………………..
กระแสเสียงนั้นเย็นชาและราบเรียบ แต่ยังแฝงด้วยแรงกดดันอันมหาศาลที่ไม่มีใครกล้าฝ่าฝืน!
ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนั้นจึงหันมองตามเสียงโดยไม่รู้ตัว
พลังที่อยู่โดยรอบสัญลักษณ์ขนาดใหญ่บนกำแพงสีดำแผ่กระจายออกมาอีกครั้งหนึ่งแล้ว!
ความว่างเปล่าก็ผันผวนตามไปด้วย!
ทันใดนั้นเองเงาร่างสูงใหญ่ก็เดินออกมาจากภายในนั้น!
คนที่เดินออกมามีใบหน้างดงาม ท่าทางสูงส่ง สวมชุดสีขาวหิมะ สะอาดบริสุทธิ์
แต่ทันใดนั้นเองรอบข้างเขาเหมือนจะหม่นแสงลงในทันที ลมปราณของฟ้าดินทั้งหมด รวมตัวกันอยู่ที่คนผู้นี้แล้ว
ทุกคนเงียบเสียงไปครู่หนึ่ง
ชายคนนั้นเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย แววตาลึกล้ำราวกับมหาสมุทร พร้อมกวาดสายตามองทุกคนอย่างเงียบเชียบ
เห็นได้ชัดว่าเป็นสายตาที่ไม่แยแสสนใจ แต่กลับเหมือนแรงกดดันที่หนาทึบ จนทำให้ผู้คนไม่กล้าสบสายตามองตรงๆ!
ตอนที่เขาปรากฏขึ้นในครั้งแรก เขายังดูเหมือนกับเทพเซียนที่จุติลงมา
แต่ตอนที่เห็นดวงตาทั้งสองข้างของเขา พวกเขาถึงรู้สึกตกใจขึ้นมา…
ภาพลวงตา!
ก่อนหน้านี้เป็นเพียงแค่ภาพลวงตา!
นี่ไม่ใช่เทพเซียนที่ลงมาจากเก้าชั้นฟ้า เห็นได้ชัดว่าเป็นปีศาจที่เดินออกมาจากเปลวเพลิงในขุมนรก!
แต่ความรู้สึกเหล่านี้ก็เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น
สายตาของหรงซิวขยับไปมาเล็กน้อย จิตสังหารและกลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นนั้นก็จางหายไปอย่างไร้ร่องรอย!
ตอนที่หันกลับไปมองอีกครั้ง ดวงตาคู่นั้นก็กลับคืนสู่ความสงบและอ่อนโยน ทั้งเฉยเมินและแบ่งแยกตามปกติแล้ว
“หรงซิว!”
เขาพยักหน้าเบาๆ ให้กับหนานซู่ไหวและคนอื่นๆ เพื่อแสดงให้เห็นว่าตนเองไม่ได้เป็นอันใด
จากนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้วหันมองไปทางอวี๋หงซานและซั่งกวนจิ้ง
ตั้งแต่เขาออกมา ทั้งสองคนนี้ก็หยุดต่อสู้กันไปชั่วครู่แล้ว
เขาสัมผัสได้ถึงสายตาเย็นชาของหรงซิวที่กำลังมองมาทางเขา ทำให้อวี๋หงซานหัวใจสั่นสะท้านไปในทันที!
อันตราย!
ต่อให้เป็นซั่งกวนจิ้งก็ไม่สามารถสร้างแรงคุกคามแก่เขาได้มากขนาดนี้!
จิตใจของอวี๋หงซานกำลังสั่นคลอน
ชายผู้นี้มีชื่อว่าหรงซิว เหมือนจะอายุยี่สิบต้นๆ เท่านั้น
แต่ฝีมือของเขากับลึกล้ำเกินหยั่งถึง!
แม้กระทั่งเขาก็ไม่สามารถตรวจสอบได้!
แต่ประเด็นสำคัญเลยก็คือ…มีคนมากมายออกมาจากด้านใน แต่กลับมีเพียงหรงซิวคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย!
เรื่องนี้ทำให้อวี๋หงซานต้องรู้สึกระวังตัวมากขึ้น
“ผู้อาวุโสซั่งกวน คนผู้นี้คือคนที่ท่านเคยทรยศหักหลังท่านใช่หรือไม่?”
หรงซิวถามขึ้นเสียงเรียบ
ซั่งกวนจิ้งจึงได้สติกลับคืนมา จากนั้นก็พยักหน้าขึ้นลง
เขาสามารถสัมผัสได้อย่างเลือนรางว่าหรงซิวมีอันใดเปลี่ยนแปลงไป แต่กลับพูดไม่ออกว่าที่ใดที่แตกต่างออกไป
หรงซิวพยักหน้า
“เช่นนั้นก็เชิญท่านตามสบาย”
คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะยังมีชีวิตอยู่
แต่เป็นเช่นนี้ก็ดี ซั่งกวนจิ้งจะได้จัดการปัญหาด้วยตนเอง และแก้แค้นเรื่องราวในปีนั้น
“ท่านวางใจเถอะ ที่แห่งนี้ไม่มีใครกล้ายื่นมือไปยุ่งเรื่องของท่านแน่นอน ท่านอยากจะจัดการเขาอย่างใดก็ตามสบาย”
หัวใจของซั่งกวนจิ้งสั่นไหวเล็กน้อย
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าตรงไหนที่ผิดปกติไป!
…ตอนที่หรงซิวกำลังพูด เขาใช้เพียงประโยคบอกเล่า น้ำเสียงแน่วแน่เด่นชัด เหมือนว่าไม่ได้สนใจคำคัดค้านของคนรอบข้าง
หากพูดตรงๆ ก็คือ หรงซิวพูดให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นฟัง!
ซึ่งนี่คือคำสั่ง!
ซั่งกวนจิ้งรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
เขารู้ว่าหรงซิวมีฐานะสูงส่ง และเป็นคนที่เย่อหยิ่งจองหองอยู่เสมอ
แต่ที่แห่งนี้ นอกจากเขาแล้ว ยังมีหนานอีฝาน ประมุขตระกูลหนาน!
ฐานะของตระกูลหนานนั้นสูงส่งกว่าพระราชวังเมฆาสวรรค์เสียอีก!
เมื่อเขาพูดเช่นนี้ หนานอีฝาน…
ซั่งกวนจิ้งเหลือบสายตามองหนานอีฝานทันที จากนั้นเขาก็ชะงักไปเล็กน้อย
เหมือนว่าท่าทางของหนานอีฝานจะผิดปกติไปเล็กน้อย?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
ขอบคุณมากค่ะ สนุกมากกกค่ะ...
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...