
ด้านหลังของเงาร่างผู้นั้น เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางเคร่งขรึม จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้พวยพุ่ง!
ซึ่งคนผู้นั้นก็คือซั่งกวนจิ้ง!
ดูจากท่าทางแล้ว คนทั้งสองกำลังต่อสู้ฆ่าฟันกันอยู่
อีกทั้งเห็นได้ชัดว่าซั่งกวนจิ้งเป็นฝ่ายได้เปรียบ ลมปราณของวิญญาณตนนั้นแปรปรวนและท่าทางจะต้านทานเอาไว้ไม่ไหวแล้ว
ภาพเหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...