ยามราตรีอันเงียบสงัด ณ ห้องหนังสือ จวนหลีอ๋อง
หรงซิวยืนเอามือไพล่หลังอยู่หน้าชั้นหนังสือ ก่อนจะหยิบหนังสือขึ้นมาอย่างระมัดระวัง
“หนังสือทั้งสองชั้นข้างบนถูกย้ายไปทั้งหมดแล้ว แล้วขนเอาชีวประวัติที่ข้าชอบอ่านหลายเล่มตามไปด้วย”
อวี๋ม่อรับคำ ก่อนจะก้าวเข้าไปข้างหน้าแล้วเก็นหนังสือทีละเล่มอย่างระมัดระวัง
เยี่ยนชิงมองผู้เป็นนายด้วยความลังเล
“องค์ชาย พระองค์จะเสด็จไปประทับที่สำนักเทียนลู่จริงๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ”
หรงซิวเหลือบมองเขา
“ทำไมเล่า มีปัญหาอันใดหรือ”
“กระหม่อมมิบังอาจ! เพียงแต่…คนในสำนักเทียนลู่หูตาเป็นสับปะรด เกรงว่าอาจจะทำอะไรหลายๆ อย่างไม่สะดวกเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ
เยี่ยนชิงคิดไม่ถึงว่าผู้เป็นนายเสด็จข้าวังในครั้งนี้จะตัดสินใจไปที่สำนักเทียนลู่ เขาไม่ทันได้ตั้งตัวจริงๆ
อวี๋ม่อลอบส่งสายตามาให้เงียบๆ
เจ้านี่โง่เขลาจริงๆ!
เหตุใดองค์ชายถึงเสด็จไปสำนักเทียนลู่ ผู้อื่นไม่รู้ไม่ว่า แต่แม้กระทั่งเจ้ายังไม่รู้อีกหรือ
เยี่ยนชิงปวดกบาล
ตั้งแต่ที่องค์ชายเสด็จกลับมาจากบรรพตวั่นหลังด้วยสภาพเปื้อนเลือดไปทั้งร่างเมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากนั่งเงียบๆ ในห้องหนังสือตลอดทั้งคืน เขาก็พอจะรู้ถึงความเคลื่อนไหวของผู้เป็นนาย
แต่เขาจะไปคาดคิดได้อย่างไรว่าจะใช้กลยุทธ์ถอนฟืนใต้กระทะ
อวี๋ม่อส่ายหน้า
อะไรก็ตามที่องค์ชายทรงอยากทำ พวกเขาสามารถขัดขวางได้ด้วยหรือ
เยี่ยนชิงถอนหายใจอย่างหนัก
“อยากพูดสิ่งใดก็พูดมาสิ” จู่ๆ หรงซิวก็เอ่ยขึ้น
เยี่ยนชิงรู้ดีว่าไม่สามารถปิดบังความคิดกับผู้เป็นนายได้ ดังนั้นเขาจึงกล่าวออกไปตามตรง
“องค์ชาย ถ้าหากพระองค์ทรงเป็นห่วงคุณหนูหลิวเยว่ พระองค์ลอบส่งคนไปคุ้มครองเยอะๆ ก็ได้ จำเป็นต้องเสด็จด้วยพระองค์เองด้วยหรือพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้รัชทายาทถูกกักบริเวณ องค์ชายสามต้องอยู่ในเมืองหลวงห้ามกลับค่ายทหารซีเป่ย เพลานี้เป็นช่วงคับขัน หากพระองค์ทรงเคลื่อนไหวมากเช่นนี้ มันไม่ปลอดภัยต่อพระองค์จริงๆ นะพ่ะย่ะค่ะ!”
หรงซิวมองเขาเงียบๆ
“ยังมีอีกไหม”
เยี่ยนชิงลังเลครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า
เขากังวลเรื่องความปลอดภัยของเจ้านายเป็นหลัก
แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเจ้านายของเขาแข็งแกร่งและทรงพลัง แต่การทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายนั้นไม่ใช่วิสัยปกติของเจ้านายจริงๆ
“ในเมื่อพูดจบแล้วก็ไปช่วยอวี๋ม่อเก็บของซะ”
“องค์ชาย”
เยี่ยนชิงอยากจะเถียงอีก แต่เมื่อเห็นสีหน้าของหรงซิวแล้วก็รู้ทันทีว่าต่อให้พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงต้องยอม
“พ่ะย่ะค่ะ”
หรงซิวเคาะโต๊ะ
“วันนี้นางไปที่หอโอสถสวรรค์หรือ เหตุใดเหยียนเก๋อถึงไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เลยล่ะ”
อวี๋ม่อรีบเอ่ยตอบ
“องค์ชาย เหยียนเก๋อบอกว่า เขาไม่ได้รับข่าวจากคุณหนูหลิวเยว่เลยพ่ะย่ะค่ะ คิดดูแล้ว น่าจะเป็นเพราะคุณหนูหลิวเยว่จงใจไปที่หอโอสถสวรรค์พ่ะย่ะค่ะ”
หรงซิวตอบ “อืม” เสียงเรียบ
“เจ้ารู้ไหมว่านางต้องการยาพวกนั้นไปทำสิ่งใด”
อวี๋ม่อและเยี่ยนชิงหันมาสบตากัน
“เรื่องนี้…กระหม่อมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ”
หรงซิวเลิกคิ้วขึ้น
ของขวัญที่ทางเจินเป่าเก๋อส่งไปให้เมื่อคราวก่อนก็มียาราคาแพงรวมอยู่ในนั้นจำนวนไม่น้อย
ไม่มีทางที่ฉู่หลิวเยว่จะไม่รู้ว่าถ้าหากต้องการอะไร นางไปที่เจินเป่าเก๋อจะสะดวกกว่า
แต่นางต้องไปหอโอสถสวรรค์ให้ตงได้ เช่นนั้นนางก็ต้องไปโดยมีเจตนา
“ไม่รู้จริงๆ หรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์